ลูกน้องทั้งสองยกยิ้มรีบสลายตัวไปเตรียมรถทันที วันนี้คือวันศุกร์คุณมีนาจะขึ้นฝั่งมาอยู่ที่บ้านของเจ้านายเขาทุกคืนวันศุกร์ ทุกคนจริงๆ สองปีมานี้ไม่มีขาดไม่มีเกินจริงๆ
ประตูบ้านเปิดออกพร้อมกับกลิ่นอาหารลอยคละคลุ้งมาแตะจมูกคนมาใหม่ ธัญธารามองไปที่ห้องครัวในทันทีหลังจากก้าวเข้ามาในห้องครัว
“มาแล้วเหรอคะ รออีกนิดหนึ่งนะคะปลาเปรี้ยวหวานของโปรดธัญกำลังจะเสร็จไปนั่งรอที่ห้องรับแขกก่อนก็ได้ค่ะ” ใบหน้าสวยคลี่ยิ้มส่งมาให้เขา ดูสิเวลาไม่ร้ายก็ออกจะเป็นคนที่น่ามองคนหนึ่ง “ไปรอที่ห้องนั่งเล่นดีกว่าค่ะ กลิ่นคาวปลาจะติดสูทเนื้อดีเอา”
หล่อนปิดฝาหม้อแล้วเดินไปล้างมือเช็ดให้แห้งแล้วเดินมาควงแขนชายหนุ่มให้ออกไปจากห้องครัว ธัญธาราเดินออกมาอย่างว่าง่ายแม้จะได้กลิ่นเหงื่อออกมาจากตัวหญิงสาวแต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
เธอกดไหล่เขาให้นั่งลงที่โซฟาตัวนุ่มแล้วก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำด้านล่างไม่นานก็ออกมาพร้อมกะละมังพร้อมกับผ้าผืนซีขาวพาดไว้ตรงขอบกะละมัง
“ไม่ต้องก็ได้” เขามองทุกการกระทำของของเธอด้วยความรู่้สึกบางอย่าง ที่เขาก็ไม่อาจตอบได้ว่าตัวเองรู้สึกอะไรอยู่กันเเน่
“อยู่เฉยๆ นะคะ” มีนาเงยหน้าขึ้นสบตาคนนั่งอยู่บนโซฟา วางกะละมังไว้ที่ด้านล่างมันมีควันขึ้นมาเล็กน้อยเธอเลยลองเอามาจุ่มๆ เพื่อวัดอุณหภูมิดู
รอยยิ้มจุดติดข้างแก้มเมื่อน้ำกำลังอุ่นๆ พอดี เธอยื่นมือไปจับขาข้างหนึ่งของธัญธาราแม้เขาจะพยายามถกออกแต่ก็ไม่พ้นมือเธอ จัดการถอดถุงเท้าออกให้เขาเสร็จก็วางข้างหนึ่งไว้ที่พื้นจับอีกข้างมาทำเหมือนกันเมื่อถอดถุงเท้าเสร็จเธอก็ขยับเข้าไปใกล้นิดหนึ่ง
“ฉันทำเองได้” ธัญธาราทำตัวไม่ถูกทันที
“อยู่นิ่งๆ นะคะ” หล่อนไม่ยอมแพ้เอื้อมมือไปพันขากางเกงขึ้นมาอยู่ในระดับหนึ่งแล้วค่อยๆ จับขาเขาทั้งสองข้างวางลงที่น้ำอุ่น “ได้ยินว่าวันนี้เดินตรวจงานที่รีสอร์ตทั้งวันคงเมื่อยเท้าน่าดู น้ำอุ่นจะช่วยให้ธัญรู้สึกดีขึ้น”
“ก็ไม่เลว” มันดีมากเลยต่างหากดีจนเขาแอบเคลิ้มหลับไปเลย เหลือบตามองคนนั่งทับขาตัวเองอยู่ที่พื้นนิดหน่อย
ก็ไม่เห็นต้องเอาใจเขาขนาดนี้เลย อยากได้อะไรเขาก็ให้ ให้ไม่ได้เเต่ใจเท่านั้นเเหละ
“วันนี้ทำงานเป็นยังไงบ้างคะ?”
“เหนื่อย”
ถึงแม้คำตอบจะน้อยนิดแต่คนฟังก็ยังยิ้มได้ดีกว่าเขาไม่ตอบอะไรเลย
มีนา หรือ มีน ปัจจุบันเธออายุ 27 ปี แล้ว เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างตัวเล็กสูงแค่ 160 เซนติเมตร น้ำหนักก็ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ระหว่าง 47-50 นี่แหละ เพราะเธอหลงมนต์ท้องทะเลอาหารแสนอร่อยทำให้เธอห้ามใจตัวเองไม่อยู่ พอกินอร่อยปากก็มาลำบากที่น้ำหนักแทน
แช่น้ำอุ่นพอประมาณแล้วมีนาก็จับเท้าอีกคนขึ้นมาเช็ดเบาๆ ให้แห้งถนุถนอมผู้ชายที่หล่อนเผลอรักหมดใจ เสร็จแล้วก็วางไว้ที่พื้นสะอาดตามด้วยอีกข้าง
“เดี๋ยวเอาผลไม้มาให้กินรองท้องก่อนนะคะ”
พูดจบก็เอากะละมังไปเก็บตรงไปล้างไม้ล้างมือแล้วไปหยิบจานผลไม้ที่เตรียมไว้ออกมาให้เขาได้กินรองท้อง หล่อนเดินออกมาก็เห็นเขาเอาแต่ยิ้มอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือพิมพ์ยุกยิกไม่หยุด หล่อนต้องระงับอารมณ์ที่กำลังพุ่งขึ้นเพราะกลัวปลาเปรี้ยวหวานของเธอต้องเป็นหมัน
“ลองชิมดูค่ะ ผลไม้หน้าฝนชุ่มปากมากเลย”
เขาก็ยังไม่สนเอาแต่พิมพ์ยุกยิกไม่หยุดไม่นานโทรศัพท์ในมือก็สั่นตามด้วยเสียงเรียกเข้าดังขึ้น เขาไม่แม้จะหันมาสนใจผลไม้ในจานของเธอกดรับโทรศัพท์ยกขึ้นแนบหูยิ้มร่าเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น รอยยิ้มแบบนั้นแม้แต่เธอก็ไม่เคยได้รับมัน
“คุยกับใครคะ ดูอารมณ์ดีขนาดนั้น” เธอไม่ชอบเลยไม่ชอบเวลาที่เขาทำตัวแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน จะหาว่าเธองี่เง่าก็ได้แต่เธอรักเขาหวงเขาจริงๆ
“ช่วงนี้ทำไมล้ำเส้นผมอยู่เรื่อย ช่วงนี้เราทะเลาะกันบ่อยขึ้นนะมีน รู้ตัวไหมว่ากำลังทำตัวน่ารำคาญ” ธัญธาราหยุดพิมพ์แชทเงยหน้ามองคนตรงหน้าไม่สบอารมณ์
เห็นว่าเขายอมเธอที่ผ่านมาคิดจะล้ำเส้นเขาแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนทั้งที่ตกลงกันดิบดีแล้วว่าเขารับเลี้ยงเธอแค่ตัวไม่เอาหัวใจ อยู่กันมา สองปีแล้วเขาชักจะเบื่อแต่เธอไม่ยอมไป ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของจิกกัดตบตีผู้หญิงใหม่ของเขาไปเรื่อย
“มีนไม่ชอบธัญคุยกับคนอื่น”
“เธอแค่เด็กในสลัมที่ผมเก็บมาเลี้ยง ตอนนั้นเราตกลงกันดิบดีว่าผมแค่ต้องการนอนกับคุณเท่านั้น ไม่ได้ชอบคุณเลยได้ยินไหมมีน”
ได้ยินสิเธอได้ยินเต็มสองหูแต่มันทำใจไม่ได้สักครั้ง ต่อให้พูดจาเหมือนใบมีดโกน สายตาเบื่อหน่ายยามมองหน้าเธอ ไหนจะท่าทางที่แสดงออกมาว่ารำคาญเธอนักหนานั้นอีก
แต่เธอก็ยังรัก ทั้งที่เขาร้าย
------------------------------
จ้า! เลี้ยงเเต่ตัวหัวใจไม่เอาเนาะ สาปพระเอกได้เเต่อย่าสาปไรต์นะค่าาา
สาปมัน!