กาหยูพาธยาดาเดินตรงมาที่โรงอาหารที่ปลูกแยกเป็นอาคารสองหลังทาด้วยสีส้มตัดสีขาว หลังหนึ่งไว้สำหรับคนงานต่างด้าว ส่วนอีกหลังเอาไว้สำหรับคนงานไทย อาคารหนึ่งหลังจุคนได้ประมาณหนึ่งร้อยคน
ธยาดามองไปรอบๆบริเวณเธอจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนเธอเป็นคนบอกกับภูรินทร์เองว่าอยากได้โรงอาหารที่แยกระหว่างคนไทยและต่างชาติ เนื่องจากอาหารการกินที่แตกต่างกัน ตอนนั้นแค่แปลนกันเอาไว้ไม่คิดเลยว่าที่พูดคุยกันเอาไว้ภูรินทร์จะทำมันให้เป็นจริงในวันนี้ มุมปากของเธอยกขึ้นนิดหน่อยเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต
ทันทีที่สองสาวเดินเข้ามาเสียงคนงานชายก็ดังเซ็งแซ่
"น้องสาวๆ มาใหม่เหรอจ้ะ"
ผู้ชายรูปร่างกำยำหน้าเหี้ยมคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นด้วยสายตากรุ่มกริ่ม
"ชื่ออะไรหรือจ้ะน้องสาว สวยจังเลย"
คนที่นั่งอยู่อีกโต๊ะก็สมทบขึ้น ธยาดายิ้มให้อย่างเป็นมิตรเพราะคิดได้ว่าไม่ควรทำตัวหยิ่งยโสใส่ใคร ถึงแม้ภายในใจจะรังเกียจการถูกแซวหรือแทะโลมด้วยด้วยตามากเพียงใดก็ตาม
คนงานเหล่านี้ธยาดาไม่รู้จักใครเลย เพราะเมื่อก่อนเธอไม่ค่อยได้ออกไปพบปะใครบ่อยๆ อีกอย่างภูรินทร์ห้ามเด็ดขาดไม่ให้ธยาดาไปแสดงตัวที่มีคนงานชายเยอะๆเนื่องจากไม่เป็นที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงสาวสวยอย่างเธอ อีกทั้งความหึงหวงของเขาก็ไม่เคยเกินใคร แต่วันนี้..เขากลับผลักไสเธอมาเสียเอง
"ชื่อยาดาจ่ะ"
ธยาดาตอบสั้นๆ เสียงโห่ก็ดังขึ้นทันที
"เสียงหวานจัง"
"เฮ้ๆๆ พวกเ*******ูทั้งหลายหุบปากเลย ก่อนที่บรรดาเมียๆจะมาตบกบาลเอา"กาหยูเป็นฝ่ายตอบโต้ขึ้นแทนธยาดาเพราะสังเกตุเห็นว่าธยาดารู้สึกกลัวแต่ไม่กล้าตอบโต้
ธยาดาเงียบกริบไม่ตอบคำถามอะไรกับใครอีก กาหยูรีบจูงเธอไปนั่งที่โต๊ะอีกมุม
"ทำไมนังกาหยู เอ็งอิจฉาละสิ ที่นังหนูคนนี่มันสวยกว่า ฮ่าๆๆ"
เสียงหัวเราะดังสลับกับเสียงก่นด่าของกาหยูส่งต่อกันไปมาจนธยาดารู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที
"หุบปาก กันทั้งหมดนั่นแหละ!"
อยู่ๆนายหัวภูรินทร์ก็โผล่เข้ามา ทุกคนอยู่ในความเงียบสงบทันทีเหมือนกดปิดสวิตซ์
"เป็นอะไรกัน ตอมกันหึ่งๆเหมือนแมลงวันตอมขี้ อย่าให้ฉันเห็นอีกนะไม่อย่างนั้นจะงดเลี้ยงอาหารเย็น"
ทุกคนนั่งเงียบกริบกันหมดแทบจะไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจ
ภูรินทร์ปรายตาไปมองที่ธยาดานิดหนึ่ง หญิงสาวก้มหน้าหลุบสายตาลงต่ำไม่กล้าสบตาของเขา กลัวภูรินทร์จะว่าเอาว่าพยายามแสดงตัวว่ารู้จักและเป็นอะไรกับเขามาก่อน
นาทีนี้การเจียมเนื้อเจียมตัวเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
"กินเถอะยาดา เธอยังไม่กินอะไรเลย"
กาหยูกระซิบบอก
"อย่าสนใจพวกนั้น ไม่มีใครกล้ามาแซวเธอแล้วล่ะ"
"กาหยู"
"ทำไมทำหน้าแบบนั้น?"
กาหยูถามขึ้นมาเมื่อเห็นธยาดาทำหน้าตาอึดอัดกับบรรยากาศคุกรุ่นในโรงอาหาร ซึ่งก็พอจะเดาออกว่าธยาดาไม่สะดวกใจมากินข้าวที่โรงอาหาร
"ยาดาว่ายาดาอยากทำกับข้าวกินเอง"
กาหยูหยุดคิดนิดนึงก่อนที่จะพยักหน้า
"ได้นะ บางคนก็ทำกินเอง แต่ว่าต้องออกตังซื้อกับข้าวเอง ซึ่งมันสิ้นเปลือง กาหยูเลยเลือกที่จะมากินที่โรงอาหาร"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวยาดาจะออกตังเอง ถ้าวันไหนกาหยูว่างก็มาทำกับข้าวกับยาดานะ"
"อืม ๆ ได้ๆ แต่วันนี้เธอต้องกินก่อนนะยาดา จ้วงเข้าปากไปเยอะๆสิ ดูตัวเธอผอมแห้งขนาดนี้จะเอาแรงที่ไหนไปกรีดยางคืนนี้"
"ห้ะ! คืนนี้เลยเหรอ?"
"ใช่! คืนนี้เลย เห็นพี่กล้าบอกกาหยูมาแบบนั้น"
กาหยูตอบกลับมาเป็นภาษากลางสำเนียงใต้ อยู่กับธยาดาเธอใช้ภาษาใต้ปนกับภาษากลางมั่วไปหมด แต่ธยาดาฟังออก เพราะสมัยก่อนเธอเคยให้ภูรินทร์เป็นคนสอนภาษาใต้ให้ จนธยาดารู้ความหมายเกือบหมดทุกคำแล้ว
"อิ่มยัง"
"อืม"
"มาๆ กาหยูเอาจานไปเก็บ"
"ไปด้วยกัน"
"ไม่เป็นไรๆเอามาเถอะ"
ธยาดาต้องยอมปล่อยมือให้กาหยูเอาจานไปเก็บเอง เธอแอบเห็นเหล่าคนงานชายมองมาทางเธอเป็นพักๆ หญิงสาวรู้สึกขยาดไม่น้อย
"ยั่วยวนผู้ชายที่อื่นได้ แต่อย่ามาทำที่นี่"
เสียงห้วนๆขาดๆของคนที่เธอคุ้นเคยดังขึ้น
"ยาดาเปล่านะคะ"
"แต่ผู้หญิงอย่างเธอคงไม่ได้เรียกว่ายั่ว เรียกว่าร่านเห็นผู้ชายเป็นไม่ได้"
น้ำเสียงที่กล่าวออกมาด้วยความหยาบคายและมีโทสะนั้นบาดลึกเข้าไปในซอกหลืบของหัวใจธยาดา
เธอเป็นฝ่ายเงียบงันไปเสียเอง ก่อนที่กาหยูจะเดินกลับมา เขาก็ผละออกไปทันที ใบหน้าตึงเครียดมีประกายตาแข็งกร้าวของเขาดั่งว่าไม่ใช่ภูรินทร์คนเดิมของเธอ เขาเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน
"ยาดา เมื่อครู่นี้นายหัวมาพูดกับเธอเหรอ?"
"อืม"
ธยาดาพยักหน้า
"พูดว่าอะไรเหรอ?"
"ไม่มีอะไร แค่ทักทายนิดหน่อย"
"อ๋อ แปลกนะ ปกติแล้วนายหัวไม่เคยลงมาที่โรงอาหารแบบนี้เลย ทำไมไม่รู้วันนี้ถึงมาได้"
"คงบังเอิญแหล่ะ"
"ไปกันเถอะ ป่านนี้พี่กล้าคงเอาฟูกที่นอนหมอนมุ้งมาให้แล้วล่ะ เธอจะได้อาบน้ำก่อนที่จะมืดค่ำเสียก่อน"
ธยาดาพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เธอไม่กล้าหันไปมองเหล่าพวกคนงานชายพวกนั้นอีก ส่วนกลุ่มผู้หญิงก็เอาแต่กระซิบกัน แถมยังมองมาที่ยาดาเป็นระยะๆ ไม่บอกก็รู้ว่ากำลังพูดถึงเธอกันอยู่แน่ๆ หรือเอาตรงๆก็เรียกว่านินทานั่นแหละ