เฉินฟงมองคนรักด้วยแววตาเย็นชา เขาไม่อยากพูดเรื่องไม่ดีของพ่อตาอีก เพราะถึงพูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา บางทีการเดินทางกลับเมืองไทย ในครั้งนี้ของสโรชาคงเป็นคำตอบที่ดีสำหรับการใช้ชีวิตคู่ในอนาคตของพวก
สโรชานั่งเงียบไปเมื่อฟังคำพูดของคนรัก เธอไม่เชื่อหรอกว่าบิดาจะไม่ยอมรับลูกสาวของเธอกับเขา ถึงท่านไม่ค่อยชอบเฉินฟงก็ใช่ว่าท่านไม่ชอบบุตรสาวของเธอเสียหน่อย
“คิดให้ดีก่อนตอบผม คุณเลือกได้แค่ทางเดียวเท่านั้น”
“ฉันไม่ต้องการเลือกมันสักข้อ คุณกลับเมืองไทยไปพร้อมกับฉันเลยดีกว่า คุณเองก็จะได้รู้ว่าคุณพ่อป่วยจริงหรือโกหก เพราะไม่ว่าเลือกข้อไหนมันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับฉัน”
หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ให้เธอเลือกทั้งสองไม่ได้หรือ เลือกกลับเมืองไทยเธอก็ต้องห่างลูก หากเลือกอยู่กับลูกและเขา เธอก็ต้องกลายเป็นลูกอกตัญญู สโรชามองคนรักด้วยแววตาเว้าวอน ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจเธอบ้าง
เฉินฟงเลิกคิ้วเล็กน้อย สังเกตสีหน้าของคนรักด้วยแววตาลุ่มลึก คำตอบที่หญิงสาวเลือกคงไม่ใช่คำตอบที่เขาต้องการ คงถึงเวลาแล้วที่เขากับสโรชาต้องเลิกกัน
การเดินทางกลับเมืองไทยในครั้งนี้ เขาเชื่อว่าตาแก่เหลี่ยมจัดคนนั้นคงไม่ยอมให้สโรชากลับมาอังกฤษอีกแน่นอน และคงหาทางขัดขวางไม่ยอมให้สโรชาบินไปหาเขาที่ปักกิ่งด้วย
“ผมก็รู้แล้วว่าคุณเลือกทางไหน ผมกับลูกจะรอคุณที่ปักกิ่ง คุณไปจัดการเคลียร์ปัญหากับคุณพ่อของคุณเถอะ ไม่ต้องห่วงผมกับลูก”
“ฉันขอโทษ”
สโรชาบอกคนรักเสียงเศร้า เธอไม่อยากทำแบบนี้เลย ถ้าไม่กลับเมืองไทยเธอก็คงกลายเป็นลูกอกตัญญู กลับไปจัดการปัญหาให้จบ
แล้วค่อยบินไปหาเฉินฟงกับลูกก็ยังไม่สาย บางทีเธอควรคุยเรื่องนี้กับบิดาเสียที ปล่อยเอาไว้มีแต่จะสร้างความไม่สบายใจให้ทั้งฝ่ายบิดาและฝ่ายคนรัก
“กลับไปเมืองไทยคราวนี้ ฉันจะคุยกับคุณพ่อให้เคลียร์กันไปเลย หากท่านไม่ยอมรับคุณกับลูกอีก ฉันคงต้องตัดสินใจออกจากตระกูลเตชสิทธิ์ แล้วกลับไปอยู่กับคุณและลูกที่ปักกิ่ง”
“ผมหวังว่าเรื่องคงจบด้วยดีนะกอบัว”
“ฉันอยากทำหน้าที่ลูกให้ดีที่สุดก่อน ฉันหวังว่าคุณพ่อคงเข้าใจและเห็นใจในความรักของพวกเรา ฉันจะบอกความจริงกับคุณพ่อทั้งหมด รวมทั้งเรื่องของน้องใบบัวด้วย”
ถ้าสารภาพความจริงกับบิดาทั้งหมด บางทีเรื่องอาจจบด้วยดีก็ได้ ยิ่งถ้าท่านได้เห็นหน้าหลานสาวคนแรก เธอเชื่อว่าความน่ารักของน้องใบบัวคงทำให้บิดาใจอ่อน สำหรับมารดาเธอสามารถคุยกันได้ อย่างไรเสียมารดาก็ต้องเข้าข้างเธออยู่แล้ว
เฉินฟงลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องนอนใหญ่ตรงไปยังห้องนอนเล็ก ที่ซึ่งตอนนี้มีบุตรสาวที่น่ารักของเขากำลังนอนหลับอย่างมีความสุข ใบหน้าหล่อคมสันฉายแววเจ็บปวดออกมาชัดเจน
สโรชาคงไม่คิดว่าผู้ให้กำเนิดกำลังวางแผนพรากเขากับเธอออกจากกัน ทั้งที่ตาแก่เหลี่ยมจัดคนนั้นรู้ว่าพวกเขามีลูกด้วยกัน แต่ก็ไม่เห็นตาแก่นั่นจะยอมให้เขากับสโรชาอยู่ด้วยกันเลย การจากกันครั้งนี้คงเป็นการจากกันตลอดชีวิต เขาเชื่อว่าผู้ชายอย่างกฤต เตชสิทธิ์ ไม่มีทางปล่อยให้บุตรสาวสุดที่รักกลับมาหาเขากับลูกได้อีก
แม้ตาแก่เหลี่ยมจัดนั่นจะรู้ว่าเขาเป็นลูกของใครก็ตามที เขาก็ไม่เห็นตาแก่นั่นจะกลัวแม้แต่น้อย กลับรังเกียจและพยายามขัดขวางความรักของเขากับสโรชาหนักยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
สโรชาหันไปมองคนรักที่เดินไปยังห้องของบุตรสาวด้วยสีหน้าเจ็บปวดไม่ต่างกัน ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าบิดาไม่ชอบเขา ตลอดสองปีที่ผ่านมาเธอพยายามทำให้ผู้เป็นบิดายอมรับในตัวของเฉินฟง
ทว่าสิ่งที่เธอทำกลับไม่สามารถลบความคิดของท่านได้ บางทีทุกอย่างคงถึงเวลาที่ต้องจัดการกับปัญหาเหล่านี้ให้จบลงเสียที ปล่อยเอาไว้มีแต่จะทำให้ทุกฝ่ายต้องทุกข์
‘ขอโทษนะฟงที่ฉันชอบทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ ฉันสัญญาว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะเอาแต่ใจตัวเอง ฉันเคลียร์กับคุณพ่อเรียบร้อยเมื่อไร ฉันจะบินไปหาคุณที่ปักกิ่งทันที’
///////////////
22 ปีต่อมา
เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ หลังจากเจ้าของคฤหาสน์สาวเดินลงมาจากชั้นสอง สายตาเหลือบมองสองหนุ่มหล่อที่ผู้เป็นบิดาส่งมาคอยดูแลเมื่อสี่ปีก่อนอย่างขุ่นเคือง
“อย่าทำแบบนี้สิครับ คำสั่งของบอสในครั้งนี้ผมรับไม่ได้เด็ดขาด”
ให้เขาตายเสียดีกว่าหากปล่อยให้ว่าที่หัวหน้าแก๊งมังกรดำออกไปเที่ยวในวันหยุดเพียงคนเดียว ชายหนุ่มทำหน้านิ่ง สบตามองผู้เป็นนายด้วยความมุ่งมั่น ไม่ว่าอย่างไรครั้งนี้เขาต้องไปด้วยให้จงได้
“แต่นี่วันหยุดของฉัน พวกคุณไม่เห็นต้องตามไปดูแลฉันก็ได้” เจ้าของเสียงหวานหันมาโวยวายใส่บอดี้การ์ดหน้ายักษ์อีกครั้ง ไม่ว่าพูดหรืออธิบายอย่างไร ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ยอมฟังเสียที
“บอสครับ นี่เป็นคำสั่งของนายใหญ่นะครับ”
“พอเลยคุณเทียน ฉันยี่สิบสองแล้วนะ อีกไม่กี่เดือนฉันก็เรียนจบแล้ว ทำไมคุณถึงไม่ยอมปล่อยให้ฉันออกไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง”
“ผมก็ปล่อยให้บอสไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ใช่หรือครับ”
ชายหนุ่มเจ้าของชื่อเทียนเอ่ยกับเจ้านายสาวอย่างเคร่งขรึม ถึงสาวน้อยคนนี้จะเป็นว่าที่หัวหน้าแก๊งมังกรดำในอนาคต เขาก็ไม่คิดจะปล่อยให้ไปไหนคนเดียวแน่ นายใหญ่สั่งเขาให้คอยปกป้องและคุ้มครองหญิงสาวให้ปลอดภัยจากศัตรูหรืออันตรายอื่นๆ ที่เข้ามาใกล้
“แต่คุณยังแอบสะกดรอยตามฉันตลอดไม่ใช่หรือไง” ให้เธอไปเที่ยวกับเพื่อนที่ไหนกัน ทุกที่ที่เธอไปก็มักจะมีผู้ชายคนนี้อยู่ด้วยเสมอ พร้อมกับบอดี้การ์ดคนอื่นอีกหลายคน
“คุณเหลียนคะ ใกล้เวลานัดแล้วนะคะ” หญิงสาวร่างเล็กบอกด้วยสีหน้ากังวล สองมือถือกระเป๋าสะพายและหมวกของเจ้านายสาวติดมือมาด้วย
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมคุณญา อย่าเรียกฉันแบบนั้น” หญิงสาวหันไปตำหนิบอดี้การ์ดอีกคนอย่างไม่พอใจ
“ขอโทษค่ะคุณใบบัว” อรัญญาก้มหน้าขอโทษอย่างสำนึกผิด ก่อนจะรีบส่งกระเป๋าสะพายและหมวกให้เจ้านายสาวอย่างรวดเร็ว
ใบบัว บุษกร รัชชานนท์ หรืออีกชื่อหนึ่งคือเฉินหงเหลียน ทายาทคนโตของเฉินฟง เจ้าพ่อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเอเชีย และยังเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของหัวหน้าแก๊งมังกรดำในปักกิ่ง ดวงตาคู่งามเหลือบมองผู้หญิงร่างเล็ก หน้าตาจิ้มลิ้มที่บิดาเพิ่งส่งมาให้ทำงานกับเธอเมื่อสามเดือนก่อนด้วยท่าทางครุ่นคิด ‘เพราะหน้าตาน่ารักและดูไร้เดียงสาแบบนี้หรือเปล่า คุณพ่อถึงส่งมาอยู่กับเรา บางทีคงส่งมาเพราะไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ตกเป็นเหยื่อของถิงฟง’ ก็หน้าตาน่ารักน่าถนอมขนาดนี้ เป็นใครก็อยากเก็บเอาไว้ข้างกายทั้งนั้น ไม่รู้ถิงฟงคิดยังไงถึงกล้าบุกเข้าห้องอรัญญา
“รีบไปกันเถอะคุณญา”
“ค่ะคุณใบบัว”
อรัญญาพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้ม สำหรับเธอแล้วไม่ว่าเจ้านายสาวผู้นี้สั่งให้ทำอะไรเธอก็ทำทั้งนั้น ขอเพียงไม่ต้องกลับไปอยู่ปักกิ่งก็พอ ที่สำคัญการที่เธอได้มายืนอยู่จุดนี้ ก็เพราะความกรุณาของผู้หญิงคนนี้
หลายปีก่อนเธอถูกจับตัวไปขายที่ฮ่องกง และได้เฉินหงเหลียนหรือคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเฉินช่วยชีวิตเอาไว้ ดูแลเธอมาตลอดหกปีที่ผ่านมา ส่งเสียเธอเรียนจนจบ ซ้ำยังส่งเงินไปซื้อคฤหาสน์รัชชานนท์คืนจากเจ้าหนี้ของบิดาและดูแลมารดาของเธอเป็นอย่างดี
//////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป