.
.
.
.
.
‘Cabin crews ready for landing’
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เจ้านกยักษ์ลดระดับเตรียมร่อนลงสู่พื้นโลกอย่างช้าๆก่อนที่ล้อจะแตะลงกับพื้นดิน ผู้โดยสารบนเครื่องต่างพากันมองวิวทิวทัศน์รอดผ่านกระจกบานน้อยจากตัวเครื่อง และแล้วเจ้านกเหล็กก็หยุดสนิทลงโดยที่ผู้โดยสารต่างทยอยพากันลงจากตัวเครื่องแล้วตรงไปเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองพร้อมกับรับสัมภาระ
“แล้วไปไงต่ออ่ะเธอ” ชายหนุ่มที่ลากสัมภาระของตัวเองหันมาถามเพื่อนหญิงที่มาด้วยกัน
“ก็ว่าจะเอาของไปเก็บที่โรงแรมก่อนแล้วค่อยไปหาอะไรกินน่ะ แล้วนายหละ?”
“อืมม ยังไม่รู้เลย”
“อ้าวแล้วไม่ได้จองที่พักไว้หรอ?” เฟรินเลิกคิ้วมองอย่างประหลาดใจ คนบ้าอะไรจะมาเที่ยวทั้งทีกลับไม่เตรียมความพร้อมอะไรเลย!
“ก็ฉันกะจะมาพักกับแสนดีน่ะสิ แต่ลืมไปว่ามาถึงก่อนวันเกิดแสนดีวันนึง -.- ฉันลืมคิดไป..”
“ไอ้บ้า! - - โว๊ะ หงุดหงิดเลย แล้วไงจะเอาไงหละทีนี้” คราวนี้คนตัวเล็กยืนกอดอกพร้อมกรอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่ายใจ
“ก็.. ไหนๆแล้วคืนนี้ขอพักกับเธอสักคืนสิ แฟนเธอก็ยังไม่มานี่”
“ไม่!” คนตัวเล็กรีบตอบสวนกลับไปแบบแทบไม่ต้องคิด
“นะ นะๆๆๆๆ น้าาาาาาา” คนตัวใหญ่กว่าละมือจากกระเป๋าสัมภาระมาเกาะแขนเล็กแทนพร้อมเขย่าเบาๆราวกับเด็กน้อย
“= = หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย ไม่ใช่เด็กละนะรัน อายเค้า” แน่นอนแหละก็พวกเขายังอยู่ในสนามบินนี่มีหรือที่จะไม่ตกเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้าง
“เธอก็ยอมฉันก่อนสิ! -____,-” ปากหยักกระตุกยิ้มอย่างมีนัย
“เออ! ยอมก็ได้ งั้นก็รีบๆไปกันสักที ฉันอายคน!” ร่างเล็กรีบสะบัดแขนออกพร้อมจะรีบเดินดุ่มหนีไปปล่อยให้เพื่อนรักวิ่งตามไปพร้อมกับหัวเราะอย่างผู้มีชัย
ใช้เวลาเกือบครึ่งชม.ในการเดินทางจากสนามบินมาถึงที่พักที่จองไว้ ทั้งสองตรงเข้าไปเช็คอินและเก็บสัมภาระให้เข้าที่ก่อนจะมานั่งปรึกษาหารือกันว่าจะออกไปหาอะไรกินที่ไหน ที่เที่ยวของที่นี่มีที่ใดบ้างแต่พอรู้ตัวอีกทีพระอาทิตย์ก็แทบจะเลือนลับไปจากฟากฟ้าเสียแล้ว
“เฮ้ย! ค่ำแล้วอ่ะ TvT อดไปกินข้าวข้างนอกเลย เพราะนายนั่นแหละมัวแต่เพ้อบ้าบออะไรอยู่ก็ไม่รู้”
“ไม่ได้เพ้อบ้าบอสักหน่อย ฉันแค่วางแผนอยู่ว่าพรุ่งนี้จะไปเซอร์ไพรท์ยังไงดี”
“นั่นมันเรื่องของนาย แต่นายทำฉันเสียเวลาไปด้วยเนี่ย”
“งั้นวันนี้กินข้าวที่เลาจ์ของโรงแรมละกันนะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเองโอเคป้ะ? -.-”
“ดี! ให้ไวเลยฉันหิวแล้ว” ตอบไปอย่างไม่คิดเลยแน่นอนแหละก็ข้าวฟรีนี่ใครเขาจะปฏิเสธกัน!
“งั้นก็หยุดบ่นได้ละ ป่ะๆ ลุกๆ”
อาจจะเพราะเหนื่อยจากการเดินทางหรืออะไรก็ตาม ทั้งสองต่างก้มหน้าก้มตากินอย่างไม่ค่อยได้มีบทสนทนากันเสียเท่าไหร่เพื่อจะรีบกลับห้องมาอาบน้ำและพักผ่อนกัน ..
คนตัวเล็กที่อาบน้ำชำระร่างกายแล้วนอนม้วนตัวอยู่ในผ้าห่มราวกับเด็กๆพลางมองเพื่อนชายที่อยู่อีกเตียงพร้อมกับโน๊ตบุ๊คบนตัก ด้วยท่าทางมุ่งมั่นแบบนั้นก็ทำให้คนตัวเล็กอดสงสัยไม่ได้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
“ทำไรอ่ะ? ไม่ง่วงหรอ”
“ง่วงแล้ว แต่ฉันต้องหาร้านดอกไม้กับลูกโป่งใกล้ๆแถวนี้ก่อน”
“จะทำให้พี่แสนดีหรอ?”
“อื้ม” ร่างสูงที่เอาแต่จดจ้องกับหน้าจอเพียงแต่พยักหน้าและครางตอบรับในคอสั้นๆ
“โอเคงั้นฉันนอนก่อนละกัน ฝันดี” ว่าจบร่างเล็กก็พลิกตัวหันหลังให้อีกคนพร้อมพริ้มตาลง.. เหลือเพียงให้สติที่เหลืออยู่มันดับไปเอง..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
‘ทำไมฉันไม่โชคดีเหมือนผู้หญิงคนนั้นบ้างนะที่มีแฟนใส่ใจอย่างนาย..’
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องเข้ามากระทบร่างสูงโปร่งของใครบางคนที่กำลังงุ่นอยู่หน้ากระจกกับการเลือกเครื่องแต่งการในวันสำคัญของเขา ตาคมเหลือบมองตัวเองในกระจกก่อนจะสะบัดหัวเบาๆแล้วใช้มือปัดตามเพื่อจัดทรงผม
“แค่นี้ก็พอแล้วหละมั้ง ว่าแต่..ยัยนี่จะตื่นตอนไหนกันหละเนี่ย” ว่าแล้วก็หันกลับไปมองร่างเล็กที่นอนซุกผ้าห่มอยู่บนเตียง
“เดี๋ยวก็คงตื่นหละมั้งเขียนโน๊ตไว้ดีกว่า” ร่างสูงเดินไปหยิบสมุดพกในเป้ก่อนรีบเขียนข้อความบางอย่างลงในสมุดอย่างรวดเร็วก่อนจะวางมันไว้ข้างเตียงอีกคนและลากสัมภาระของตัวเองออกจากห้องไป
‘ขอบใจมากสำหรับที่พักเมื่อคืน! ฉันสั่งรูทเซอร์วิสไว้ให้เธอเป็นการตอบแทนแล้ว
ไว้เจอกันตอนแฟนเธอมาถึงละกัน Thanks!’
“เอาของไปฝากไว้ก่อนละกันแล้วค่อยไปรับของที่สั่งไว้” ร่างสูงพึมพัมกับตัวเองเบาๆก่อนจะมุ่งหน้าไปยังที่รับฝากสัมภาระแล้วรีบปรี่ตรงไปยังร้านเป้าหมายเพื่อรับลูกโป่งและดอกไม้ที่เขาสั่งไว้เมื่อคืน
“หวังว่าเธอจะชอบมันนะแสนดี ฉันคิดถึงเธอมากๆเลย .. โว้ยยย แบบนี้ไหมวะ ไม่ดิๆลืมพูดสุขสันต์วันเกิด” ชายหนุ่มเดินไปซ้อมบทพูดไปตามถนนตามที่อยู่ที่เขาเคยได้รับมาพร้อมกับสิ่งของในมือเพื่อไปเซอร์ไพรท์แฟนสาว
“สุขสันต์วันเกิดนะแสนดี ฉันหวังว่าเธอจะชอบมันนะ แบบนี้ดีป้ะวะ =_= แบบไหนดีวะ” ร่างสูงสบถถกเถียงอยู่กับตัวเองพักใหญ่จนเมื่อรู้ตัวอีกทีเขาก็มาหยุดยืนอยู่หน้าคอนโดสูงตระง่านตรงหน้า..
“ที่นี่สินะ. ..ตื่นเต้นชะมัดเลย” ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับอาการตื่นเต้นลงก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าไปยังเคาน์เตอร์
“สวัสดีค่ะ Skyland Condo ยินดีให้บริการค่ะ” หญิงสาวกล่าวทักทายลูกค้า
“เอ่อ สวัสดีครับพอดีผมมาพบเพื่อนน่ะครับ อยากทราบว่าห้อง 845 อยู่ห้องไหมครับ”
“สักครู่นะคะ” พนักงานสาวก้มลงมองที่หน้าจอครู่หนึ่งก่อนจะได้คำตอบ
“อยู่ค่ะคุณลูกค้า ให้โทรเรียกให้ไหมคะ?”
“โอ้ ไม่เป็นไรครับขอบคุณครับ ผมกาเซอร์ไพรท์น่ะครับ” ชายหนุ่มโค้งหัวให้แทนคำขอบคุณก่อนจะผละตัวออกมาแล้วล้วงเอาเครื่องมือสื่อสารเครื่องหรูของตัวเองขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกไปยังเบอร์ห้องพักของแฟนสาวที่เขาใช้ติดต่อกันอยู่บ่อยครั้ง
‘ฮัลโหล’ รอครู่หนึ่งก็ได้รับการตอบรับจากปลายสาย
“ฮัลโหลแสนดี~ ไหนทายซิใครเอ่ย” ร่างสูงอมยิ้มไปพูดไปเพียงแค่ได้ยินเสียงหัวใจเขาก็เต้นแทบเป็นจังหวะ
‘อ้าว รันเองหรอทำไมโทรเข้าห้องหล่ะ ไม่โทรเข้ามือถือฉันล่ะ?’
“ปิ๊งป่อง~ ถูกต้องครับ ก็ฉันรู้ไงว่าเธออยู่ห้องก็เลยโทรเข้าห้อง”
‘นายนี่เดาเก่งจังเลยนะ แต่ถ้าช้ากว่านี้นิดนึงนี่ฉันกำลังจะออกไปข้างนอกแล้วล่ะ’
“ออกไปไหนอ่ะ?”
‘เอ่อ.. ไปทานข้าวกับเพื่อนน่ะ’
“อ้อหรอ อืม..วันนี้เธออยากเจอฉันไหม?”
‘..ก็ ..ก็ต้องอยากเจออยู่แล้วสิ’
“งั้นถ้าขอพรวันเกิดได้ เธอก็ขอให้ฉันไปอยู่กับเธอวันนี้สิ” แม้คำตอบเมื่อครู่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆแต่มันก็ยังดีใจที่ได้ยินมันอยู่ดี
‘แน่นอนอยู่แล้วฉันจะอธิษฐานให้เราได้อยู่ด้วยกันในวันนี้ แค่นายไม่ลืมฉันก็ดีใจแล้วหล่ะ’
“จะลืมได้ยังไงล่ะก็วันเกิดคนสำคัญของฉันนี่.. สุขสันต์วันเกิดนะแสนดี ขอให้เธอมีความสุขมากๆนะขอให้เรียนจบไวๆแล้วรีบกลับมาหาฉันด้วย ฉันคิดถึงเธอจะแย่อยู่แล้ว” น้ำเสียงอบอุ่นกล่าวออกไปจากใจหวังให้มันสื่อผ่านโทรศัพท์ไปถึงปลายสาย
‘อื้ม..’
“งั้น..งั้นเธอออกไปธุระเธอเถอะ ขอให้สนุกมากๆนะในวันเกิดไว้เธอกลับห้องแล้วค่อยโทรหาฉันก็ได้” คำตอบเพียงสั้นๆนั่นก็ทำให้เจ้าตัวเองต่อบทสนทนาไม่ถูกเช่นกัน แต่ก็ไม่เป็นไรอาจจะเพราะเจ้าหล่อนต้องรีบออกไปทำธุระคงไม่มีเวลามาต่อบทสนทนาให้ยืดยาว
‘รัน.. ขอบคุณนะ’ เสียงใสกรอกกลับมาเบาๆเพียงเท่านี้ก็ทำให้คนฟังยิ้มจนหัวใจแทบจะระเบิด
“ยินดีครับ รักเธอนะแสนดี”ปากว่าพลางสายตาจับจ้องดอกไม้ช่อโตในมือพร้อมรอยยิ้มที่เหยียดออกมาเต็มรูปรับกับใบหน้าหล่อเหลานั่น
‘ไว้คุยกันใหม่นะ บาย’ เพียงเท่านั้นก่อนปลายสายจะตัดไป
“เธอต้องตกใจแน่ๆเลยที่คำอธิษฐานของเธอเป็นจริงเร็วขนาดนี้” ร่างสูงค่อยๆนั่งลงที่ล็อบบี้ของคอนโดเพื่อรอให้คนที่เขาเฝ้ารอลงมาและต้องตกใจกับการเซอร์ไพรท์ครั้งนี้
ติ๊ง..ตึ่ง.. เวลาผ่านไปครู่หนึ่งก่อนที่เสียงลิฟท์โดยสารจะมาถึง เสียงดังกล่าวเรียกสายตาที่กำลังจดจ้องบนหน้าจอโทรศัพท์ให้เงยขึ้นมองเพื่อเช็คว่าเป็นที่เขารอหรือไม่ เมื่อเห็นร่างเล็กที่ก้าวนำออกมาจากลิฟท์ร่างสูงก็ค่อยๆยืนขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าคมคาย
“แส..น..ดี” ร่างหนาชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นบุคคลที่ตามออกมาเป็นหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวร่างสูงใหญ่มาดนักธุรกิจเดินตามออกมาเกือบจะเคียงข้าง คิ้วหนายิ่งขมวดเข้าหากันเป็นปมแน่นเมื่อเห็นว่ามือทั้งสองจับกันไว้แน่นราวกับ...
’คู่รัก’
“ร รัน..” ขาเรียวชะงักตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อเห็นบุคคลที่ไม่ควรจะอยู่ที่นี่
“....” ทั้งสองฝ่ายต่างเงียบราวกับเวลารอบพวกเขาได้หยุดเดินไปครู่หนึ่ง
“ใครน่ะแซนดี้?” เสียงบุคคลที่สาวเอ่ยขึ้นเรียกสติของทั้งสองที่ผละเข้าไปในภวังค์ให้กลับมา
“..อ่..เอ่อ ค คนรู้จักน่ะ” เสียงเล็กเอ่ยออกมาอย่างไม่เต็มเสียงนักพร้อมกับสายตาที่ไม่อาจละไปจากบุคคลตรงหน้า
“....” เพียงได้ยินสถานะที่เธอมอบให้หัวใจที่เคยเต้นแรงกับบีบรัดตัวเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จู่ๆลมหายใจก็ติดขัดอย่างไม่มีเหตุผลก้อนเหนียวหนืดฝืดติดอยู่ในลำคอ..
“ร เราไปกันเถอะค่ะ”ว่าแล้วไม่รอช้ารีบดึงมือชายร่างใหญ่ให้ออกไปตามทิ้งให้ชายหนุ่มอีกคนมองตามด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
“.......” ร่างสูงค่อยๆทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ตัวเดิมจู่ๆของเหลวบางอย่างค่อยๆไหลพาดลงอาบแก้มอย่างไม่อาจห้ามได้
“......” ไม่มีคำพูดใดๆหรือเสียงใดๆหลุดรอดออกมาหรือแม้แต่เสียงสะอื้นเพียงสักนิด.. ความรู้สึกแน่นไปทั้งอก แน่นจนเริ่มรู้สึกได้ถึงความร้าวรานอยู่ในอก
“.....” ร่างใหญ่ตั้งสติเฮือกใหญ่ก่อนลุกขึ้นนำเอาของที่นำมาไปฝากไว้ให้เจ้าของวันเกิดก่อนจะเดินเตร่ออกไปอย่างไร้วิญญาณ... ดวงตาที่เหม่อลอยออกไปไกลแบบไม่มีเป้าหมาย ขอเพียงได้ออกจากที่ตรงนี้เพื่อไปหาที่สักที่ที่เขาสามารถพักและร้องไห้ออกมาได้..เพียงเท่านี้ ตอนนี้ไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้แล้ว เมื่อหัวใจไม่สามารถทำงานได้แล้วกีแต่เพียงสมองที่สั่งการแทนให้ร่างกายเดินต่อไป...อย่างไร้จุดหมาย..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
‘..มันเจ็บ.. เจ็บจนแทบไม่มีแรงจะเดิน..ไม่มีแม้กระทั่งแรงจะหายใจ..’
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“เฮ้อ..”ร่างบางที่นั่งขดตัวนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาได้แต่นั่งมองนาฬิกาพลางมองสลับกันไปมากับโน๊ตที่อีกคนทิ้งไว้ ตั้งแต่เช้าจนเวลานี้เย็นย่ำค่ำตะวันลับแล้วเจ้าหล่อนก็ยังไม่ได้ข่าวคราวจากเพื่อนคนนั้นเลย จริงๆแล้วคนตัวเล็กเองก็กะจะออกไปเที่ยวเองวันนี้แต่ติดที่เธอดันตื่นสายเกือบจะบ่ายแล้วเสียด้วยซ้ำ กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ค่ำเสียแล้ว..
“คงมีความสุขกันน่าดูสินั่น เงียบเชียวไม่ส่งข่าวเลย” บ่นอุบอิบกับตัวเองพลางย่นจูกน้อยๆอย่างเซ็งๆ
“คอยดูนะพรุ่งนี้ฉันจะไปเที่ยวคนเดียวให้สนุกกว่าพวกนายเลย! เชอะ!” ว่าไปไม่ทันขาดคำเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก.. เสียงเคาะจากบุคคลปริศนาดังขึ้นหน้าประตูห้องก่อนท่เจ้าของห้องตัวน้อยจะค่อยๆย่องไปส่องดูที่ตาแมวด้วยความสงสัย
“= =ใครอ่ะ..ไม่ได้นัดใครไว้นี่นา หรือพนักงาน? รันสั่งไรมาให้อีกป้ะวะ” ว่าแล้วก็ชะโงกส่องผ่านตาแมวก่อนจะพบดวงหน้าอันหมองเศร้าของเพื่อนชาย
“ร รัน!” ร่างบางรีบเปิดประตูให้อย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ได้รับตอบรับใดๆจากเจ้าของชื่อเขาเพียงแค่เดินเข้ามาและค่อยๆนั่งลงบนโซฟา
“...” ท่าทางของเพื่อนรักยิ่งทำให้เจ้าหล่อนเป็นห่วง
“รัน... นาย..โอเครึเปล่า” เสียงแผ่วเบาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“....” มีเพียงความเงียบงันแทนคำตอบ
“รัน...” เสียงเรียกอันเบาบางดังขึ้นพร้อมกับมือเล็กที่ค่อยๆวางลงบนไหล่กว้างของร่างสูง
“.....” เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงโดยที่ร่างสูงเอาแต่นั่งเงียบไม่มีแม้กระทั่งสีหน้าที่แสดงถึงอารณ์ตอนนี้..มีเพียงใบหน้าอันเรียบเฉยกับดวงตาที่เหม่อลอยไร้แววและคราบน้ำตาที่ยังชุ่มอยู่ตลอดเวลาบนแก้ม...
“เราไปดื่มกันหน่อยไหม?ที่บาร์ของโรงแรม” พูดลอยๆออกไปไม่ได้คาดหวังเอาคำตอบแต่ก็ผิดคาด
“เอาสิ” เสียงทุ้มต่ำตอบกลับมาอย่างไร้อารมณ์
“งั้นรอฉันแปปนึงนะ” คนตัวเล็กรีบลุกขึ้นไปเปลี่ยนเป็นชุดเดรสเพื่อออกไปข้างนอกแต่ก็ไม่ได้แต่งอะไรมากมายเอาแค่พอไม่ให้น่าเกลียดจนเกินไป
“...” ร่างหนาไม่ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้ารับเพื่อแสดงอาการรับรู้
“ไปกันเถอะ” ร่างเล็กหยุดยืนตรงหน้าเพื่อนชายพร้อมยื่นมือไปหาเพื่อดึงรั้งร่างหนาตรงหน้าให้ลุกตามมา
“...” มือหนายื่นไปจับกับมือเล็กตรงหน้าก่อนออกแรงดึงเบาๆเพื่อรั้งร่างกายตนเองให้ลุกขึ้น ทั้งสองเดินลงไปยัง
ล็อบบี้ของโรงแรมเพื่อผ่านไปยังบาร์ที่อยู่ชั้นใต้ดิน ระหว่างทางไม่มีบทสนทนาใดๆหรือแม้กระทั่งกล่าวถามสาระทุกข์สุขดิบอย่างที่เคยทำ..
เสียงเพลงแจ๊สบรรเลงคลอรับกับบรนยากาศสลัวๆด้านในบาร์ที่ผู้คนพลุกพล่านแต่ก็ไม่ได้วุ่นวายจนเกินไปตามสไตล์ชาติตะวันตก บ้างจับกลุ่มคุยกัน บ้างนั่งคลอเคลียร์ บ้างยืนกอดกันโยกย้ายเบาๆตามบทเพลงบรรเลง ทั้งสองเลือกที่นั่งเป็นบาร์ที่มีบาร์เทนเดอร์คอยให้บริการเพื่อความสะดวก
“สวัสดีครับ รับอะไรดีครับ ^^” บาร์เทนเดอร์หนุ่มหน้าตาดีกล่าวต้อนรับพร้อมสอบถามความต้องการ
“ผมขอ Neat Whisky 1 ครับ” เสียงทุ่มสั่งสั้นๆพร้อมมองบรรยากาศรอบๆด้วยนัยตาเศร้าหมองอย่างเด่นชัด
“ฉันขอ..อืม.. ไวน์ Duckhorn ละกันค่ะ ^^” คนตัวเล็กส่งยิ้มให้พนักงานก่อนหันกลับมามองชายหนุ่มข้างๆอย่างเป็นห่วง
“...” ร่างสูงข้างๆก็ยังคงความเจ็บช้ำนั้นไว้ในใจอย่างเดิมแต่มีหรือที่คนข้างๆเขานั้นจะไม่สามารถรับรู้มันได้จากดวงตาคู่นั้น
“รัน..มีอะไรคุยกันได้นะ” แม้รู้ว่ามันคงจะไม่เป็นการดีที่ถามออกไปอย่างนี้แต่ถ้าเจ้าหล่อนไม่รู้อะไรเลยเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยปลอบใจเพื่อนรักคนนี้ได้อย่างไร
“.....” เจ้าของชื่อหันมาตามเสียงเรียกชื่อคิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างเห็นได้ชัด
“อ..เอ่อ ..ฉันขอโทษ..” คนตัวเล็กรีบก้มหน้างุดทันทีเมื่อรู้ว่าเธออาจจะทำให้เขาไม่พอใจ
“...เฮ้อ.. เขามีคนอื่นหละ” ลมหายใจถูกพ่นออกมาหนักๆก่อนเอ่ยประโยคสั้นๆที่สามารถอธิบายเรื่องทั้งหมดได้
“...นาย..โอเครึเปล่า” ปากบางเม้มเข้าหากันแน่นจู่ๆก้อนเหนียววิ่งขึ้นมาหนืดอยู่ที่คอ
“หึ เธอนี่ก็ถามออกมาได้ ฉันจะโอเคได้ยังไงหละ... แม่งเอ้ย” มือหนายกนำสีอัมพันขึ้นมาดื่มจนหมกก่อนจะยื่นให้พนักงานเพื่อขอเพิ่ม
“...” คนตัวเล็กเองแม้อยากจะช่วยปลอบใจเพียงใดเจ้าหล่อนก็ทำได้แค่วางมือไว้บนไหล่กว้างนั้นเบาๆก่อนจะออกแรงบีบมันแน่นเมื่อเห็นธารน้ำใสๆไหลลงผ่านแก้มของใบหน้าคมนั่น... ครั้งแรก..ครั้งแรกตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา..เป็นครั้งแรกที่ร่างบางเห็นผู้ชายคนนี้หลั่งน้ำตาลูกผู้ชาย
“ฉันแม่ง ไม่น่าต้องมาเจออะไรแบบนี้เลย ทั้งๆที่ทุ่มเทให้เขาตลอด ทั้งๆที่เชื่อมาตลอดว่าเขารักแค่ฉัน ทั้งๆที่สัญญากันว่าถ้าเราเรียนจบแล้วจะแต่งงานกัน แต่แม่งก็พังหมด... หมดแล้ว ฮึก ใจฉันมันพังหมดแล้ว”
“....”ร่างบางเองก็ได้แต่นั่งฟังเงียบๆแต่ในใจดวงน้อยกลับไม่ใช่เลย หัวใจเต้นถี่จนรู้สึกแน่นที่อก..รู้สึกราวกับน้ำตามันอยากจะไหลลงมาเพื่อปลอบประโลมหัวใจตัวเอง
“นี่ฉันลงทุนบินมาตั้งแต่ไกลเพื่อมาเจอเรื่องแบบนี้หรอวะ? ตอบฉันหน่อยสิเฟริน?” ใบหน้าคมที่ชุ่มไปด้วยน้ำตาหันมาสบตากับหญิงสาวข้างๆพร้อมเขย่ามือเล็กนั่น
“..ไม่มีใครสมควรเจอเรื่องแบบนี้ทั้งนั้นแหละรัน..” เสียงแผ่วเบาตอบกลับไป
“แต่ทำไมฉัน..ฮรึก..ฉันถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทั้งๆที่ฉันรักแค่เขาคนเดียว..มันยังไม่พออีกหรอ?” ว่าจบก็หันกลับไปกระดกเหล้าเข้าปากไม่หยุดหย่อน
“....”ร่างเล็กเองก็ได้แต่นั่งฟังเพื่อนรักตัดพ้อไปเรื่อย..แค่ขอให้เขาได้ระบายมันออกมาเขาอาจจะรู้สึกดีขึ้นกว่านี้ก็ได้
“นี่..รู้อะไรมะ..ฉันน่ะเป็นพวกไม่มีดวงเรื่องผู้หญิงว้อย..” เสียงอ้อแอ้ที่เป็นเครื่องยืนยันว่าคนพูดกำลังตกอยู่ใต้อำนาจของฤทธิ์แอลกอฮอล์
“.....” คนตัวเล็กที่เริ่มจะได้ที่ไม่ต่างกันก็ยกจิบไวน์ไปเรื่อยๆแม้จะไม่ค่อยได้เป็นฝ่ายระบายออกมาบ้างก็เถอะ
“นี่ฉันว่าจะกลับพรุ่งนี้แล้ว ฉันไม่อยกอยู่เป็นก้างขวางคอเธอกับแฟนแล้วว่ะ มันเจ็บกระดองใจโว้ย!” ร่างหนาพูดพลางใช้นิ้วชี้ไปที่อกด้านซ้ายของตนเอง
“..ที่จริงแล้ว.. ฉันพึ่งเลิกกับเขาก่อนมาที่นี่อาทิตย์นึง...” เสียงหวานเริ่มเป็นฝ่ายระบายเรื่องของตนเองบ้าง
“หือ.. อะไรวะ เธอไม่เห็นพูดอะไร อย่ามาโกหกน่า!” ตาคมหรี่ลงเพื่อจับโกหกคู่สนทนาแม้เจ้าตัวเองจะไม่ค่อยมีสติแล้วก็ตาม
“โกหกอะไรกัน ฉันพูดจริงๆน่า.. เขาบอกว่าฉันน่ะมันเด็กเกินไปสำหรับเขา หึ..เด็กบ้าเด็กบออะไรฉันคบกับเขามา 4 ปีแล้ว ก็ไม่เห็นจะพูดอะไรแบบนี้สักทีจนวันที่เลิกกัน ถึงเราจะอายุห่างกันเยอะก็เถอะ” เสียงเล็กเริ่มพูดยืดยาวราวกับสติที่มีเริ่มลิบหรี่
“แม่ง! มันต้องมีคนอื่นเหมือนของฉันแน่เลย! ฮู้วว ฉันไม่ได้อกหักคนเดียวแล้วโว้ยย” ร่างสูงโบกมือแสดงความดีใจก่อนที่จะโดนมือเล็กฟาดเอาที่ต้นแขน
เพี๊ยะ! “ บ้าบออะไรของนาย! ฉันจะกลับห้องละ” ว่าจบก็คว้ากระเป๋าแล้วทำท่าจะลุกด้วยท่าทีโซซัดโซเซ แต่คนที่เข้ามาประครองเจ้าหล่อนก็มีสภาพแทบจะไม่ต่างกัน
“โว๊ะ! ระวังหน่อยเด้ เออ กลับก็กลับจะได้กลับด้วย” ไม่ว่าเปล่าร่างสูงทำท่าจะพยุงคนตัวเล็กกว่าให้ออกเดิน
“กลับบ้าไรวะ! ไปนอนที่อื่นเลยไป๊”
“นอนไหนล่ะวะ ก็นอนนี่ไง โว๊ะ เธอแม่งเมาละ กลับๆ”
“นายก็เมาเหมือนกันล่ะเว้ยย ฮ่าๆๆ” คนตัวเล็กชี้หน้าร่างสูงข้างๆพลางหัวเราะชอบใจ ณ วินาทีนี้ต่างคนก็ต่างไม่รู้ตัวว่าใครเหลือสติมมากกว่ากัน
ทั้งสองเดินประครองร่างกันและกันจนมาถึงที่หมายใช้เวลาครู่หนึ่งทั้งสองก็เข้าไปอยู่ในห้องโดยไม่มีการเปิดไฟ เพราะแค่จะเปิดเข้าห้องก็ลำบากแทบแย่หากจะให้ไปคลำหนาสวิซต์ไฟอีกเขาอาจจะไม่ถึงที่นอนก็เป็นได้ ทั้งคู่ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเดียวกันโดยไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย..
“...” ดวงตาทั้งคู่ปรือประสานกันราวกับพร้อมจะดำดิ่งลงไปในห้วงอารมณ์บางอย่างที่กำลังจะประทุขึ้น
“....”
“....” ภายในความเงียบสงัดมีเพียงเสียงลมหายใจที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้ง..ภายใต้ความมืดมีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านเข้ามา
“ริน...” ตาประสานตา..เสียงจังหวะลมหายใจที่สอดประสานกัน ...มือหนาค่อยๆลืมบนพวงแก้มนวลเบาๆ
“...”เจ้าของชื่อไม่ตอบอะไรเพียงแต่ปรือตามองแทนคำถามของคำถามที่ร่างสูงส่งผ่านมันมาทางสายตา..
“..อื้ม..” ไม่รอช้าจู่ๆปากหยักค่อยๆประทับลงบนริมฝีผากบางก่อนค่อยๆเปลี่ยนเป็นบดขยี้ปากเล็กนั่นพร้อมกับพลิกตัวขึ้นคร่อม
“อื้อ.. อือ..” เสียงเล็กครางหวานในลำคอแขนเล็กยกขึ้นคล้องคอร่างหนาด้านบน ตาคู่สวยค่อยๆหลับลงพร้อมปล่อยให้ร่างกายขยับไปตามอารมณ์
“อ่า..อื้มม..ม ” เสียงทุ้มต่ำครางรับก่อนผละปากหนาออกมาลัดเลาะพรมจูบดูดเม้มดูดชิมลิ้มรสเนื้อสาวไปตามลำคอขาวระหงส์ มือหนาทำหน้าที่ดึงรั้งชุดเดรสให้หลุดออกจากร่างเล็กด้านล่างก่อนจะปลดอาภรของตัวเองเป็นลำดับต่อมา.. เพียงอึดใจทั้งสองร่างกลับเปลือยเปล่าบดเบียดกันอย่างเร้าอารมณ์
“อ้าส์ ~ ” ร่างเล็กบิดเร่าเบาๆมือรู้สึกได้ว่าท่อนแข็งบางอย่างกำลังจ่อถูไถอยู่ตรงช่องทางรักของเจ้าหล่อนที่กำลังเปียกแชะและพร้อมแล้วสำหรับศึกครั้งนี้..
“อ่ะ!... ซิสส..!” ท่อนแข็งบดเบียดหัวบานๆของลำใหญ่ใส่ตุ่มเสียวของหญิงสาวก่อนค่อยๆสอดมันลอดเข้าไปในช่องทางแคบที่มันบีบรัดของเขาแน่นและไม่สามารถเข้าไปได้อย่างสะดวก
“อ๊ะ! อ๊าาา!” ร่างบางตัวบิดเกร็งด้วยความเสียวสะท้านพร้อมจิกเล็บลงใส่กลางแผ่นหลังกว้างของร่างหนาด้านบน
“ซิสส โอวส์.. อ๊ะ! อ๊ะๆๆ” ลำใหญ่ค่อยๆมุดเข้าไปจนสุดลำก่อนจะเริ่มขยับช้าๆ..และค่อยๆปรับเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ.. ทั้งสองร่างขยับเคลื่อนไหวไปตามแรงจากอีกฝ่าย สะโพกโยกย้ายกระทบเข้าหากันอย่างผลัดกันรับผลัดกันกระแทก บทเพลงรักเริ่มบรรเลง..ทั้งสองตามเสพสมรสชาติของกันและกัน รสสัมผัสแปลกใหม่แต่กลับทำให้หลงไหลจนไม่อาจจะหยุดได้.. กว่าศึกครั้งนี้จะจบลงเข็มนาฬิกาก็ย่างเข้าวันใหม่ ทั้งคู่ต่างหลับใหลดำดิ่งสู่ห้วงนิทรากันไป..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
‘เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือสายตาฉันมันพล่ามัว..’
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
‘ใต้แสงจันทร์คืนนี้เธอคือสิ่งที่สวยงามที่สุดเลยนะ..’
.
.
.
.
.
.
.
“อือออออ โอย ปวดตัวชะมัดเลย... !!!! ” เสียงงัวเงียของคนตัวเล็กดังขึ้นก่อนจะค่อยๆขยับตัวและพบว่าพื้นที่ที่เคยว่างเปล่าข้างๆบนเตียงของเธอนั้น..บัดนี้มันถูกใครบางคนเติมเต็มมันอยู่
“!!!!! ค..ใคร! O______O!!!!!” ร่างบางทำใจอยู่นานกว่าจะหายใจเข้าเฮือกใหญ่และกลั้นใจหันกลับไปมองให้เต็มตา
“...................”
“เฮ้ยย!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงแสบสะท้านหูปลุกคนข้างๆให้ตื่นแทบจะทันที
“อะไรเนี่ยเธอกรี๊ดทำบ้าอะไร เฮ้ยยยยยยย!!!!! =[____]=” ร่างสูงเองก็ไม่ต่าง อ้าปากตาค้างกันไปตามๆกัน
“เดี๋ยวนะ!”
“เดี๋ยวนะ เดี๋ยวนะ!!!!” ทั้งคู่ตั้งสติใหม่ก่อนจะเปิดผ้าห่มมองร่างกายตัวเองที่เปลือยเปล่าของทั้งคู่..
“เฮ้ย!! O_O”
“เฮ้ยยย!!! O[_____]O”
“เฮ้ยยยยยยยยยย!!!! =[_____________]=”
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยย!!! /T[__________]T”
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!!!!!! T_T ไม่นะ ไม่นะ ไม่ๆๆๆๆๆ” คนตัวเล็กดีดดิ้นไปมาดึงรั้งผ้าห่มเพื่อมาปกติร่างอันเปลือยเปล่าของเจ้าหล่อนเอง
“โว้ยยยยยยยยยยย อย่าดึงดิวะ ! ”
“เอามานะไอ้บ้า!! ฮืออออออออ T[_____]T” ทั้งสองฉุดกระชากรั้งดึงแย่งผ้าห่มกันไปมา!
.
.
.
.
.
.
.
.
‘ไม่นะ ม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!’
.
.
.
..
.