“โดนโละทิ้งได้ไงว่ะ แก๊งดุขนาดนั้น”
เอเดนเจ้าพ่อแก๊งภักดีอีสานอุทานอย่างตกใจเมื่อได้รับจดหมายแจ้งเปลี่ยนรุ่นจากแก๊งที่ดุดันและน่ากลัวที่สุดอย่างแก๊งทักษิณนครที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศเล็กๆ ของพวกเรา
กล่าวขานกันว่าคนใต้ดุดันน่ากลัวและเป็นมิตร ไม่มีใครกล้าหือกับแก๊งทักษิณนครมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว คนที่ทำการโละทิ้งได้นี้ต้องเหี้ยมในเหี้ยมจริงๆ
“แต่ก็โดนโละทิ้งไปแล้ว เพราะงั้นเรามีแต่ต้องยอมรับและเข้าแสดงความยินดีกับการเปลี่ยนรุ่น”
เจ้าพ่ออุดรรุ่นก่อนหรือพ่อของเอเดนพูดขึ้นมานิ่งๆ ถึงจะอายุมากแล้วแต่เขาก็เคยเป็นเจ้าพ่อมาก่อน เพราะงั้นมาดเขาก็ยังวางตัวสมเป็นเจ้าพ่ออยู่ น่าเกรงขาม
“แล้วผมก็ต้องไปใต้ละสิงั้น” เอเดนพูดขึ้นมาแบบไม่ค่อยพอใจนัก ช่วงนี้เขาไม่ค่อยอยากเดินทางด้วยสิ
“เอ็งไม่ไปแล้วใครจะไปเอเดน เอ็งเป็นเจ้าพ่อ ทำตัวเป็นกุ๊ยจนลืมแล้วรึไงว่าตัวเองเป็นใคร” คนเป็นพ่อเริ่มค่อนขอดเจ้าพ่อเถื่อนที่ทำตัวสบายๆ คนนี้อย่างเอือมระอา
“เออ ถึงผมจะเป็นกุ๊ยแต่ผมก็คุมแก๊งได้ละกันพ่อไม่ต้องมายุ่ง” เขาตอกกลับหน้าคนเป็นพ่อเบาๆ และก็จริงของเขาที่เขาสามารถคุมแก๊งได้ แต่ลูกน้องก็พากันเถื่อนตามเขาหมดอ่ะนะ
“อย่าทำตัวหละหลวมมากไปละกัน” คนเป็นพ่อไม่ใช่คนชอบพูดเยอะ เขาแค่พูดพอให้เอเดนเข้าใจ เอเดนก็ไม่ใช่ปีศาจแห่งการต่อปากต่อคำ พวกเขาทั้งคู่จึงเงียบ
“พี่จะไปคนเดียวหรอคะ” เอเรียสน้องสาวคนสวยวัย 35 ปี ของเอเดน ผู้หวงความโสดพอๆ กับพี่ชายได้เอ่ยถามนิ่งๆ
“ก็พาคนสนิทไปด้วยนิดหน่อยแหละ ทำไมเราอยากไปกับพี่หรอ” ผู้เป็นพี่ชายถามน้องสาวขึ้นมา
“เหอะใครอยากจะยุ่งกับพวกคนเถื่อนอยู่ห่างได้ห่าง” เอเรียสเจ้าหญิงแห่งภักดีอุดรเธอไม่เคยคิดจะยุ่มย่ามกับเรื่องของมาเฟีย เช่นเดียวกับ เอเดรียนพี่ชายคนโต
“ระวังตัวด้วยนะเอเดน เห็นว่าโหดมากเลยทางนั้น” เอเดรียนแสนสุภาพและเรียบร้อย ผู้อ่อนโยนต่างจากคนเถื่อนแบบเอเดนอย่างสิ้นเชิงเอ่ยกับน้องชาย
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกพี่น่ะ” เขากระแทกเสียงใส่พี่ชายเบาๆ
.
.
บ่ายโมงแล้ว
หมดมื้ออาหารเช้าเอเดนก็นั่งหวั่นใจอยู่ภายในห้องของตัวเอง แล้วต้องลงใต้ไปอย่างน้อย 2 คืน ปล่อยยัยหมอนั่นไว้จะดีหรอว่ะ แล้วดูจากสายตาของเจ้าอดัมก็เหมือนจะคิดอะไรกับเธอด้วย ผู้ชายด้วยกันมันมองกันออก
แถมหลานเขาก็ยังหนุ่มยังแน่นหน้าตาก็หล่อเหลา ถ้ายัยนั่นชอบคนหนุ่มล่ะ เธออายุแค่ 25 ปีเองนะถึงจะทำตัวแก่แดดเกินอายุก็เถอะ แล้วคนหนุ่มมันจะคุยกันรู้เรื่องมากว่ามั้ย โอ๊ยปวดหัวชิบ
ชีวิตไม่เคยต้องมาคิดเรื่องอะไรหยุมหยิมแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นกับเขาว่ะ เขาได้แต่คิดแล้วเดินไปมาแบบอยู่ไม่สุข ไปทำเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของก่อนไปหน่อยดีกว่า เขาคิดได้แล้วก็เดินออกจากห้อง จุดมุ่งหมายคือโรงพยาบาลภักดีอีสานนั่นเอง
เขาเดินเข้ามาโทงๆ ไม่สนสายตาใครอีกแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาหลบๆ ซ่อนๆ เย็นนี่ก็จะเดินทางแล้ว ต้องมาฝากรอยไว้ให้ได้มากที่สุดยัยนั่นจะได้ไม่คิดออกนอกลู่นอกทาง
เข้าเปิดประตูห้อง ผอ. อย่างถือวิสาสะ ขนาดในห้องมีมาเฟียรับการรักษาอยู่เขาก็ไม่สนก็นะเขามันเจ้าพ่อนี่หน่า
“ออกไป”
เขาไล่คนไข้ของหมอด้วยน้ำเสียงราบเรียบผู้ชายผมดำขลับที่ทำตัวเหมือนกุ๊ยกับเสื้อยืดกางเกงยีนยืนอยู่ต่อหน้าเหม่ยดีด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน
“มาไล่คนไข้คนอื่นออกไปแบบนี้มันเสียมารยาทนะคะหมอยังรักษาไม่เสร็จ” เหม่ยหลีตำหนิเขาออกมาน้ำเสียงราบเรียบจนน่าใจหาย
“ใครสน ลูกน้องผมทั้งนั้น” ท่าทีไม่สนใจแล้วไหวไหล่ใส่คนตัวเล็กเบาๆ ทำเอาหมั่นไส้
“บ้าอำนาจ” เหม่ยหลีพูดใส่หน้าเขาแบบไม่เกรงกลัว
“ช่างผมเถอะ” เขาพูดขึ้นมาแบบหัวเสีย
“แล้วมาทำไม” หมอเอ่ยประเด็นขึ้นมาก่อนเพราะเขาคงไม่อยู่ดีๆ โผล่มาถ้าไม่มีอะไร เอ๊ะหรือว่าถึงไม่มีอะไรหมอนี่ก็เสนอหน้ามาอยู่ดี
“มาบอกว่าจะไม่อยู่ 2-3 วัน” เขาพูดขึ้นมาโดยที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะมาบอกเธอทำไม แล้วดูหน้าตาเรียบเฉยนั่นเหมือนไม่ได้อยากรับรู้
“ค่ะ ฉันจะไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ประกาศให้ดีมั้ยคะ” เหม่ยหลียียวนกลับไปจริงๆ ด้วย เอเดนหน้าเสียหนักหน่วงแต่ก็ยังคุมอารมณ์
“แล้วก็มาเย็*ด้วย” เขาพูดขึ้นมาจนคนตัวเล็กสะดุ้งโหยงแฟ้มคนไข้ในมือหล่นทันที
“พูดจาน่าเกลียดไอ้เจ้าพ่อเฮงซวย ไอ้โรคจิตหื่นกาม” เธอไม่รู้จะตอบสนองยังไงขอด่าไว้ก่อนเถอะ ไอ้บ้านี่กล้าพูดออกมาได้ไงก่อน
“น่าเกลียดทำไม ก็เอากันไปแล้ว” เขายียวนกลับมาหน้าตาดูมีความสุขที่เห็นเหม่ยหลีหน้าเหวอ
“อย่ามางี่เง่านะ นี่กลางวันแสกๆ ไอ้เจ้าพ่อเถื่อน” เธอไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแล้วไอ้หมอนี่หน้าด้านมากด่าเท่าไหร่ก็ไม่เจ็บ
“คนเ****นนี่มันต้องดูเวลาด้วยหรอ”
พระเจ้าเถื่อนเกินไปแล้วเหม่ยหลีสะดุ้งในสะดุ้ง เกิดมาไม่เคยเจอใครมาพูดใส่ตรงๆ แบบนี้เล่นเอาเธอหน้าแดงไปไม่เป็นเลยทีเดียว
“ไอ้…อุ๊บ อื้อ อี๊”
ไม่รอให้ด่าจบคนตัวโตก็ปิดปากด้วยจูบทันที เหม่ยหลีตกใจตาค้างแต่มันก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายอะไร เพราะหมอนี่มันเถื่อนและสามารถทำได้ทุกอย่างถ้าอยากจะทำ แต่ทำไมวันนี้จูบมันร้อนแรงจังว่ะ
เรียวลิ้นถูกลิ้นชื้นแฉะน้ำลายดูดกลืน ดุนดันกวาดต้อนอย่างเร่าร้อนเหมือนอัดอั้น ริมฝีปากบางถูกดูดแล้วดูดอีกซ้ำๆ จนมันเริ่มเจ็บและเธอก็เริ่มหายใจไม่ออกจึงดันตัวเขาเพื่อบอกให้รู้ว่าไม่ไหวแล้ว
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เธอผละออกจากเขาเพื่อหายใจ
“ไปตายอดตายอยากที่ไหนมาฮะ” เธอด่าเขารุนแรงเพราะเขาจูบร้อนแรงมากเกินไปอารมณ์เขาพลุ่งพล่านขนาดไหนกันเชียวนะ
“เธอนั่นแหละที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้เหม่ยหลี เธอกำลังทำให้ฉันเป็นบ้า”
เขาพูดแล้วดึงตัวเธอเข้ามาหาขณะที่เขาอิงกายอยู่ที่เตียงคนไข้หลังนั้น
“ขอทำเครื่องหมายไว้หน่อยละกัน”
พูดจบเขาก็จูบลงที่ลำคอระหงอย่างบ้าคลั่งรอยคริสมาร์กรอยแล้วรอยเล่าถูกทำขึ้นมาไม่หยุด หมอสาวรู้สึกปวดแปลบและเสียวซ่านไปในตัวเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวดูดกลืนลำคออย่างหื่นกระหาย
“นี่…” เธอพยายามร้องห้ามแต่คงไม่เป็นผลคนตัวโตมีแรงมากกว่าเธอเยอะและไม่คิดจะหยุด
เหม่ยหลีต้องปล่อยเลยตามเลย
.
.
.
เอเดนแอบหวงของแหละแม่ดูออก เหม่ยหลีไหวมั้ยลูก