ฉันถูกผู้ชายพวกนั้นจับมาขังไว้ที่ห้องหรูหราแห่งหนึ่ง ฉันไม่เข้าใจเลย มันเกิดอะไรขึ้น แล้วพี่โปรดไปไหน ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวจริงๆ ปริมตัวสั่นเมื่อนึกถึงคนตัวสูงที่เธอไม่รู้จัก
หลังจากเสร็จจากงานสุชา คิมหันต์ก็บอกกับบิดามารดาว่าจะไปพักทำใจสักเดือน พ่อแม่อนุญาตเพราะรับรู้ถึงความเจ็บปวดของกันและกันดี
"แต่ลูกต้องโทรมาทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เข้าใจไหม" แม่บอกเสียงสั่น เธอยังรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้และเตรียมจะไปสงบใจที่วัดกับสามีเช่นกัน
"ครับ" คิมหันต์รับปาก
ชายหนุ่มไม่อาจอยู่ที่บ้านได้อีกแม้เพียงวันเดียว เขาเจ็บปวดเกินไป ทุกที่ล้วนมีความทรงจำกับยัยน้องตั้งแต่แกยังเล็กนัก
เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ไม่มีอีกแล้ว เพราะมัน!!! พวกมันต้องชดใช้
คิมหันต์นั่งรถส่วนตัวไปยังเซฟเฮ้าส์หรู พอไปถึงห้องก็เห็นยัยน้องสาวเลวของมันกำลังนั่งทานมื้อเย็นอย่างสบายใจ เธอหันมาเห็นเขาก็ตกใจจนไม่กล้าทานต่อ
"จะกินดีเกินไปล่ะ อย่างเธอมันต้องอาหารเม็ดถึงจะถูก" คิมหันต์ว่าพร้อมกระชากร่างบางในชุดราตรีสีเทาหรูออกมาจากโต๊ะทานอาหาร
เพราะแม่บ้านคนดูแลเข้าใจว่าปริมคือผู้หญิงของเจ้านาย เธอจึงทำหน้าที่ของตัวเองกับผู้หญิงของเขาอย่างเคย
"คุณจะพาฉันไปไหน"ปริมถามอย่างหวาดๆ ดวงตาเขาที่มองมาช่างน่ากลัวเหลือเกิน
"หุบปาก"เขาสั่งแล้วลากเธอไปยังชั้นดาดฟ้า เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งจอดติดเครื่องรออยู่ก่อนแล้ว ใบพัดที่ทำงานทำให้เกินกระแสลมแรงจนชายกระโปรงเธอสะบัดพัดไปตามแรงลม
ปริมนั่งเงียบอยู่ภายในห้องโดยสารข้างคิมหันต์ เขาจะพาเธอไปไหน!!
ท้องฟ้าเริ่มมืดลงจนปริมมองไม่ออกว่าเธออยู่ที่ไหน ต่อให้เพ่งมองลงไปยังไงก็ดูไม่ออก จนเวลาผ่านไปเกือบชม.เฮลิคอปเตอร์ก็เริ่มลดระดับลง
คนขับลงจอดที่ลานกว้างแห่งหนึ่งที่มีบ้านหลังงามอยู่ตรงหน้า เป็นบ้านไม้ผสมผสานความโมเดิร์นของยุคสมัย ไฟสีส้มที่เปิดอยู่ตามจุดต่างๆ ราวกับดวงอาทิตย์ดวงเล็กๆ สวยจัง! ปริมมองอย่างชื่นชม