คุณแม่ครับ..นี่แฟนผม

1381 คำ
ตอนที่ 9 ระหว่างที่นั่งรถด้วยกันมา ก้องเกียรติก็เอ่ยถาม เพื่อทำลายความเงียบ “พี่จำได้ว่าเมื่อวานนี้ พรเข้าเวรบ่ายไม่ใช่หรือครับ แล้วทำไมลงเวรเช้าเลยล่ะ” ก้องเกียรติจำเวรเข้างานของอีกฝ่ายได้ “ใช่ค่ะ แต่พอดีมีเคสด่วนนิดหน่อย ตอนนี้เรียบร้อยแล้วเลยว่าจะกลับไปนอนเอาแรงแล้วค่อยมาเข้าเวร แต่คงเป็นช่วงเย็นค่ะ” “เหนื่อยรึเปล่าครับ” สายตาที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย และอยากเป็นคนคอยดูแลยามที่เธอดูเหนื่อยล้าอย่างนี้ แต่เธอก็ใจแข็งเหลือเกิน ไม่ยอมเปิดโอกาสให้เขาเสียที... สุรีย์พรเสหลบ หันไปมองสองข้างทาง เธอรู้ดีว่าคุณหมอหนุ่มคนนี้คิดอย่างไรกับเธอ แต่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมจะเปิดใจรักใครอีกแม้จะรู้ว่าเขาดีและมีน้ำใจกับเธอมากแค่ไหน ทว่ามันเป็นเพราะเธอยังไม่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับใคร เธอยังไม่พร้อม...แต่เมื่อไหร่ล่ะที่เธอจะพร้อม สุรีย์พรได้แต่เฝ้าถามตัวเองอยู่อย่างนั้นมาตลอด แม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว เช้าวันนี้ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาราวเทพบุตร ที่ใคร ๆ เห็นต่างก็หลงใหล ทั้งใบหน้าและแววตาที่ชวนลุ่มหลงและน่าค้นหา รูปร่างที่สมาร์ตอย่างคนรักสุขภาพ อกกว้างกำยำน่าซุกซบ และเมื่อบวกกับชุดสูทสามชิ้นสุดหรูที่เขาสวมอยู่ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้เขามีเสน่ห์ชวนมองมากขึ้นไปอีก...หนุ่มหล่อ อารมณ์ดี คนนี้มาพร้อมด้วยดอกไม้ช่อใหญ่ “สวัสดีครับคุณเจน” “สวัสดีค่ะ” “นี่ดอกไม้สำหรับคุณครับ” “ขอบคุณค่ะ แต่ว่าคราวหน้าไม่ต้องลำบากซื้อมาก็ได้ค่ะ” “ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับ ผู้หญิงสวย ๆ อย่างคุณเจน ก็ต้องคู่กับดอกไม้สวย ๆ สิครับ” “คุณปากหวานแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนเลยเหรอคะ” “เปล่าหรอกครับ สำหรับคุณเจนคนเดียว” “เออ..เช้านี้คุณทานอะไรหรือยังครับ ถ้ายังผมอยากจะคุณออกไปทานมื้อเช้าด้วยกัน” “ก็ได้ค่ะ แต่ดิฉันออกไปไหนไกลไม่ได้นะคะ เพราะมีงานยุ่ง “เอาแค่ในโรงอาหารของที่นี่ก็ได้ครับ” ภาคินัยยื่นข้อเสนอ “งั้นดีเลยค่ะ” “แต่คุณเจนยังติดค้างผมอยู่นะครับ” “ค่ะ ฉันไม่ลืม แต่ช่วงนี้ฉันงานยุ่งจริง ๆ ค่ะ” ระหว่างรับประทานอาหารไปได้เพียงเล็กน้อย ภาคินัยก็เริ่มเปิดประเด็น เรื่องที่เขาต้องการคำตอบในวันนี้ “วันนี้ผมมาเอาคำตอบครับคุณเจน ตกลงคุณจะยอมเป็นแฟนผมมั้ย” “ฉันจะลองเปิดโอกาสให้คุณคบฉันดูค่ะ แต่ว่าฉันไม่รับเงินนะคะ คุณไม่ต้องจ้าง ถ้าคุณดีพอ สัญญาว่าจะเป็นแฟนคุณเอง” “โอโห่! ดีจังเลย ขอบคุณนะครับ งั้นวันนี้คุณไปพบคุณแม่ผมหน่อยได้มั้ยครับ ท่านอยากเจอคุณแล้ว” “วันนี้เห็นทีจะไม่ได้นะคะ พอดีฉันมีงานเยอะเลย แล้วก็ต้องขึ้นเวรดึกด้วย” “งั้นเลิกงานเย็นนี้ ผมจะซื้ออาหารเย็นมา เราทานด้วยกันนะครับ” “ไม่ต้องลำบากชีวิตคุณขนาดนั้นหรอกค่ะ พยาบาลอย่างฉันกินข้าวตรงเวลาซะที่ไหน” “ไม่เป็นไรผมรอ ดึกแค่ไหนผมก็รอ เราเป็นแฟนกันแล้วนี่ครับ” “หึ!!.. ตอนไหนคะ ตอนไหน ฉันแค่บอกว่าจะลองเปิดโอกาสให้คุณลองคบกับฉันเฉย ๆ” “ไม่รู้ล่ะครับ ผมจริงจัง” “ก็แล้วแต่คุณนะคะ” ‘หึ!! คงพูดเองเออเองแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนเลยล่ะสิ’ หลายวันต่อมาภาคินัยก็คอยมาเฝ้าเจนจิราหลังจากเขาเลิกงานแล้ว บางครั้งก็เผลอหลับไปที่โซฟา เจนจิราเห็นความตั้งใจนี้เธอจึงเริ่มใจอ่อน ยอมไปไหนมาไหนกับเขามากขึ้น และคืนนี้ก็เช่นกัน เขาหลับรอระหว่างที่เธอขึ้นเวรดึก อยู่ข้างหน้าวอร์ด บนโซฟานุ่มที่เขาจองเป็นที่พักพิงชั่วคราวไปเสียแล้ว ตอนนี้เวรของเจนจิราหมุนเวียนมาอยู่วอร์ดเด็ก ทำให้เขาก็หลับ ๆ ตื่น ๆ เนื่องจากมีเสียงเด็กร้องรบกวนอยู่บ้าง ชายหนุ่มนั่งมอง เจนจิราที่กำลังแทงสายน้ำเกลือให้เด็กน้อยด้วยความทะลักทุเล แม่เขาพยายามปลอบลูกน้อยให้หยุดร้องแต่ก็ไม่เป็นผล ส่วนคุณพ่อนั่งดูโทรศัพท์มือถือเฉยเลย อืม! ก็แปลกดีนะ คำว่าแม่ยังไงก็ห่วงลูกอยู่วันยังค่ำ เขาเริ่มเข้าใจมารดาของเขามากขึ้นแล้ว หลังจากเจนจิราแทงสายน้ำเกลือให้เด็กน้อยเสร็จ เด็กน้อยก็หยุดร้อง และมีพยาบาลท่านอื่นพาเข้าห้องไป เธอหันมาทางภาคินัยนอนอยู่ เขาจึงรีบแกล้งหลับ เธอดึงผมห่มมาห่มให้กับเขา แผงขนตาสีน้ำตาลเข้มของเธอเรียงกันปลายยาวงอนสวยงาม “ขอโทษค่ะ ฉันทำคุณตื่นหรือเปล่า” “คุณเจน ผมตื่นนานแล้ว” “ฉันออกเวรแล้วค่ะ คุณจะกลับพร้อมฉันหรือเปล่า” “กลับสิครับ ผมเป็นห่วงคุณ” ระหว่างทางที่เขากำลังขับรถไปส่งเจนจิรานั้น เขาก็ได้เอ่ยขอเธอถึงเรื่องการไปพบคุณนายนวลฉวีแม่ของเขา “ฉันยินดีไปพบคุณแม่คุณค่ะ” “ขอบคุณมากครับ...คุณเจน” “ถ้าอย่างนั้น วันหยุดหน้าของคุณวันไหนครับ” “น่าจะพฤหัสนี้ค่ะ” “โอเคร พอพาคุณไปพบกับคุณแม่แล้ว ผมอยากพาคุณไปเที่ยวที่หนึ่ง คุณอยากไปกับผมมั้ย” “ที่ไหนเหรอคะ” “ถ้าผมบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ” หลายวันต่อมาก็มาถึงตอนที่ ภาคินัยต้องพาเจนจิราแฟนสาวไปพบคุณแม่ ระหว่างทางพยาบาลสาวก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล “คุณภาคย์ ฉันไม่สบายใจเลย” “ไม่ต้องกังวลนะ คุณแม่ผมท่านใจดี” รถยุโรปสีดำชะลอความเร็วเมื่อมาถึงบ้านทรงทันสมัยหลังหนึ่ง คนรับใช้ในบ้านกดรีโมตเปิดประตูออกแล้วเขาเคลื่อนรถเข้าไปจอดสนิทในโรงจอดรถ ภาคินัยพาเจนจิราเข้ามาในห้องที่แม่เขานั่งรออยู่แล้ว “สวัสดีครับคุณแม่..นี่คุณเจนจิราครับแม่” ภาคินัยแนะนำเจนจิรากับคุณนายนวลฉวี ผู้เป็นมารดา ก่อนหน้านี้ภาคินัยเคยคุยกับแม่เขาแล้วแต่ว่ายังไม่มีโอกาสจะพาเธอมาหาคุณแม่สักที เพราะติดที่เธอต้องขึ้นเวรติดต่อกันหลายวัน “สวัสดีค่ะ คุณป้า” หญิงสาวยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม “ไหว้พระเถอะหนู” คุณนายนวลฉวีรับไหว้ว่าที่ลูกสะใภ้ “คุณภาคย์...เล่าเรื่องของคุณป้าให้เจนฟังบ่อยๆ ค่ะ แต่เพิ่งมีโอกาสได้เจอตัวจริงวันนี้” “เพิ่งกลับจากที่ทำงานด้วยกันใช่ไหม?” คุณนายนวลวีเอ่ยถามทั้งสองคนเพราะรู้ว่าอยู่ด้วยกันแล้ว “ครับแม่...ผมกับเจนออกจากที่ทำงานก็ตรงมาบ้านคุณแม่เลยครับ” “ทานอะไรกันมาเหรอยัง เดี๋ยวแม่จะให้ป้าน้อมตั้งโต๊ะ” “ยังเลยครับ ผมตั้งใจพาเจนมาฝากท้องที่นี่ครับ” “วันนี้แม่เข้าครัวเองด้วยนะ มีของที่ภาคย์ชอบด้วยล่ะ” “เดี๋ยว..วันหลังฉันจะสอนหนูทำนะ..จะได้ให้ทำให้ภาคย์เขาทาน” คุณนายนวลฉวีบอกกับเจนจิราด้วยสายตาที่เป็นมิตร เมื่อรับประทานอาหารกันเสร็จ แม่ของภาคินัยก็เอ่ยชวน ให้เจนจิรามาฝึกทำอาหารที่ภาคินัยชอบ เจนจิราก็รับคำ “ถ้าเจนมีโอกาส จะแวะมาให้คุณป้าสอนนะคะ” “ต้องมาบ่อย ๆ นะ” คุณนายนวลฉวีย้ำ “ยินดีค่ะ” เจนจิรายิ้มหวานตอบด้วยความจริงใจ คุยกันได้ไม่นาน ภาคินัยก็รีบลาคุณแม่กลับ เพราะเขาจะพาเจนจิราไปเที่ยวต่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม