บ้านทรงปั้นหยาประยุกต์ลักษณะบ้านสองชั้น เนื้อที่ใช้สอยประมาณ145 ตร.ม ไม่มีรั้วรอบขอบชิด
เนื่องจากตัวบ้านตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของนายหัวภูรินทร์ หนุ่มหล่อคมเข้มอายุสามสิบปีผู้มีมาดนิ่งสุขุมและเคร่งขรึมตลอดเวลา
รอบๆอณาเขตบนเนื้อที่หลายร้อยไร่ของนายหัวภูรินทร์มีทั้งสวนยางพารา ถัดไปก็สวนกาแฟ รวมไปถึงสวนปาล์ม มีบ้านพัก(กงซี้)สำหรับคนงานสร้างไว้เป็นห้องแถวอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านของนายหัวเท่าไหร่
เรียกได้ว่าเหมือนหมู่บ้านเล็กๆที่หล่อเลี้ยงทั้งคนงานไทยและคนต่างชาติเอาไว้เกือบสองร้อยชีวิต กงซี้คนงานส่วนมากเข้ามาพักอาศัยอยู่กันเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกหรือไม่ก็ญาติพี่น้อง คนใต้นิยมเรียกลูกจ้างว่า ลูกกุลี
"ภู!" เสียงตะโกนเรียกชื่อนายหัวภูรินทร์ดังอยู่หน้าบ้าน
ภูรินทร์รีบเดินออกมาพร้อมกับลูกน้องผู้ชายอายุประมานยี่สิบปีสองคน หญิงสาวคนนั้นยิ้มกว้างอย่างดีใจทันทีที่นายหัวภูรินทร์ปรากฏต่อหน้าเธอ ดวงตากลมโตสวยหวานคู่นั้นทอประกายความคิดถึงอย่างที่สุด ก่อนที่ร่างอรชรจะโผเข้ามาหาหวังจะเข้าไปกอดชายอันเป็นที่รักให้หายคิดถึง
"อย่าเข้ามา!"
ทว่า!
เสียงตวาดของผู้ชายหน้าตาคมเข้มผิวคล้ำสองสีทำให้เธอต้องหยุดชะงักมองเขาด้วยสายตาสับสน ภูรินทร์หลีกหนีหญิงสาวที่พยายามโผเข้ามาหาตนเองด้วยความรังเกียจ
"พาตัวออกไป"
ภูรินทร์หันไปสั่งลูกน้อง
"นายหัวครับ นี่คือนายหญิงไม่ใช่เหรอ?"
นายกล้าหนึ่งในลูกน้องของภูรินทร์กล่าวขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นกล้ายังนิ่งเฉยไม่ทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายแต่อย่างใด
"ฉันบอกให้ลากออกไป"
แต่ดูเหมือนว่านายหัวภูรินทร์จะไม่สนใจคำพูดของกล้ายังคงยืนกรานให้เอาตัวธยาดาออกไปให้ได้
"ภู นี่ ยาดาไงคะ ยาดากลับมาแล้วค่ะ "หน้าสวยยังคงฝืนยิ้มออกมา ธยาดายังรู้สึกดีใจที่เจอเขาแต่ก็รู้สึกเสียใจพอๆกัน ดีใจที่ได้กลับมาเจอคนรักอีกครั้งและเสียใจที่ถูกเขาขับไล่ไสส่งในทันทีที่เจอหน้ากัน
"ยืนมองอะไรกันอยู่บอกให้ลากนังแพศยาออกไป!"
แต่ภูรินทร์ก็ไม่ฟังเหมือนเดิมเขาบันดาลโทสะออกมาอย่างโกรธขึ้ง
"แพศยาเหรอ..ทำไมภูพูดกับยาดาแบบนั้น?"
ธยาดาเอ่ยถามด้วยน้ำตานองหน้ารู้สึกช็อกกับคำกล่าวหาของเขา ร่างเพรียวสั่นพร่ารู้สึกอ่อนระโหยโรยแรงแทบจะล้มทั้งยืน ที่โดนเขาไล่เหมือนหมูหมาแบบนี้ อย่างกับว่าธยาดาเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจในชีวิตเขา
ลูกน้องของภูรินทร์ยังคงยืนเก้ๆกังๆไม่กล้าลากเธอออกไป เนื่องจากจำได้ว่าห้าปีก่อนผู้หญิงคนนี้คือนายหญิงของที่นี่ ซ้ำยังเป็นนายหญิงที่เป็นที่รักของทุกคน
ธยาดา คืออดีตภรรยาสาวสวยของภูรินทร์ที่หายไป เสียงเล่าลือว่าเธอหนีตามชายชู้ไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ตอนแรกๆนั้นภูรินทร์ก็ไม่เชื่อใครสักคน
แต่เมื่อได้เห็นรูปแต่งงานเต็มสองตาทำให้เขาต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัสอยู่เป็นแรมปี ที่รอดมาได้เพราะมีลูกน้อยที่ธยาดาทิ้งไว้เป็นกำลังใจให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป
"โดนผัวรวยที่กรุงเทพทิ้งมาเหรอ วันนี้ถึงได้ซมซานกลับมา?"
คำถามแรกผุดขึ้นมาหลังจากที่เห็นแล้วว่าไม่มีใครกล้าลากตัวเธอออกไป
"ไม่ใช่นะภู คือว่า.."
ธยาดาอ้าปากจะอธิบาย
"หยุดไม่ต้องพูด ฉันไม่อยากฟังเรื่องราวตอแหลอะไรจากเธอทั้งนั้น ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้"
ภูรินทร์แค่นยิ้มอย่างเยาะหยันออกมา ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากไล่เธอเป็นครั้งที่สี่ ธยาดาถึงกับน้ำตาร่วง!
"ภูฟังยาดาอธิบายก่อนนะคะ ยาดาพูดความจริง ยาดาคิดถึงลูก คิดถึงภู ยาดาขออยู่ที่นี่ด้วยนะ ได้โปรดเถอะ"
ธยาดาอ้อนวอนสุดชีวิต
"ลูกเหรอ อย่ามาพูดให้ลูกได้ยินเชียวว่าเธอเป็นแม่ แม่ที่เป็นแค่ผู้ให้กำเนิด"
"ได้ ให้ยาดาอยู่ในฐานะอะไรก็ได้ ยาดายอมทั้งนั้น"
ธยาดาคุกเข่าลงพนมมือไหว้พร้อมกับสายตาอ้อนวอนที่มีน้ำตาเอ่อล้นอยู่เต็มขอบตา ธยาดาจำได้ว่าเธอไม่เคยพูดโกหกตอแหลอะไรเขาเลย แต่ เหตุใดเล่าคนที่เธอคิดว่าเขาจะอ้าแขนรับเธอไว้หลังจากที่เธอเจอเรื่องทุกข์ยากกลับมา แต่เขากลับแสดงความเกลียดชังมากมายถึงเพียงนี้
"ได้ ฉันให้เธออยู่ก็ได้"
ธยาดาคลี่ยิ้มออกมา เมื่อภูรินทร์อนุญาตให้เธออยู่
"กระท่อมท้ายสวนยาง คือที่พักของเธอ กับข้าวกินรวมกับคนงาน ตกกลางคืนก็ต้องออกไปกรีดยาง คนงานทำอะไรเธอก็ทำแบบนั้น"
ธยาดาถึงกับหุบยิ้มเมื่อได้ยินแบบนั้น
"ทำไม ทำไม่ได้ก็ไสหัวออกไป"
ภูรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงห้วนมองธยาดาด้วยแววตาที่เกลียดชังเหมือนเดิม
"ได้สิ ยาดาอยู่ได้"
"ดี ไอ้กล้า พาคนงานใหม่ไปดูที่พักด้วย ส่วนเธอมีอะไรไม่เข้าใจก็ถามไอ้กล้าเอา และที่สำคัญอย่าเดินมาเพ่นพ่านที่บ้านของฉันโดยเฉพาะกับหนูดี ห้ามเธอเข้าใกล้เด็ดขาด"
"ได้ ยาดาจะไม่เข้าใกล้ลูก"
"คุณหนูดี เธอต้องเรียกว่าคุณหนูดี ไม่ใช่ลูก หนูดีไม่ใช่ลูกของเธอ"
ธยาดาก้มหน้าหลุบสายตาลงต่ำ น้ำตาไหลรินเต็มสองแก้ม ธยาดาได้แต่บอกตัวเองว่าต้องอดทนเพื่อลูก และอดทนจนกว่าภูรินทร์จะเข้าใจเธอ
"ได้ค่ะภู แค่ยาดาขอมองดูลูกอยู่ห่างๆก็พอค่ะ แค่นี้ยาดาก็คงได้รับความเมตตามากแล้วในสายตาของภู"
ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจจู่โจมเข้ามา คนที่ธยาดาคิดว่ารักเธอที่สุด กลับไม่เชื่อใจสักนิด ตัดสินเธอเป็นจำเลยไปแล้ว ที่เธอหายตัวไปห้าปีเต็ม เขาก็ไม่เคยคิดออกตามหาเลยเหรอ ใช่สิ!ธยาดาจะต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในระหว่างที่เธอหายตัวไปห้าปีเต็ม
"ไปได้แล้ว เห็นหน้าเธอนานๆฉันจะอ้วก"
พูดคำเสียดสีทำร้ายใจเสร็จภูรินทร์ก็เดินออกไป
"นายหญิงไปกันเถอะ"
"อย่าเลยกล้า อย่าเรียกฉันว่านายหญิง ฉันคงไม่ใช่เมียของนายหัวของกล้าอีกต่อไปแล้วล่ะ"
กล้ามองผู้เป็นอดีตนายหญิงด้วยความสงสาร แท้จริงแล้วธยาดาเป็นคนที่มีจิตใจดีมาก เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าธยาดาจะหนีตามชายชู้ไปตามที่เป็นข่าวลือ