บทที่4
เผยเหิงกำมัดแน่น เขาแทบอยากจะปิดจบงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ลงเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำถ้าหากไม่ติดว่าเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของอิงอิง อย่างไรเขาก็ยังไม่อยากให้นางขายหน้าไปกว่านี้ ในเวลานี้หากไม่ติดผู้ฮูหยินกับสหายที่ยืนคุยกันอยู่เขาอยากจะเดินไปแยกหนุ่มสาวสองคนนั้นออกห่างกัน การที่จู่ ๆ อิงอิงของเขาหลุดเสียงดังออกมาขนาดนั้น ‘ข้าไม่แต่งกับเฉินเฟยอวี่’ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้กับนาง คงจะเพราะคนที่ยืนคุยกับนางและแสดงกิริยาเกินงามกับนางอยู่ตอนนี้เป็นคนเล่าให้ฟัง
เผยเหิงจะโทษบุตรชายของสหายทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะตัวเขาผิดเองก่อนกลับมาถึงจวนเขาและขบวนรถม้าแวะโรงเตี๊ยมข้างทาง ด้วยความเมามายและมีความสุขที่ในที่สุดบุตรสาวคนเดียวก็จะได้แต่งงานออกเรือนเสียที จึงหลุดปากบอกเรื่องการหมั้นหมายของอิงอิงกับเฉินเฟยอวี่ออกไป การหมั้นหมายนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่เป็นสัญญาใจที่เขาให้ไว้กับเฉินเฟยอวี่เมื่อนานมาแล้ว เป็นเหตุผลให้เขาขัดขวางแม่สื่อทุกคนที่เข้ามา เพราะหากต้องฝากชีวิตอิงอิงไว้กับบุรุษใดชั่วชีวิตเขาก็มองเห็นแค่เฉินเฟยอวี่เท่านั้น อย่างไรเขาก็เลี้ยงเด็กนั่นมากับมือ นิสัยใจคอเป็นเช่นไรเขาย่อมรู้ดี
เผยเหิงขบกรามแน่นเมื่อเห็นกู้เฉิงกงเอื้อมมือมาหมายกอบกุมมือบุตรสาวของตนอีกครั้ง ไวกว่าความคิดเขารีบสาวเท้าไปยังจุดหมาย ไม่สนใจว่ากู้ฮูหยินจะชวนคุยเรื่องอะไรอีกแล้ว
“เจ้าทำอะไร!” แม้จะโมโหจนหน้าดำหน้าแดงแต่เผยเหิงก็ลดเสียงให้ได้ยินเพียงแค่ช่วงตัว
“ท่านเผย ข้า….” กู้เฉิงกง แทบจะกลืนทุกคำพูดลงคอ เพราะเขารู้ดีว่าเผยเหิงไม่คิดจะยกเผยอิงให้เขาแน่นอน ไม่ใช่นั้นเขาคงไม่ต้องเสแสร้งแสดงงิ้วว่าเห็นเผยอิงเป็นแค่เด็กน้อยไม่คิดเกินเลยกับนาง ถึงได้เข้าใกล้นางได้อย่างเช่นทุกวันนี้ เขารู้ตัวเองดีว่า หากต้องเลือกระหว่างเขาที่เป็นบุตรชายคหบดีกับเฉินเฟยอวี่ที่เป็นถึงท่านชาย เป็นเขาเขาก็ต้องเลือกอีกฝ่ายให้บุตรสาวของตน
“ถ้าไม่มีอะไรคุยกันแล้ว อิงอิงแม่เจ้าเรียก” เผยเหิงไม่รอคำตอบ จูงมือบุตรสาวไปส่งให้มารดานาง
เมื่องานเลี้ยงจบลง เผยอิงไม่รอช้ารีบสอบถามเรื่องที่ติดค้างอยู่ภายในใจของนางมาทั้งวัน
“ท่านพ่อ จริงหรือเจ้าคะที่ท่านจะให้ข้าแต่งงาน”
“คงรู้มาจากเฉิงกงสินะ” เดาไม่ผิดจริง ๆ สิ่งที่อิงอิงหลุดปากในงานป่านนี้คงไปถึงหูฝ่ายนู้นแล้ว
“เจ้าค่ะ”
“เจ้าก็อายุเหมาะสมกับการมีครอบครัวแล้ว เป็นความจริงที่ข้าอยากให้เจ้าแต่งงาน”
“ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าท่านพ่อมีบุตรชายบุญธรรม และยังจะให้ข้าแต่งกับเขาอีก”
“เรื่องระหว่างข้ากับเฉินเฟยอวี่ไม่ได้เป็นความลับ ที่เมืองหลวงไม่มีใครไม่รู้ว่าข้าพี่พ่อบุญธรรมของท่านชายเฉิน” เผยเหิงเอ่ยตามจริง เขาไม่ได้ปิดบัง เรื่องนี้ฮูหยินของเขาก็ทราบดี แต่เขาและนางไม่เคยพูดถึงเพราะไม่มีความจำเป็นต้องเอาเรื่องราววุ่นวายของเมืองหลวงตามติดมาที่นี่ ในเมื่ออุตส่าห์ละทิ้งทุกอย่างมาแล้ว
“เขาเสเพลเช่นนั้นท่านพ่อยังอยากให้ข้าแต่งกับเขาเช่นนั้นหรือเจ้าคะ”
“อิงเอ๋อร์” เผยฮูหยินปรามบุตรสาวไม่ให้ทำเสียงแข็งใส่สามี
เผยอิงแม้มปากแน่น นางอยากรู้ว่าหากบิดารู้ว่าบุรุษผู้นั้นนิสัยใจคอเป็นเช่นนั้นแล้วยังอย่างให้นางแต่จริง ๆ งั้นหรือ
“อิงอิง ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเด็กเฉิงกงเล่าอะไรให้เจ้าฟังบ้าง หากเรื่องความเสเพลของเฉินเฟยอวี่ จริงอยู่ที่เขาเป็นเหมือนบุรุษทั่ว ๆ ไป เขาหอคณิกาบ้างตามวัยแต่งเพราะเขาไม่มีอนุหรือภรรยา”
เผยอิงมองบิดาไม่วางตา บุรุษทั่วไปงั้นหรือ จริงสินะบุรุษไม่ว่าผู้ใดก็ยังมีตัณหา บิดาของนางก็หาได้แตกต่างจากบุรุษอื่นไม่ แม้จะมีมารดาของนางเป็นฮูหยินเอกเพียงผู้เดียว แต่ทุกครั้งที่ท่านกลับมาจากต่างเมืองนางมักได้กลิ่นเครื่องหอมของสตรีจากตัวท่านเสมอ ท่านมิเคยยกย่องเชิดชูสตรีใดไม่เคยเอ่ยถึงผู้ใด และนางแอบติดสินบนบ่าวที่เดินทางไปกับท่านจนได้รู้ว่า บิดาของนางเข้าหอโคมเขียวทุกเมืองที่เดินทางไปทำการค้า เดาว่ามารดาของนางก็คงรู้เรื่องนี้ดีแต่ไม่เคยเอ่ยถึง นางจึงเงียบมาตลอดเช่นกัน
“อิงอิง เฟยอวี่ให้สัญญากับข้าว่าจะมีเจ้าเป็นฮูหยินเพียงคนเดียว จะไม่มีผู้ใดอีกนอกจากเจ้า”
“แล้ว… ถ้าข้าไม่อยากแต่งล่ะเจ้าคะ” หากนางแต่งให้เขาแล้วเขายังเข้าหอโคมเขียวอยู่ นางจะต่างอะไรกับฮูหยินเฝ้าจวน
“ทำไมล่ะ เฟยอวี่เป็นบุรุษเดียวที่ข้าวางใจที่จะให้เจ้าแต่งงานด้วย หรือเพราะเจ้าชอบกู้เฉิงกง”
เผยอิงส่ายหัว
“ข้าไม่เคยคิดกับพี่เฉิงกงเป็นอื่นข้าเห็นเขาเสมือนพี่ชายมาโดยตลอด”
เผยเหิงพรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ไม่ใช่เพราะถ้าข้าไม่แต่งแล้วเขาจะถอยองครักษ์ของเขาออกจากเหมืองท่านพ่อหรือเจ้าคะ ท่านถึงดึงดันจะให้ข้าแต่งออกไปให้ได้”
“เจ้าไปรู้อะไรมา!” ชายชราตบโต๊ะเสียงดัง ไอ้เด็กสกุลกู้บอกอะไรนางอีก
“ท่านพี่ ใจเย็นลงก่อนเจ้าค่ะ ข้าขอคุยกับนางเอง” เผยฮูหยินเห็นว่าปล่อยให้สองพ่อลูกคุยกันต่อคงไม่แคล้วมีปากเสียงกัน นางจึงขอเป็นคนคุยกับอิงอิงเองจะดีกว่า
เผยฮูหยินกุมสองมือของบุตรสาวประคองเอาไว้อย่างอ่อนโยน
“อิงเอ๋อร์ แม้ท่านเผยจะไม่ใช่บิดาแท้ ๆ ของเจ้า แต่เขาย่อมเลือกคนที่ดีที่สุดให้เจ้าแต่งงานอย่างแน่นอนแม่เชื่อเช่นนั้น”
“ท่านแม่ข้าไม่ได้คิดกับท่านพ่อแบบนั้น ข้ารักท่านพ่อ สำนึกในบุญคุณและความรักที่ท่านมีต่อช้าเสมอมา”
“หากเจ้าสำนึกบุญคุณท่านเผยอย่างแท้จริง แล้วเจ้าจะมองดูเหมืองทองของท่านเผยไร้ซึ่งคนคุ้มกันได้เช่นนั้นหรือ หากขาดท่านชายคอยคุ้มครองแล้วญาติพี่น้องของท่านเผยต้องมารุมทึ้งเหมืองทองแห่งนี้จนไม่เหลือแม้แต่เศษทอง เจ้าทนดูดายได้หรืออิงเอ๋อร์”
“ท่านแม่” เผยอิงน้ำตานองหน้า หากไม่มีเฉินเฟยอวี่เท่ากับท่านพ่อต้องเดียวดายอีกครั้งเหมือนตอนที่เลือกแต่งงานกับท่านแม่
“หากเจ้าทนได้ แม่จะคุยกับท่านเผยเองว่าเจ้าไม่แต่งอย่างไรก็ไม่แต่ง”
“ไม่ ๆ ข้าจะแต่ง ข้าจะแต่งกับเขา” เผยอิงส่ายหน้าทั้งน้ำตา
ต่อให้รู้ว่าเบื้องหน้าเป็นเหวเบื้องหลังมีชีวิตที่สวยงามรออยู่มีทางเลือกอื่นให้นางเลือก แต่นางก็จะโดดลงเหวนั่น เพื่อบิดาและมารดาของนาง