ตอนที่ 2 ฉันเสพติดเขาหลงใหลใจพลั้งเผลอ
สาบานได้ว่ามะนาวหวั่นไหวไปกับคำพูดประกาศกร้าวจากเขา แม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องไม่จริงที่เขาแต่งขึ้นมาเพราะความเมา หรือบางทีมันอาจจะเป็นบทพูดซ้ำๆ ที่เขาเคยพูดกับผู้หญิงหลายคนก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเขาพูดต่อหน้าเธอ มะนาวก็อยากตีขลุมไปว่าเขาต้องการบอกเธอ
แสงไฟจากโถงทางเดินทำให้เกิดเป็นแสงเงาจางๆ ในห้อง แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้สายตาซึ่งชินกับความมืดได้มองเห็นหลายสิ่งหลายอย่างลางๆ
“...” หญิงสาวกลืนคำพูดทั้งหมดลงท้อง พยายามไม่คิดถึงวันพรุ่งนี้เมื่อเขาเริ่มรูดซิปเสื้อกันหนาวของเธอและถอดมันออกอย่างใจร้อน หัวใจของเธอเต้นแรงเสียยิ่งกว่าตอนวิ่งขึ้นดอยเสียอีก มันรัวเร็วจนคิดว่าหากใส่แอปเปิลวอตช์ในตอนนี้มันอาจจะแจ้งเตือนไปที่โรงพยาบาลสักแห่ง มือของมะนาวกำหลวมๆ รอคอยว่าเขาจะทำอะไรต่อไป
เขาดูเหมือนจะไม่แปลกใจที่เธอไม่ขัดขืน ท่าทางงุ่นง่านตอนถอดเสื้อนั้นทำให้มะนาวทำอะไรไม่ถูก พยายามจินตนาการว่าเวลาปกติคนมีเซ็กส์กันต้องทำยังไงบ้าง แต่ดูเหมือนธันวาจะมีสมาธิมากกับเสื้อผ้าของเธอจนลืมสภาพแวดล้อมรอบตัว และเมื่อร่างช่วงบนของมะนาวเปลือยเปล่าเขาก็โยนเสื้อกันหนาวคลุมตัวเธอก่อนจะถอดเสื้อผ้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว
“...” มะนาวกะพริบตามองร่างที่เป็นเงาตะคุ่มอย่างเฝ้ารอ อยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป
“บ้าเอ๊ยหนาวฉิบหาย” เขาสบถหลังจากถอดเสื้อผ้าออกและหยิบผ้าคลุมขึ้นมาคลุมตัวเองและมะนาว ร่างของชายหนุ่มคร่อมทับบนร่างบอบบางของเธออย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนจะใช้มือเย็นเฉียบลูบไปตามผิวกายเรียบเนียนของคนใต้ร่างช้าๆ กลิ่นหอมจากตัวเธอทำให้เขาจิตใจสงบ ผิวกายที่สั่นระริกไปตามสัมผัสของเขาทำให้เขาเกิดความปีติยินดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“นาว แกอ่อนไหวจังเลยวะ ดูสิ จับตรงไหนก็สั่นจนเนื้อเต้น”
มะนาวชะงักและกลอกตาเล็กน้อย “กูหนาว มือมึงเย็นยังกับน้ำแข็งขนาดนี้จะไม่ให้กูสั่นเลยหรือไง”
“อ้าว! แล้วทำไมมึงไม่เคลิ้มตามกูล่ะ” เขาว่าอย่างหัวเสีย เสียงยานๆ นั้นทั้งตลกทั้งน่ารำคาญในเวลาเดียวกัน
มะนาวหมดอารมณ์จะเคลิ้มตามเขาจึงคว้าเสื้อแขนยาวมาตั้งใจจะสวม ทว่าธันวากลับจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้อย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดเสียงแข็งว่า “นาว มึงสมยอมกูแล้วจะกลับใจทีหลังไม่ได้”
“มึงเมาแล้วธัน อย่าทำแบบนี้มันจะมองหน้ากันไม่ติด”
“กูไม่ได้เมานะนาว” เขาว่า “คนเมาเอากับใครไม่ได้หรอก”
“...” มะนาวชะงัก รู้สึกแปลกๆ กับคำพูดของเขา “มึงหมายความว่ายังไง”
“หมายความว่ายังไงคืนนี้มึงก็จะได้กูเป็นผัว” เขาว่าพร้อมกับก้มลงลิ้มรสกลีบปากหวานของคนตรงหน้าอย่างแม่นยำ ริมฝีปากได้รูปแตะแต้มไปตามมุมคางของมะนาวอย่างแผ่วเบา ใช้ประสาทสัมผัสอันอ่อนไหวค่อยๆ ไล่จากปลายคางไปยังมุมปากของหญิงสาว ก่อนจะกดริมฝีปากของมะนาวอีกครั้ง ลิ้นแกร่งงัดแงะไรฟันขาวและแทรกมันเข้าไปตักตวงความหวานในโพรงปากของเธอ รสชาติของเครื่องดื่มสปาร์คลิ้งหวานปนขมจากเธอทำให้ทั่วทั้งร่างของธันวาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มือทั้งสองข้างประคองแก้มใสและพยายามตักตวงลมหายใจทั้งหมดของเธออย่างตะกละตะกลาม
ให้ตายสิมันหวานมากจนเขาหักห้ามใจไม่ไหวอีกต่อไป
“อืม...หวานมาก มะนาวหวานมาก” เขากระซิบอย่างพอใจ ฝ่ามือร้อนเลื่อนไปยังแผ่นหลังเปลือยเปล่าของมะนาวและปลดตะขอบราเซียร์อย่างชำนาญ ความอึดอัดของร่างกายสาวค่อยๆ คลายลงพร้อมกับทรวงงามที่ดีดผึง เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าซ่อนรูปกว่าที่คิด อดใจไม่ไหวจนต้องฉกริมฝีปากลงไปและดูดกลืนปลายยอดทรวงของมะนาวอย่างหิวกระหาย
“อา...” มะนาวแอ่นสะท้านเยือกกับสัมผัสที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อาการวิงเวียนทำให้เธอต้องพยายามคว้ากลุ่มผมของเขาและบีบมันเบาๆ เพื่อข่มความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ทุกจุดที่เขาสัมผัสมันทำให้เธอร้อนรุ่มไปทั้งตัว ขาเรียวแยกออกจากกันเพราะการเล้าโลมของเขา เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดจากอะไร ทว่าร่างกายมันกำลังตอบสนองตามสัญชาตญาณเพื่อหาจุดที่สบายที่สุด ใบหน้าของมะนาวบิดเบี้ยวเล็กน้อยเมื่ออารมณ์บางอย่างในร่างกายค่อยๆ ปะทุ “ธันมันแปลกมาก”
เขาผละริมฝีปากจากทรวงอกอิ่มและขยับขึ้นมาจูบเธออย่างหนักหน่วงก่อนจะกระซิบถามว่า “แปลกยังไง”
“ไม่รู้ อะ...มันเจ็บ” ดวงตาของมะนาวมีน้ำตาคลอเล็กน้อย เธอทำอะไรไม่ถูกเมื่อธันวาบีบหน้าอกของเธอจนรู้สึกเจ็บ แต่ในความเจ็บปวดนั้นคือความรู้สึกเสียวแปลบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“เสียวไหม” ธันวาถามด้วยความอยากรู้ ก่อนจะก้มดูดปลายตุ่มไตจนเกิดเสียงดัง
“ฮึก...ธัน ทำอะไรสักอย่าง” มะนาวข่มเสียงร้องเมื่อความซ่านเสียวที่เกิดขึ้นมันเคลื่อนจากปลายยอดอกแต่กลับทำให้ตรงท้องน้อยเต็มไปด้วยความรุ่มร้อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“มีเสียวกว่านี้อีก” ธันวาหัวเราะในลำคอ ก้มลงจูบที่เนินอกอิ่มและฝากฝังร่องรอยอย่างรุนแรงจนมะนาวสะท้านเยือกเป็นครั้งคราว ริมฝีปากร้อนของเขาเคลื่อนไปทั่วหน้าท้องของมะนาวจนหญิงสาวรู้สึกราวกับมีผีเสื้อนับล้านตัวบินวนในท้อง ร่างกายอึดอัดจนแทบทนไม่ไหวจนต้องหนีบขาอย่างขลาดอาย โดยเฉพาะตอนที่ธันวาเคลื่อนริมฝีปากไปที่หน้าท้องของเธอ มะนาวก็เกร็งไปทั้งร่าง
“ธันหยุดเถอะ ก่อนที่มันจะเลยเถิด” มะนาวได้สติในที่สุด เธอลุกขึ้นดันตัวอีกฝ่ายออกจากช่วงล่างของร่างกาย
หากแต่ธันวากลับเงยหน้าขึ้นและพูดกับมะนาวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “มันเลยเถิดมาตั้งนานแล้วนาว”
มะนาวตัวแข็งทื่อ ไม่รู้เพราะคำพูดของเขาหรือเพราะอากาศที่หนาวเย็นที่ทำให้เธอตัวสั่นเทา ร่างเล็กถูกเขาผลักลงกับที่นอนราวกับตุ๊กตาล้มลุกที่ไม่สามารถลุกเองได้ด้วยความมึนงง
เธอพยายามแยกแยะความหมายที่ธันวาพูด หากแต่ความเจ็บที่เกิดจากการเสียดสีของกางเกงในที่ถูกถอดออกและสัมผัสประหลาดที่เกิดจากปลายลิ้นของธันวาก็ทำให้มะนาวแทบเสียสติ เมื่อเขาแยกขาของเธอออกแล้วใช้ลิ้นละเลงอย่างเร่าร้อน
“อา...ไอ้ธัน อึก!” มะนาวนิ้วหน้าพยายามบิดสะโพกหนี ทว่าลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาในซอกหลืบลึกลับของเธอและตะโบมแรงเล้าโลมอย่างหนักทำให้เธอยกเอวและขยับไหวอย่างทรมาน “อา...ธัน...มึงจะเสียใจทีหลังไหม”
เธอถามอย่างอ่อนระโหยเมื่อร่างกายของเธอตอบสนองต่อการโลมเล้าของเขาอย่างบ้าคลั่ง ไม่รู้ว่ามันนานเท่าไร แต่เธอกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งจนกระทั่งร่างกายของเธอกระตุกวูบพร้อมกับเรี่ยวแรงที่หายไป ธันวาถึงพูดออกมา
“ไม่เลยนาว กูมีความสุขมาก” เขาตอบอย่างจริงจัง ปลายนิ้วลูบกลีบดอกไม้ที่เปียกแฉะจากการกระตุ้นของเขาและลิ้มรสมันอีกครั้งอย่างหลงใหล “กูจะทำให้มึงรู้ว่าเป็นเมียกูดีกว่าสถานะอื่น”
คำพูดสุดท้ายของเขาแผ่วเบาจนมะนาวฟังไม่ออก หากแต่เวลาต่อมาเขากลับเคลื่อนตัวขึ้นมาคร่อมทับร่างที่เปลือยเปล่าของเธอ
หัวใจของมะนาวสั่นไหวเมื่อกลีบปากร้อนประทับลงมาและดูดกลืนลมหายใจของเธออย่างตะกละตะกลาม เขาค่อยๆ ใช้หัวเข่าแยกขาของมะนาวออกจากกันแล้วสอดแทรกปลายนิ้วเข้าไปยังโพรงคับแคบอีกครั้ง
มะนาวลืมตาโพลงเมื่อความเย็นชืดล่วงล้ำเข้ามาในกายสาว เธอพยายามขยับสะโพกหนีทว่ามือของธันวานั้นแข็งแกร่งราวกับคีมเหล็ก เขาสอดมือข้างหนึ่งตรึงลำคอของมะนาวเพื่อไม่ให้เธอขยับหนี ปล้นจูบลงมาอย่างดุเดือดและขยับมือเข้าออกโพรงที่คับแน่นอย่างรวดเร็ว
“อื้อ...” มะนาวหลับตาลงอย่างจำยอม สัมผัสแปลกๆ ที่ล่วงล้ำเข้ามาทำให้สมองของเธอว่างเปล่าอีกครั้ง ความปวดหนึบระคนเสียวซ่านทำให้มะนาวทุบอกของธันวาอย่างแรงอยากด่าเขา อยากอาละวาดใส่เขา แต่สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือปล่อยให้เขารังแกอย่างเร่าร้อน
หากเป็นความฝันก็คงเป็นความฝันที่ไม่อยากตื่น
ธันวาผละริมฝีปากออกแล้วซุกหน้าเข้ากับซอกคอของเธอ ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดผิวกายเย็นเฉียบของเธอ ร่างกายของมะนาวบีบรัดนิ้วของเขาอย่างดุเดือดและปล่อยน้ำหวานออกมาอย่างน่าละอาย ธันวาถอนนิ้วออกและลูบสะโพกเปลือยเปล่าของมะนาวจนหญิงสาวครางฮือ
ในความเงียบมีความอึดอัดบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งคู่
มันคือผลของการก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างเพื่อนสนิทไปแล้ว
“นาว...”
“...” มะนาวละอายแก่ใจจนทำอะไรไม่ถูก สัมผัสที่เขามอบให้ทำให้เธอสร่างเมาไปนานแล้ว และตอนนี้เธออยากกลั้นใจตายไปเสียให้มันจบๆ เพราะไม่รู้จะสู้หน้าเขายังไง
“นาวกูพูดจริงๆ นะ” ธันวากระซิบเสียงแผ่ว แม้จะมีความมึนเมาปนอยู่หากแต่ยังคงบ่งบอกว่าเขาได้สติกลับมาแล้ว “กูล้ำเส้นมาแล้วมึงโกรธไหม”
หัวใจของมะนาวเต้นแรงมากจนแทบทะลุออกมา ความคลุมเครือระหว่างทั้งคู่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แม้ว่าจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่าง แต่เธอขี้ขลาดเกินกว่าจะเผชิญหน้ากับความจริง
“มึงล้ำเส้นไปแล้วกูจะทำอะไรได้ตอนนี้?” เธอพูดลอดไรฟัน หวั่นไหวจนไม่อยากจะพูดอะไรให้ตัวเองเจ็บปวด “อย่าลืมว่ามึงพึ่งอกหัก กูไม่อยากเป็นตัวแทนใคร พรุ่งนี้เช้าทำเหมือนมันไม่เคยเกิดอะไรขึ้นเถอะธัน อ๊ะ!”
มะนาวอุทานเมื่อถูกธันวาขบที่ลำคอจนรู้สึกเจ็บ “มึงเป็นหมาหรือยังไง”
“ตอนนี้เป็นหมาตอนหน้าก็เป็นผัวมึงไง มึงไม่คิดบ้างว่าคนอื่นเป็นตัวแทนของมึงน่ะ”
“...” มะนาวตัวแข็งทื่อ
“...” ขณะเดียวกันธันวาก็เหมือนจะรู้ตัวว่าเขาหลุดพูดอะไรออกไป ก่อนจะกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็วว่า “จะต่อไหม?”