แอบฟัง

1214 คำ
“อะไรเหรอครับ” “ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้พ่อรู้สึกว่ามันไม่ใช่ของลูกโดยแท้จริง คุณตาของไบรท์มักจะพูดว่าบริษัทนี้คือสิ่งที่เขาทำเพื่อไบรท์ นั่นก็หมายความว่าพ่อจะให้ลูกเป็นผู้บริหารระดับสูงสุดไม่ได้ ถึงทำได้พ่อก็รู้สึกไม่สบายใจสักนิด พ่อไม่อยากให้ลูกถูกครหาไม่ว่าด้วยเหตุผลใด พ่อจึงวางแผนหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก พ่อจ้างนักวิเคราะห์ให้ทำการวิเคราะห์ตลาดทั่วโลกมาหลายปี และสรุปได้ว่าประเทศไทยกับประเทศอินเดียคือประเทศที่เหมาะแก่การลงทุนมากที่สุด” “ผมไม่แต่งงานกับผู้หญิงอินเดียนะพ่อ ให้ตายผมก็ไม่เอาเด็ดขาด ผมเกลียดประเทศที่แบ่งชนชั้นวรรณะ ผมอยู่ที่นั่นไม่ได้หรอกครับ” เขารีบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เคร่งเครียด “พ่อรู้ว่าลูกต้องมีอาการแบบนี้ พ่อจึงตัดสินใจเลือกประเทศไทย และลูกก็ต้องช่วยพ่อสานฝันของแม่ลูกด้วย” บิดาชี้ไปที่รูปหญิงสาวทั้งห้าใบนั้น “เลือกมาสักคนที่ลูกพอใจ อีกสามเดือนลูกจะต้องแต่งงานกับเธอ” “ผมไม่เลือกเพราะผมไม่อยากแต่งงาน ผมยังไม่อยากมีเมีย ผมอยากมีแค่คู่นอนในบางครั้งบางคราวเท่านั้น” ถึงแม้จะซึ้งใจอยู่บ้างแต่เขาก็ยังไม่อยากแต่งงานอยู่ดี บิดาเริ่มโมโหความดื้อรั้นของลูกชายคนโต “ฉันว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ.. ถ้าแกไม่แต่งแกจะไม่ได้อะไรจากฉันแม้แต่อย่างเดียว แม้แต่เงินที่แกใช้อย่างสบายใจทุกๆ เดือน ฉันก็จะไม่ให้แกได้ใช้อีก” “ผมไม่ได้ใช้ฟรีๆ นะครับพ่อ ผมทำงานให้พ่อนะ” “ก็เพราะแกทำงานให้พ่อไง แกถึงได้ใช้เงินตามใจชอบแบบนี้ได้ แต่ถ้าแกไปทำงานที่อื่น แกจะได้เท่าไหร่กันเชียว” เขามองบิดาอย่างขัดใจเมื่อถูกท่านอ่านความคิดออกจนหมด “ผมเป็นลูกพ่อนะ” “แกก็น่าจะรู้นิสัยพ่อเหมือนกัน พ่อไม่เคยเลี้ยงแกแบบตามใจ แกจำสมัยที่แกไปเรียนต่อที่อเมริกาได้ไหม” ทำไมเขาจะจำไม่ได้ เขาไม่เคยใช้เงินพอเลยสักเดือนเพราะติดเที่ยว แต่เขาก็ไม่เคยได้เพิ่มจากท่านเหมือนกัน ไม่ว่าจะหาเหตุผลใดๆ มาอ้าง ประโยคเดิมๆ ที่ท่านพูดทุกครั้งก็คือ ถ้าอยากได้เงินเพิ่มให้ไปหางานทำด้วยตัวเอง จะได้รู้ว่าเงินแต่ละเหรียญนั้นกว่าจะหามาได้ต้องแลกกับความเหน็ดเหนื่อยเท่าใด แต่เขาก็ยังโชคดีที่มีแม่เลี้ยงใจดีคอยแอบให้การช่วยเหลือมาตลอดโดยที่พ่อไม่รู้ เขาจึงไม่ต้องกลายเป็นลูกจ้างของใคร “จำได้ครับ” “แกนึกว่าฉันไม่รู้หรือว่าคริสตินแอบส่งเงินให้แกใช้” “พ่อรู้เหรอ!” เขามั่นใจว่าแม่เลี้ยงที่แสนดีไม่ได้บอกเรื่องนี้กับบิดา “ฉันรู้แต่ฉันไม่พูด เพราะฉันรู้ว่าคริสตินรักและตามใจแกมาก แต่ครั้งนี้ฉันเตือนคริสตินไว้แล้วว่าอย่ามายุ่ง ไม่อย่างนั้นฉันจะไล่เธอออกจากบ้านเหมือนกัน” “พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง เธอเป็นเมียพ่อ เป็นแม่ของไบรท์นะ” “ฉันไม่ได้ทำแต่แกต่างหากที่เป็นคนทำ” “พ่อขู่ผม” “ฉันไม่ได้ขู่แต่ฉันพูดจริง ถ้าแกอยากเห็นแม่เลี้ยงที่แสนดีของแกเดินออกจากบ้านหลังนี้ไปพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าแกก็ไปขอร้องเธอสิ ฉันรับรองได้เลยว่าแกได้เห็นแน่” ...ถ้าพ่อไม่ทำแบบนี้ แกก็ต้องวิ่งไปซบอกแม่เลี้ยงที่แสนดีของแกอีกไบรอัน พ่อไม่อยากเห็นแม่เลี้ยงแกมาบีบน้ำตาอ้อนวอนพ่อ เพราะแกอีกแล้วไบรอัน เพราะแกไม่ใช่เด็กแล้วไบรอัน แกโตพอที่จะรับผิดชอบทุกอย่างด้วยตนเองได้แล้ว โรเบิร์ตคิดในใจ “เลือกมาสักคนที่ถูกใจแกมากที่สุด” เขาเน้นย้ำและชี้ไปที่รูปภาพห้าใบนั้น “พ่อก็เลือกเองแล้วกัน หน้าที่ของผมคือต้องแต่งงานตามคำสั่งของพ่ออยู่แล้วนี่” เขาลุกขึ้นแล้วมองบิดาด้วยแววตาตัดพ้ออย่างเจ็บปวด “แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าการแต่งงานไม่ได้ทำให้ผมเปลี่ยนไปได้หรอก ผมจะเที่ยว ผมจะนอนกับผู้หญิงที่ผมต้องการเหมือนเดิม.. ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็นอนกอดหมอนข้างไปเถอะ” ผู้หญิงที่เขาไม่ต้องการหรือไม่ถูกใจแม้แต่ถูกตัวเขายังไม่เคยทำด้วยซ้ำ อยู่ๆ จะให้เขาไปมีอะไรกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน ฝันไปเถอะว่าเขาจะทำ “นั่นแกจะไปไหนไบรอัน” บิดาถามลูกชายที่กำลังเดินหน้าบึ้งจากไป “ผมจะไปหาผู้หญิงสักคนระบายความเครียด ระหว่างนี้ผมคงต้องหาความสุขใส่ตัวให้มากขึ้นหน่อย เพราะไม่รู้ว่าที่ประเทศไทยจะมีถูกใจผมบ้างหรือเปล่า” โรเบิร์ตกุมขมับ หลังจากประตูห้องทำงานถูกปิดดังปังตามแรงอารมณ์ของลูกชาย ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีกับการยินยอมนี้ แต่ทุกอย่างที่วางแผนเอาไว้จะต้องดำเนินต่อไป เขาจะใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย “นุ่มมารบกวนเวลางานของคุณพ่อหรือเปล่าคะ” หญิงสาวที่เคาะประตูก่อนเปิดเข้ามาถามกับบิดาที่กำลังส่งแฟ้มงานให้กับเลขาของท่าน “พ่อแค่เซ็นรับรู้เรื่องกำหนดการที่ต้องไปรับโล่เท่านั้น ไม่ได้ยุ่งอะไรเลย แล้วลูกมีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับพ่อล่ะ” โชติถามลูกสาวคนโตที่โทรมาหาก่อนแล้ว “นุ่มได้ยินเรื่องที่คุณพ่อกับคุณแม่คุยกันเมื่อหลายวันก่อน.. เรื่องแต่งงานน่ะค่ะ” พูดเข้าประเด็นเมื่อเห็นบิดาทำหน้าไม่เข้าใจ “หนูได้ยินหรือลูก” โชติแปลกใจว่าทำไมเธอถึงได้ยิน เพราะเขาคุยเรื่องนี้กับภรรยาตอนที่ลูกสาวทั้งสองออกจากบ้านไปแล้วนี่นา “นุ่มขอโทษนะคะที่แอบฟัง วันนั้นนุ่มกลับไปที่บ้านอีกรอบเพราะลืมเอกสารสำคัญ และนุ่มอยากจะเตือนคุณพ่อว่ามีนัดทานอาหารกลางวันกับท่านผู้ว่า นุ่มก็เลยเดินหาคุณพ่อไปจนถึงที่เรือนกล้วยไม้ และนุ่มก็ได้ยินเรื่องที่คุณพ่อกับคุณแม่คุยกันค่ะ” “นุ่มไม่ต้องคิดมากนะลูก พ่อรู้ว่าลูกกับตระกูลรักกันมานาน พ่อไม่ทำลายความรักของลูกทั้งสองเพราะเหตุผลทางธุรกิจหรอกลูก” โชติปลอบใจลูกสาวเพราะกลัวเธอจะเข้าใจผิด และผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้ว่าปีนี้พวกเขามีแผนที่จะแต่งงานกัน จึงตั้งใจจะคุยเรื่องนี้กับลูกสาวคนเล็กมากกว่า “แต่นุ่มไม่เห็นด้วยถ้าคุณพ่อจะให้น้องนิ่มแต่งงาน เพราะน้องยังเด็กเกินไป ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม