ทีแรกที่เขารูดชั้นในเธอลง ยอมรับว่ามันรู้สึกเย็นวาบไปหมด แต่ยามที่เขามุดเข้ามาด้วยความรวดเร็วนั้น อายร้อนจากลมหายใจก็เป่ารดไล่ความเย็นเหล่านั้นให้หมดไป
แล้วก็เกลียดตัวเองที่เผลอเขย่งเท้าข้างหนึ่งขึ้น เหมือนปรับองศาให้ใบหน้าเขาซุกเข้ามาอย่างถนัดถนี่ตามเสียด้วย
มนัสสยากลั้นเสียงสะอื้น เมื่อเขาแตะปลายลิ้นร้อนหยอกเอินกับเนื้อติ่งน้อยอันอ่อนไหวนั้น ร่างบางแทบไร้เรี่ยวแรงยืน หากไม่เธอจับขอบโต๊ะ ก็คงทรุดฮวบลงไปทั้งตัวแล้ว
"อ๊ะ!...อาเกื้อ" เปล่งเสียงเรียกชื่อเขา แล้วก็ขบไรฟันลงกับริมฝีปากล่าง ส่วนบั้นท้ายขยับรับกับจังหวะการดูดกลืนจากเขา
เรียวลิ้นสากร้อนที่แทรกเข้า กวาดกระหวัดไปทั่ว ก่อนจะสลับใชเริมฝีปากเม้มเข้ากับติ่งอ่อนไหว น้ำหวานยิ่งพรั่งพรูออกจากหลืบเร้นอีก
"อาเกื้อขา!"
ยากมากที่ประคองตัวในยามนี้ แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมืออีกข้างที่จับขอบโต๊ะต้องเลื่อนไปจับศีรษะเขาผ่านกระโปรงแล้วขย้ำมือเข้า เธอไม่แน่ใจว่าต้องการให้เขาออกไป หรือเรียกร้องให้เขาลงลิ้นย้ำๆ เข้ากับจุดนั้น...
"อ๊ะๆๆ!"
บ้าที่สุด...ข้างนอกยังมีคนของเขาอยู่ เธอเปล่งเสียงร้องน่าอายขนาดนี้ วีรชาติคงรู้แล้วว่าภายในห้องนี้กำลังมอดไหม้ไปด้วยไฟแห่งตัณหาราคะจากผู้เป็นนายของเขา
แต่เขาก็หาสนใจไม่ว่าคนสนิทของเขาจะได้ยินเสียงร้องอันน่าอายของเธอหรือไม่...ยังคงแกล้งตวัดเรียวลิ้นเข้าร่องหลืบ กรีดขึ้นลงเป็นจังหวะ จนเกิดเสียงดังเซอะแซะไปด้วย
"อะ อาเกื้อขา..." เสียงหวานปนสะอื้น แล้วเธอก็เริ่มรู้สึกว่ามีน้ำใสๆ ไหลลงตามปลีน่อง ใกล้แล้ว... เธอจวนเจียนจะระเบิดความอัดแน่นที่สุมอยู่ตรงนั้นออกแล้ว
"อีกนิดค่ะ..." เธอเร่งเร้าให้เขารีบปลดปล่อยมัน ทว่า...
เขากลับผละออกหน้าตาเฉย
หญิงสาวแทบทรุดลงทันทีที่เขาปล่อยให้เธอค้างเติ่งอย่างทรมาน ดีที่ยังมือทั้งสองของเขาช่วยประคองเอวบางไว้ ขาข้างหนึ่งของเธอเริ่มสั่นหนัก เพราะเขาไม่ยอมทำให้เธอถึงจุดๆ นั้น
หญิงสาวเลื่อนแววตาหวานหลุบมองอย่างแสนเสียดาย แล้วเกื้อการุณก็ยิ้ม...เป็นการขยับยิ้มแค้ปาก แต่แววตามี่ประหนึ่งมีเปลวไฟแผดเผากลับดูกระด้าง
แล้วเกื้อการุณก็เลื่อนมือหนาข้างหนึ่งลงไปเคล้าคลึงกับเป้าที่นูนเด่นขึ้น วันนี้เขาจะทำให้มนัสยารู้ว่าเธอเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น เธอจะต้องการแต่เขา เรียกหาแต่เขา!
จากนั้นชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้น จับเธอพลิกตัวกลับไป ขณะที่มือข้างนั้นก็รีบปลดเข็มขัดและรูดซิบลงตาม
แกว๊ก...
"อ๊า..." ใจของเธอเต้นไหวยิบกับเสียงรูดซิบที่ดังขึ้นมา เธอหวังว่าเขาจะช่วยปลดปล่อยความทรมานนี้ต่อ เขาดันหลังเธอลงไปข้างหน้า จับสองขาเธอแยกออกเล็กน้อย มนัสยาก็เผลอแอ่นบั้นท้ายขาวเนียนรับ แล้วชายกระโปรงก็ถูกตลบขึ้นมากองแผ่นหลัง เกื้อการุณใช้มือประคองเอวบางขึ้นมาให้อยู่ในระดับ แล้วเร่งรูดรึงสิ่งที่ผงาดอยู่ในมือหนาตามไปอีก
"อะ อาเกื้อ..."
น้ำเสียงหวานเรียกเขาปนเสียงหอบ รอคอยการสอดลึกเข้ามาด้วยความพิศมัย แต่ว่าเกื้อการุณไม่ได้สอดสวมเข้าอย่างที่เธอปรารถนาให้เติมเต็ม แค่ใช้ส่วนหัวหยักบานแตะๆ คลึงๆ เล่นเข้ากับกลีบดอกไม้งามที่เปียกชุ่มเท่านั้น
เขาใจเย็นเกินกว่าที่เธอจะรับได้ มนัสยาเริ่มหงุดหงิด เธอเอี้ยวตัวกลับไป พร้อมกับทอดมองเขาด้วยความวิงวอน แต่ชายหนุ่มกลับยิ้มชั่วร้ายยั่วยวนกลับอย่างหน้าตาเฉย เขายังคงแค่ดันสะโพกสอบด้วยจังหวะเนิบช้าและแผ่วเบา
ให้ร่องอวบอูมด้วยพิษใคร่เสียดสีสัมผัสกับริ้วเอ็นขรุขระเล่นไปเรื่อยๆ รับฟังลมหายใจฮึดฮัดที่พวยพุ่งออกมาจากจมูกงามอย่างพึงพอใจ
มนัสยาบีบขอบโต๊ะแน่น หายใจแรงขึ้น "อาเกื้อขา...ช่วยที..."
ช่วยปลดปล่อยให้เธอพ้นจากความทรมานจากในเกมพิศวาสอันช่ำชองของเขาเสียที
.
"ยาหยีอยากได้อะไร"
และแล้วเธอก็ได้ยินเสียงแหบพร่าเขาถามขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากที่มุดเข้ามาในกระโปรงเธอแล้วออกมายืนทำแบบนี้ น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่ามีความทรมานไม่ต่างกัน
แน่นอนยิ่งเธอเสียดสีโดนเส้นเลือดที่ปูดโปนของเขา มันก็กำลังเต้นตุ๊บตั้บอย่างรอคอยการปลดปล่อยเหมือนกัน แต่ทำไมเขาถึงยอมทรมานตัวเองเพื่อแกล้งเธอด้วย
แกล้งเหรอ...แกล้งเธอด้วยเรื่องอะไร หรือว่า...
"อ๊ะ!" ขณะที่เผลอใจลอยนึกถึงหน้า 'พี่บลู' แค่แวบเดียว เขาก็ดันส่วนหัวหยักขึ้นมาแตะติ่งน้อย จนเธอต้องรีบสลัดภาพหนุ่มนักศึกษาปริญญาโทที่ญี่ปุ่นทิ้งไป
"หึ...บอกอามาสิ ว่ายาหยีอยากได้อะไร อยากได้แบบนี้เหรอ..." แล้วดันส่วนหัวเข้ากับติ่งน้อยอีก จนเธอสะท้านเกร็ง
ก่อนจะเลื่อนกลับลงมาจดจ่อที่ปากทางเข้าอันช่ำชื้นอย่างรวดเร็ว แล้วดันส่วนหัวเข้าไปเล็กน้อย
"...หรือแบบนี้"
"อ๊ะ! อาเกื้อ" ใจเธอจะขาดอยู่แล้ว
เกื้อการุณขบกรามแน่นยามดันส่วนหัวเข้าแล้วต้อวรีบถอนออก เพราะความคับแน่นได้ดูดกลืนตัวตนของเขาเข้าไปจนเกือบจะทานทนไม่ไหวเสียเอง
เขากลับมาเคลื่อนไหวเสียดสีกับร่องหลืบอีก
"อาเกื้อ... เอาเข้ามาเถอะค่ะ!" เธอยอมเปิดเปลือยความต้องการอันน่าละอายต่อเขาจนได้
เกื้อการรุณเลื่อนสองมือประคองเอวบาง แล้วค่อยๆ ดันลำรักร้อนผ่าวเข้าไปอย่างที่เธอต้องการ
"อ๊า..." มนัสยาเผลอแหงนหงายใบหน้าเชิดขึ้น พร้อมกับหลับตาพริ้ม ซึมซับการจมลึกอันน่าอภิรมย์ ทว่า เมื่อมันสอดลึกเข้ามาจนสุดลำ เขากลับไม่ขยับอย่างที่เธอวาดหวังอีก