ตอนที่หนึ่ง :: บอส&เบลค

3092 คำ
         ภายในห้องกว้างทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ กอปรด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม่น้อยไม่มากชิ้นแต่ดูล้ำลึกซ้ำยังตระการตามากจนดูสมกับเป็นบริษัทชื่อดังก้องโลกอย่าง ซอฟต์แอนด์แกรม อิเล็คโทรนิค (S&G)                ใบหน้าชายหนุ่มที่ถูกแบ่งออกมามากกว่าสองสัญชาติ หยิบส่วนดีจากต้นสายมาอย่างละนิดละหน่อยผสมลงในตัวเขา ออกมาดูดีสมดุลได้สัดส่วนจนคนมองต้องเผลอหยุดหายใจในความหล่อเหลานั้น ตัดกลับสายตาที่ดูคมเฉียบลึกล้ำ จนวัตถุภายในห้องดูอ่อนนุ่มลงไปทันทีเมื่อเทียบกัน นิ้วยาวเรียวดูแข็งแกร่งของชายหนุ่มลูกเสี้ยวไทย ไต้หวัน อเมริกัน ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็คโทรนิครายใหญ่ติดหนึ่งในสามของโลก วางโทรศัพท์สมารท์โฟนรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นลงบนโต๊ะเบื้องหน้าก่อนจะแค่นยิ้มออกมาพร้อมเสียงฮึ เมื่อนึกถึงข้อความที่ส่งไปในแอปพลิเคชั่นสนทนายอดนิยมกับนางแบบสาวชื่อดังที่เขาคั่วมาเพื่อฆ่าเวลาเมื่อคืนก่อน                ‘มาหาผมภายในสามสิบนาที’                         แค่ประโยคสั้นๆ คล้ายเด็กเอาแต่ใจ แต่รับรองได้ว่าใครได้รับข้อความแบบนี้จากเบลค ก็แทบวิ่งแจ้นมาหาเขาทุกรายไป จะมีก็คงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ขัดใจเขาได้ทุกเรื่อง เดี๋ยวก่อนเถอะ เดี๋ยวได้รู้กัน                ผมสีน้ำตาลเข้มถูกมือของเจ้าตัวเสยขึ้นก่อนจะพาดแขนลงบนพนักพิง เอนลำตัวที่เผยผิวขาวจัดในชุดเสื้อเชิร์ตสีฟ้าครามลงกับพนักเก้าอี้ สายตานิ่งเรียบคล้ายกำลังใช้ความคิดอยู่ และเมื่อเวลาผ่านไปได้เพียงอึดใจ เขาก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกว่าหกฟุต ผละไปที่บาร์เครื่องดื่มแล้วลงมือรินบรั่นดีมาถือเอาไว้ กวัดแกว่งของเหลวในแก้ววนไปมา พร้อมกับความคิดวนเวียนในหัวนึกครึ้มอยากทำอะไรเล่นๆแก้เครียดสักหน่อยเมื่อผ่านงานใหญ่มาได้ เบลคอยากเล่นงานใครบางคน คนที่หลบหน้าไม่ยอมสบตาเขาตั้งแต่เห็นว่าเขาพานางแบบสาวสวยเข้ามาในห้อง ตาคมวาวเหลือบมองเวลาอีกครั้งเมื่อกะเอาไว้แล้วว่าเหมาะเจาะกับเวลาที่คาดไว้ แล้วลุกไปหาคอรีนที่นั่งยิ้มหวานมองเขาอยู่                “เดี๋ยวก่อนค่ะ เข้าไปไม่ได้นะคะ” นั่นล่ะเสียงของเธอ หวานละมุนลื่นหูนัก ถ้าเบลคเดาไม่พลาดคงกำลังห้ามเมลานีที่พยายามจะเข้ามาในห้องนี้อยู่เป็นแน่ ห้องที่เปรียบเสมือนสถานที่บัญชาการของ S&G บริษัทชื่อดังมูลค่าหลายพันล้านยูเอสดอลล่าในขณะนี้                “ทำไมฉันจะเข้าไปไม่ได้” สิ้นเสียงโต้เถียงเพียงเสี้ยววินาที ประตูห้องสีเงินด้านถูกเปิดผลัวะออกมาตามด้วยร่างระหงสมอาชีพนางแบบ เมลานีเดินกระแทกเท้าเข้ามาทันที เมื่อตาสีฟ้าของเจ้าหล่อนมองเห็นเจ้าของสถานที่ เธอส่งยิ้มหวานหยอดให้ทันที แต่กลับต้องหยุดลงเมื่อสบสายตากับหญิงสาวอีกคนที่เอียงตัวออกมาจากทางด้านหลังของเบลค                “บอสคะ คือ ฉันพยายามห้ามเธอแล้วค่ะ แต่...”อาลียารีบตามเข้ามาทันทีร้องบอกเสียงรนราน หน้าตาที่ซีดเซียวอยู่แล้วบดนี้ ยิ่งจางสีลงเมื่อสถานการณ์ในห้องดูท่าจะย่ำแย่จนตึงมือของตนเองแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน                “นี่มันอะไรกันเบลค ทำไมยัยหมวยมันมาอยู่ในห้องคุณคะ” เมลานีตวาดเสียงถามถึงนางแบบลูกครึ่งไต้หวันที่นั่งไขว่ห้างกระดิกเท้าริกๆ สบตายท้าทายอีกฝ่ายในห้องทำงานของชายที่ชื่อ ‘เบลค’ “ก็แล้วทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ในเมื่อเบลคชวนฉันมา” นางแบบหน้าหมวยอินเตอร์ลุกขึ้นยืนพูดคล้ายดังว่าตนเองมีภาษีดีกว่า แต่ดูเหมือนว่าเบลคจะไม่ได้สนใจสองนางแบบสาวที่ตั้งท่าจะกระโจนใส่กันเลยสักนิด เขาตวัดตามองอีกคนที่ยืนตัวลีบอยู่หน้าประตู เธอดูตัวเล็กบอบบางกว่าสองสาวในห้องนี้พอควร แต่เล็กๆแบบนี้ก็แสบนัก ทำให้เขาคลั่งจนแทบจะแย่อยู่แล้ว ออกปากถามสีหน้าเครียดจนเห็นได้ชัด                “เอมิลี่ไม่ได้บอกเธอเหรอลียา ว่าเธอมีหน้าที่อะไรบ้าง”                อาลียากลืนน้ำลายลงคอ เม้มปากแน่น “บอกแล้วค่ะ”                “นี่เธอจะทำงานชุ่ยๆแบบนี้อีกนานไหม กว่าเอมีลี่จะกลับมา ห๊ะ” เบลคเค้นเสียงถาม ท้ายประโยคตวาดจนทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันที                “เอ่อ คือฉันขอโทษค่ะบอส” อาลียาเม้มปากจนเป็นเส้นตรง เธอมีหน้าที่ทุกอย่างตามที่เลขานุการพึงกระทำ รวมไปถึงจัดคิวสาวๆของเจ้านายหนุ่มขี้วีนไม่ให้ชนกันด้วย                “ผิดพลาดครั้งนี้เธอจะไม่ถูกไล่ออกหรอกนะลียา แต่เอมิลี่จะต้องออกแทนเธอ” เบลคบอกด้วยเสียงทรงอำนาจโทนเสียงราบเรียบกดดันจนจบประโยค ก่อนส่งสายตาให้ลูกน้องทั้งสองคนให้เข้ามาจัดการกับสองสาวที่เขาใช้เป็นตัวประกอบฉาก เพื่อใช้หาเรื่องคนตัวเล็กที่ยืนให้เขาสาดคำพูดร้ายๆใส่ แต่แล้วเจ้าตัวกลับเหมือนจะไม่สะทกสะท้านเสียอย่างนั้น คนที่คอยหาเรื่องพาลหงุดหงิดขึ้นมาในทันที                “ไม่นะเบลค บอกไ****ดพวกนี้ให้ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” นางแบบคนมาก่อนอาละวาดขึ้น เมื่อชายผิวสีร่างสูงใหญ่เข้ามาคว้าต้นแขน แล้วพาออกไปจากห้อง ตามด้วยเสียงด่าทอเป็นภาษาอังกฤษของสองสาวสวยชื่อดังบนแคตวอร์ค เมื่อ ร็อบและโทนี่พาออกไปจนเหลือหญิงสาวเพียงคนเดียว อาลียาที่ยืนนิ่งอยู่ก็ทำท่าหันหลังคล้ายจะออกจากห้องไปบ้าง แต่เสียงเรียกทรงอำนาจแบบเดิมก็ดักเอาไว้ทันที “รอก่อน ลียา”                เมื่อเหลือแค่เขาและคนตัวเล็กในห้อง เบลควางแก้วลง เดินเข้ามาหาประหนึ่งเสือร้ายจ้องเขมือบเหยื่อ และเบลคเองก็แทบจะยับยั้งไม่ไหวอีกต่อไป “ฉันจะทำยังไงกับเธอดีฮึลียา เมื่อวานส่งแฟ้มรายงานผิดตอนประชุมบอร์ด...”                “คือว่า ฉันตรวจดูแล้วนะคะ แต่ไม่ทราบว่าทำไมถึงผิดเล่มได้” อาลียาแย้งขึ้นมาทันที เพราะเธอมั่นใจว่าตนเองไม่เคยทำงานพลาด แต่เหตุใดถึงได้เกิดเรื่องแบบนั้นได้ก็สุดจะคาดเดา                “มีคนคิดแกล้งเธออย่างนั้นเหรอลียา” เบลคถามทั้งที่ยังยืนหันหลังให้ ยิ้มเยาะเพราะเขาเองที่เป็นคนสลับแฟ้ม                “ฉันไม่...ไม่ทราบค่ะ แต่ฉันมั่นใจนะคะ ว่าตรวจทานแล้วจริงๆ” ร่างเล็กยืนก้มหน้างึมงำคล้ายพูดกับตนเองแต่ก็คล้ายจะบอกเขาด้วย มือน้อยๆบีบกันแน่นเมื่อนึกถึงความผิดพลาดที่เบลคบอก มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลยนี่นา                “วันก่อนก็ยังนัดวันให้ลูกค้าพลาดอีก” เบลคหมายถึงวันก่อนที่เขาต้องคลาดกับลูกค้าดีที่ไม่ได้สลักสำคัญเท่าใดนัก ทำท่าทางคล้ายว่าเป็นเพราะคนตรงหน้าบอกเวลาผิดพลาดแต่แท้จริงเป็นเขาเองที่ขาดการติดต่อ                “อันนั้นฉันก็ไม่ได้...” คนที่มั่นใจว่าตนเองไม่ได้นัดพลาด แต่เพราะเบลคที่จำเวลาผิดเอง แถมยังปิดโทรศัพท์หนีหลังจากจบปาร์ตี้กับสาวๆ ทำให้ตามตัวไม่ได้ จนทำให้คลาดนัดกับลูกค้าจนเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา                “แก้ตัวเก่งนะ งานที่นี่รู้ไหม มูลค่ามันเท่าไร เงินเดือนเธอกี่เดือนถึงจะชดใช้มันได้ลียา”                “ฉันขอรับผิดชอบทั้งหมดเองค่ะ”                “รับผิดชอบทั้งหมดเหรอ ยังไงดีล่ะ”                “ฉันขอลาออกค่ะ”                “ง่ายเกินไปหรือเปล่า”                “แล้วบอสจะให้ฉันทำยังไงคะ”                “เข้าไปรอในห้องนั้น ทำหน้าที่แทนแม่นางแบบที่เธอจับสับลางให้ฉันไม่ทัน” เบลคชี้มือไปที่ประตูห้องพักผ่อนที่สร้างขึ้นไว้ด้านหลังห้องทำงานของเขา                “ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้มาทำงานที่นี่เพื่อทำอะไรทุเรศๆแบบนั้น” เบลคเข้ามาประชิด เมื่อเธอทำท่าจะเดินหนี ก่อนจะตวัดแขนที่ยาวกว่ารัดรอบเรือนร่างบอบบางให้เข้ามาแนบกาย กดจมูกสูดดมแก้มนวลนุ่มฟอดใหญ่ คนโดนกระทำร้องห้ามเสียงสั่น ด้วยรู้ดีว่าเขาจะทำอะไร “ปล่อยฉันนะเบลค”                “ไม่เรียกบอสแล้วเหรอ”                “ไม่ ฉันจะไม่ยอมทำงานให้คุณอีกแล้ว ไอ้ฝรั่งเฮงซวย ฉันบอกให้ปล่อย”                “แล้วถ้าฉันไม่ปล่อยล่ะ”                อาลียากัดริมฝีปากจนเจ็บ เธอเจ็บใจที่ยอมให้คนอย่างเขา “ฉันจะร้องให้คนช่วย”                “ใครจะช่วยเธอ” “ร็อบอย่างนั้นเหรอ” “ลืมแล้วหรือไงว่าเธอกับฉัน มันไม่ใช่ครั้งแรก”                “เบลค” เรียกชื่อเขาเสียงสั่นต่อด้วยผรุสวาทชนิดที่ตนเองคิดว่าหยาบที่สุดออกมา “คุณมันเลว”                “แน่นอน ฉันยอมรับว่าตัวเองมันเลว แล้วเธอล่ะลียา ยอมรับไหมว่าก็ชั่วไม่แพ้กัน แถมยังนอกใจผัวอีกต่างหาก”           “ฉันไม่มี เอ่อ ... ไม่เคยนอกใจใคร แล้วก็ไม่มีสามีด้วย”                เบลคกดมุมปากลึกลงไปอีก สายตาที่ส่งให้คนในอ้อมกอดยียวนได้น่าหมั่นไส้นัก เขาเอียงหน้าลงเล็กน้อย คล้ายจะส่งคำตอบด้วยท่าทางว่าเขานี่ไง คนที่เธอนอกใจ แต่อาลียาทำเมินไปเสียก่อนไม่อยากตกหลุมพรางที่เขามักจะดักเอาไว้ แล้วเปล่งเสียงใสๆที่จงใจด่าทอแบบไม่ไว้หน้า แต่เส้นเสียงกลับสั่นน้อยๆอย่างคนไม่เคยใช้วาจาหยาบคายมาก่อน                “ปล่อยฉันนะ ไอ้ฝรั่งสารเลว”                “ฉันปล่อยเธอแน่ลียา แต่ต้องหลังจากนี้นะ” ช่วงเวลาที่เขาบอก คือการที่มืออุ่นร้อนหยุบหยับเป็นปลาหมึกลูบไล้ปลุกเร้าไปจนทั่วเรือนกายของเธอ พร้อมใบหน้าหล่อเหลาที่ซุกไซ้ไปจนทั่วใบหน้าและลำคอกรุ่นกลิ่นกายแบบที่นางแบบพวกนั้นหรือพวกไหนๆไม่เคยมี                “หยุดนะเบลค ฉันขอร้อง”                “ลียา เธอรู้ดีว่าไม่มีทางที่ฉันจะหยุดจนกว่าฉันจะพอ”                “ไม่ได้นะเบลค มันไม่ควรเกิดขึ้นที่นี่”                “ฉันไม่สน สำหรับเธอที่ไหนก็ต้องได้ทั้งนั้น”                “เบลคอย่าค่ะ ได้โปรด” เสียงหวานที่พร่ำบอกให้เขาหยุด อ่อนลงพร้อมกับที่โดนเจ้าของห้องดึงดันกึ่งบังคับให้เข้าไปยังห้องที่ซ่อนไว้ภายในห้องทำงานโอ่โถงของซาตานในวงการไอทีอย่างเบลค                ประตูหนาหนักกระชากเปิดพร้อมๆกับชายหนุ่มใช้ไหล่ข้างหนึ่งกระแทกประตูปิดก่อนจะกึ่งลากกึ่งอุ้มเจ้าของห้องตรงไปยังห้องนอนเปิดโล่งแล้วโยนคนที่ออกปากว่าเขาลงบนเตียงหนานุ่มก่อนจะปิดประตูลง เขายังคงยืนอยู่ไม่ห่างจากประตูเท่าไรนัก กอดอกกวาดตามองคนที่ยันตัวขึ้นแล้วตั้งท่าจะหนี ดวงตาของเขายังคงเรียบนิ่งดุจน้ำในบ่อลึกที่มองไม่เห็นก้นบึง จึงไม่อาจคาดเดาความรู้สึกที่แท้จริงได้ อาลียาดันตัวลุกขึ้นนั่งมองหน้าเบลคด้วยดวงตาดำขลับ“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ เบลค!” “ยังคิดจะขอร้องอีกเหรอ” คำถามยียวนจากปากแดงสีสดของชายหนุ่มหล่อเหลาเจ้าของห้อง “คุณมันบ้า เลว! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะ...” “อย่างเธอจะทำอะไรได้ หืมลียา” เขาพูดพลางก้าวขึ้นเตียงพลาง มือทั้งสองข้างปลดกระดุมแขนแล้วไล่เลยมาปลดกระดุมเสื้อของตนจากบนลงล่างอย่างช้าๆทว่ามองดูมาดมั่นน่ายำเกรง “ทุเรศที่สุด รังแกผู้หญิง” อาลียาหลุดวาจาแผดไหม้ออกมาเท่าที่ตนเองจะนึกได้ กอปรกับสายตารังเกียจดูแคลนอย่างที่เขานึกไม่ถึง ทำให้ใบหน้าคมเข้มเคร่งเครียดขึ้นมาทันทีทันใด “ปากดีให้มันตลอดเถอะนะ ลียา” เสียงคำรามเล็ดลอดพร้อมกับร่างกำยำโถมเข้าทาบทับร่างนุ่มนิ่มบนเตียงกว้าง มือหนาอุ่นดึงทึ้งเสื้อผ้าที่แสนเรียบเชยให้พ้นเส้นทาง ก่อนทาบริมฝีปากร้อนผ่าวเคลื่อนขบย้ำทั่วเนื้อนวลเนียนอย่างคลั่งไคล้รุนแรง และคนถูกกระทำเองก็ไม่ได้ยอมจำนนอย่างง่ายๆ เธอดิ้นรนจนสุดแรงเกิด สองมือนุ่มน้อยทุบตีหยิกข่วนไปทั่วเนื้อตัวล่ำสันของเขาเช่นกัน “ชอบรังแกคนอ่อนแอกว่านักเหรอ คุณมันเลวที่สุด เบลค” ปากบริภาษด่าทอ ทั้งยังดิ้นรนต่อสู้ไม่ลดละ แม้ทั้งเนื้อตัวถูกปลดเปลื้องจนไม่เหลือสิ่งใดปกปิด แต่ก็ยังไม่ยอมลดราลงง่ายๆ คนถูกด่าทาบทับหน้าขากลมกลึงแนบแน่น โน้มตัวลงเพื่อตรึงสองแขนกลมกลึงเหนือศรีษะเจ้าของ ตาสีเทามองสำรวจเรือนร่างเปล่าเปลือยด้วยแววตาที่บ่งบอกความต้องการอย่างเด่นชัด ก่อนโน้มหน้าลงเชยชมเนินเนื้อนุ่มละมุนที่ลอยเด่นล่อหน้าล่อตาอยู่ตอนนี้ “ปล่อยนะ! หยุดเดี๋ยวนี้!” อาลียากระชากเสียงตวาดลั่น บ่งบอกอารมณ์เจ็บแค้นที่ส่งมาพร้อมสายตาหวานแต่เอาเรื่อง “ใครจะหยุดได้เล่าลียา” น้ำเสียงยั่วเย้าตอบกลับมาพร้อมปากหยักแดงสดอ้างับดูดดื่มยอดเต่งตูม ลมหายใจหน่วงหนักสลับเสียงครางพร่าต่ำแสดงความพึงใจไม่ปกปิด จนร่างงามใต้เขาสั่นเคลิ้มตมแรงอารมณ์ที่ถูกปลุกเร้า “ไม่ ไม่ ปล่อย! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะเบลค!” พอตั้งสติได้ อาลียาส่งเสียงสั่นพร่าแต่ไม่กร้าวเกร่งเหมือนเก่าห้ามปรามออกมาอีกครั้ง น้ำตาจากความเจ็บช้ำที่ถูกหักหาญน้ำใจค่อยๆไหลอาบลงช้าๆ ชายหนุ่มลากจุมพิตปาดเช็ดให้อย่างทะนุถนอม หน้าหวานเบือนหนีกิริยาเอาอกเอาใจนั้นทันที เธอหมดแรงดิ้นจนจำใจปล่อยตัวนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น มือใหญ่ยอมปล่อยแล้วทิ้งตัวนอนตั้งศอกไม่ให้น้ำหนักตัวของเขาทาบทับเธอจนเกินไป พร้อมประคองใบหน้างามจูบปลอบโยนที่หน้าผากเกลี้ยงเนียน กระซิบแผ่วเบาระหว่างเลื่อนริมฝีปากบดเบียดกลีบปากอิ่มนิ่ม “เธอเป็นของใคร หืม ลียา” เสียงครางพึงใจเล็ดลอดจากทั้งสองฝ่าย คนถามทาบทับท่อนกายส่วนล่างกับร่างงามบดเบียดอย่างต้องการปลุกเร้า มืออุ่นหนาเลื่อนไปลูบไล้ทั่วผิวไหล่เนียนนุ่มละมุนมือ หญิงสาวจูบตอบอย่างอ่อนหวานเมื่อถูกปลุกเร้าจนเต็มที่ หมดแรงต้านทานคนร่างยักษ์ที่คอยเอาเปรียบอยู่ร่ำๆ “ลียา เธอทำให้ฉันร้อนได้ตลอดเวลาเลยรู้มั้ย” ชายหนุ่มพึมพำปากลิ้นลากไล้หาใบหูอ่อนนุ่มนิ่มอย่างแสนเส่หา “อื้อ” สาวสวยครางกระเส่า ร่างบางบิดส่ายเร่าร้อนตอบสนองอย่างลืมอาย เขาเคลื่อนตัวเนิบนาบ แทรกตัวเข้าหาจนสุดทาง ดวงตาสีเทาส่งประกายวาววับสบประสานตาดำขลับหยาดเยิ้ม ลิ้นร้อนละเลียดโฉบโลมเลียกลีบปากนุ่มนิ่ม ดูดดึงสลับกันไปมาคล้ายคนหิวกระหาย บดเบียดความร้อนระอุจากกายแกร่งเข้ามาเสียดสีอย่างที่ต้องการเร่งเร้า “เบลค... ได้โปรด” สะโพกงอนงามร่อนส่ายหาอย่างที่ควบคุมตนเองไม่ได้ สองมือน้อยโอบกอดแผ่นหลังกว้างชื้นเหงื่อ ปลายนิ้วกดจิกผิวเรียบตึงเพรียกเสียงตอกย้ำอีกครา “เบลค” “อะไร” ชายหนุ่มพึมพรำกระซิบถามอย่างออดอ้อน จดจ่อกายแกร่งคลึงเค้นยั่วเย้าให้ไฟราคะถาโถมมากยิ่งขึ้น เจ้าของกายบางที่บัดนี้ร้อนไปทั่วร่างโอดครวญขอให้สนองตอบเสียที ขาเรียวยาวยกเกี่ยวต้นขาหนาอุ่นอย่างต้องการส่งสัญญาณทางกาย แอ่นยกทั้งตัวเข้าบดเบียดบ่งบอกความต้องการหลอมรวมให้เป็นหนึ่งเดียวกับเขา “เธอคือผู้หญิงของฉันลียา จำไว้” เสียงทุ่มแหบพร่าต่ำย้ำแรงปรารถนาครอบครองสุดหัวใจ ผลักดันกายใหญ่แทรกสอดแผ่วเบาอย่างต้องการถนอมคนใต้ร่าง ทั้งที่ใจจริงอยากพรวดพราดเสียดแทงให้ได้ดั่งใจต้องการ ร่างน้อยสั่นสะท้านตอบสนองเปิดทางรอด้วยใจระทึก ปากแดงจากจุมพิตของเขาครวญชื่อไม่หยุดหย่อน “เบลค เบลค” เมื่อสุดทางเจ้าของชื่อเรียกโยกขยับผลักดึงคลึงส่ายคล้ายจะให้ทะลุทะลวงเพิ่มความซ่านเสียวที่ได้แหวกว่ายสูบกลืนความเร่าร้อน พร้อมขยับเอวแข็งแรงกระชั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ “เบลค” เสียงหวานครางกระเส่าเรียกเรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า รสสวาทที่เคยลิ้มตรึงใจยากจะลืมเลือน ร่างงามไหวร่อนรับแรงกระแทกจาบจ้วงอย่างรู้จังหวะจะโคน คนจ้วงกระหยิ่มย่ามเกินอดใจสองมือใหญ่สอดใต้เข่ากลมกลึงยกประคองสะโพกผายเข้าหาจังหวะสอดเนื้อนิ่มชื้นปะทะเสียงดังลั่นสร้างแรงกำหนัดให้หวั่นไหว “โอ๊ะ!” ใบหน้าสวยหวานส่ายไปมา ไรผมชื้นฉ่ำด้วยหยาดเหงื่อที่ซึมออกมามากขึ้นทุทีตามแรงปรารถนา ครวญครางกระท่อนกระแท่น แอ่นร่างผวาไหวสั่นคลอน ส่ายสะบัดราวเจ็บปวดจากการถูกทารุณ เบลคจูบปัดป่ายทั่วผิวอ่อนนุ่มดั่งต้องการกลืนกินนวลเนื้อให้ครบทุกหยาดหยด กายแกร่งสาวจ้วงกระแทกกระทั้นเร็วขึ้นแรงขึ้นโยกคลอนจนสั่นระรัว                สองร่างพันเกี่ยวเหนี่ยวรับขับเคลื่อนเบียดบด อัดโถมคล้ายกับนี่คือสุดท้ายในการร่วมรัก ความปรารถนาล้นทะลักทะลาย ปลดปล่อยจ้วงแทงย้ำเข้าออกอย่างใจต้องการจนก่อนพ่ายแพ้จนถึงขีดสุด อาลียาผละออกจากอ้อมแขนของคนที่ผ่อนแรงปล่อยที่ขาออก อกแกร่งเจือไออุ่นและกลิ่นกายอย่างที่เธอคุ้นชินมานานหลายเดือน ตั้งแต่งานเลี้ยงคืนนั้นและเธอยอมตกเป็นของเขาอย่างง่ายดาย เพียงเพราะคำขู่เอาชีวิตพลจากเบลค “อย่าแม้แต่จะคิดหนีนะลียา” เบลคงึมงำบอกทั้งที่ยังนอนคว่ำหน้าอยู่ มือของเขาควานหาเจ้าของร่างนุ่มนิ่มไปด้วยพร้อมขู่อย่างเคย “ถ้าฉันไม่เห็นเธอมาทำงานวันพรุ่งนี้ สาบานได้เลยว่าฉันจะแยกชิ้นส่วนของมันส่งไปให้เธอดูถึงที่เลย”    
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม