ตอนที่ 8
“รู้สิ! เธอชื่อว่าริสาทำงานอยู่ที่พารากอน ที่เดียวกับพี่เอง พี่เจอเคยเขาไปมาหาสู่กันบ่อย เธอเปิดบูธหนังสือใกล้กับกับที่บูธของพี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตอนแรกพี่ไม่คิดว่าผู้ชายคนที่มาหาริสาจะเป็นคู่หมั้นของเบญ” จากนั้นเขมทัศน์ก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟัง ว่าคนที่ส่งรูปภาพพวกนั้นก็คือริสาแฟนอีกคนหนึ่งของราเชน
“พี่เขม!!! เบญต้องการเข้าห้องน้ำ” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็รีบลุกขึ้น
“ได้สิ!!..ตรงไปสุดทางแล้วเลี้ยวขวา” หญิงสาวลุกขึ้นมาเธอก็เดินเซ จนเขาต้องรีบไปคว้าตัวเธอเอาไว้
“ให้พี่พาไปดีกว่านะ เดี๋ยวจะล้มหัวฟาดเอา”
“ค่ะ” หญิงสาวพลางสาวเท้ายาว ๆ เข้าห้องน้ำไป พร้อมด้วยท่าที่มุ่งมั่นและกลับมาออกมาในเวลาเพียงไม่นาน เธอพยายามทิ้งฮอร์โมนเพศหญิงจำนวนมากที่พลุ่งพล่านในตัวออกไป เขาเป็นผู้ชายที่เธออยู่ใกล้ ๆ แล้วอดใจไม่ไหวทุกครั้ง ให้ตายสิ!! นี่ขนาดเธอเสียใจเรื่องคู่หมั้นอยู่แท้ ๆ จะว่าเสียใจก็คงจะไม่เหมาะ พูดว่าเธอเสียดายเวลาสามปีมากกว่าแล้วก็เงินที่ราเชนขอยืมเธอเกือบทุก ๆ เดือน รวม ๆ แล้วก็หลายแสน
“เสียงโทรศัพท์ของเบญดังตลอดแต่พี่ไม่กล้ารับ” เขารีบบอกเผื่อว่าเธอจะโทรกลับตามเบอร์ที่ดังเมื่อสักครู่นี้ แต่หญิงสาวก็คิดว่าคงเป็นใครไปไม่ได้ ตอนนี้เธอไม่อยากเห็นแม้แต่รูปของเขาที่โชว์หราบนหน้าจอโทรศัพท์ของเธอด้วยซ้ำ
“ช่างมันเถอะ เรื่องของเบญกับเขามันจบไปแล้ว”
“................” เขามองหน้าเธอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยทำให้เบญตาสว่าง” หญิงสาวกล่าวขอบคุณเขา
“ไม่เป็นไรครับ พี่ยินดี และพี่ก็ดีใจที่น้องเบญไม่ได้โดนผู้ชายคนนั้นหลอก” คนฟังรู้สึกว่าตัวเองแก้มร้อนผ่าว เธอมองสบตากับเขาอย่างหวานซึ้ง และระหว่างที่ทั้งคู่สบตากันอยู่ เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น มันเป็นเสียงเรียกเข้าที่เธอจำเป็นต้องรับ เพราะนั่นคือเสียงโทรศัพท์ของคุณเปรมฤดีมารดาของเธอ
“เบญต้องขอตัวกลับก่อนนะคะ” หลังจากวางสายของมารดาเสร็จเธอก็รีบบอกกับเขาทันที และคิดว่าตัวเองต้องเคลียร์เรื่องทุกอย่างให้จบภายในวันพรุ่งนี้
“เดี๋ยวพี่เดินไปส่งข้างล่าง ฝนน่าจะหยุดแล้ว” แต่พอมายังที่จอดรถด้านล่าง ฝนก็ยังไม่หยุดตก เขาเลยบอกเธอว่าเขาจะขับมอเตอร์ไชด์ของเธอกลับไปคืนให้หลังจากที่ฝนหยุดตกแล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
รถยนต์สีดำคันหรูมาจอดที่หน้าบ้านของเธอเกือบรุ่งสาง เห็นมารดาของเธอที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน หญิงสูงวัยยิ้มให้คนทั้งคู่ก่อนจะหันไปสนใจกิจกรรมตัวเองต่อ
“ขอบคุณนะคะ..ที่มาส่ง” หญิงสาวเอ่ยออกมาเมื่อกําลังจะก้าวลงจากรถ ในใจอยากจะเอ่ยชวนให้เขาเข้าไปในบ้านด้วยซ้ำแต่ก็ไม่มีเหตุผลมากพอที่จะยกมาใช้ เธอยืนมองเขาขับรถออกไปก่อนจะเดินไปทักทายมารดา
“รอใส่บาตรก่อนดีมั้ยลูก”
“ไม่ล่ะคะ เบญยังไม่ได้นอนเลย” เธอบอกกับมารดา
“เบญ...ลูกไหวอยู่ใช่มั้ย!!!” ก่อนหน้านี้มารดาของเธอรู้เรื่องจากนุ๊กนิกเพื่อนสาวที่มาตามหาเบญญาภาถึงที่บ้านเพราะไม่รู้ว่าเพื่อนสาวของเธอออกไปกับใคร จนมารดาของเธอรีบโทรหาลูกสาวและตามให้เธอกลับบ้านก่อนหน้านี้
“ไหวค่ะแม่..เรื่องแค่นี้เอง รู้ก่อนแต่งก็ดีกว่าแต่งไปแล้วมารู้ทีหลัง” เสียงพูดดีของเธอดูไม่เหมือนคนเศร้า ทำให้มารดารู้สึกอุ่นใจขึ้นมา
“ทีแรกแม่ก็กลัวลูกเสียใจ เลยรีบโทรหา เจ้านุ๊กมันบอกว่าพลัดหลงกับลูกแม่ก็เป็นห่วงแทบแย่”
“ไม่ได้พลัดหลงหรอกค่ะ พอดีเบญเจอกับรุ่นพี่ที่รู้จักคนหนึ่งก็เลยไปปรับทุกข์กับเขา”
“หนูไปนอนเถอะ..ลูก” มารดารีบบอกลูกสาว ก่อนหน้านี้มารดาเค้นความจริงจากนุ๊กนิกเพื่อนของลูกสาว นุ๊กนิกจึงยอมบอกความจริง ในตอนนั้นนุ๊กนิกก็โทรหาเพื่อนรักอยู่ตลอด เพราะกลัวเพื่อนจะตกอยู่ในอันตรายหรือว่าอาจจะคิดสั้นเอาได้