"พี่ไอติมวันนี้ไม่ต้องมารับปังนะ เพราะปังนัดกับอาไฟไว้ตอนเย็น" ขนมปังที่นั่งอยู่เบาะหลังเอ่ยบอก ทุกเช้าเธอจะมาพร้อมพี่ไอติมกับพี่เจทเพราะเป็นทางผ่าน จึงแวะรับน้องสาวมาพร้อม จะได้ไม่ต้องลำบากพ่อกับแม่ เพราะตั้งแต่แต่งงานไอติมกับเจทก็ซื้อบ้านในระแวกเดียวกันที่ไม่ห่างไกลจากพ่อเจและแม่แนน
"นัดไปทำอะไรกัน?...อย่าซนนะปังเข้าใจไหม?...แค่นี้อาไฟก็ปวดหัวจะแย่" พี่ไอติมหันมาพูดกับน้องสาว ชี้นิ้วจ้องมองหน้าอย่างข่มขู่แต่น้องสาวตัวแสบหาได้เกรงกลัวไม่ เธอทำเพียงส่งยิ้มตาหยีให้พี่สาวเท่านั้น
"ซนที่ไหนกันเล่า ปังเนี้ยเรียบร้อยมาก ๆ เลยนะคะ...ใช่ไหมพี่เจท" ขนมปังพูดขึ้นและเอ่ยถามอีกคนที่ขับรถด้วยความเงียบ
"จ้ะ เรียบร้อยที่สุดอย่างกับผ้ายับที่ยัดลงก้นตะกร้ารอซัก" เจทพูดแซว
"ขอบคุณค่ะพี่เจทที่ชมปัง" ขนมปังที่รู้ความหมายดีเธอพูดออกไปโดยไม่สนใจสายตาของพี่ทั้งสองที่กรอกสายตามองบนอย่างระอา แต่ใบหน้าของขนมปังกลับยิ้มแย้มแจ่มใส ความสดใสของเธอที่มีพุ่งทะยานไปยังสามกาแล็คซี่ก็ไม่ปาน
"รีบขับเถอะเจท ไอติมอยากถึงบริษัทเร็ว ๆ" ไอติมหันหน้าบอกผู้เป็นสามี เมื่อไม่ไหวที่จะคุยต่อกับน้องสาวตัวแสบอีกต่อไป
("แฉะ แปลว่า จื้น,สนุก แปลว่า ม่วน,ตูด แปลว่า ดาก,น่ารัก แปลว่า เป็นตาฮัก.... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ภาษาอีสานน่ารักจัง") ขนมปังที่จดจ่อกับหน้าจอมือถือที่เป็นแอปพลิเคชันสีเขียวเป็นที่นิยม แชทกลุ่มที่ขนมปังตั้งขึ้นมาแล้วมีดาวเรืองเป็นครูสอนภาษาอีสานที่เธอต้องการจะเรียนรู้ ปากกระจับเล็กพร่ำพูดตามสิ่งที่เพื่อนพิมพ์ส่งมา แต่ว่ากลับทำให้พี่สาวและพี่เขยนั้นต้องลอบหันกลับมามองด้วยความงุนงง
"ทำอะไรอ่ะปัง" พี่ไอติมถามแทรกทันทีเพราะสงสัยกับท่าทางและคำพูดของน้องสาว
"ปังกำลังให้ดาวเรืองสอนภาษาอีสาน น่ารักมากเลยพี่ไอติม ปังชอบ ปังจะไปเป็นสาวอีสานจ้า" ขนมปังที่แสนจะตื่นเต้นกับการเรียนรู้สิ่งใดใหม่ เธอโผล่หัวแทรกกลางระหว่างเบาะหน้ายื่นหน้าจอมือถือให้พี่สาวดู
"เป็นเอามากนะปัง" พี่ไอติมพูดพร้อมส่ายหัวอย่างระอา คนที่ขับรถลอบมองพฤติกรรมสองพี่น้องด้วยรอยยิ้ม ความสดใสของขนมปังทำให้ทุกคนมีรอยยิ้มได้ตลอด รอยยิ้มที่ปะปนมาพร้อมกับความปวดเศียรเวียนเกล้า
"พี่ไอติมเป็นตาฮักคัก" ขนมปังพูดชมในภาษาที่เธอชื่นชอบ เอื้อมมือแตะหยิบปลายคางมนของพี่สาวส่ายเบา ๆ ไปมา ส่งยิ้มร่าสดใสให้ผู้เป็นพี่สาว
"แปลว่า?" พี่ไอติมย้อนถามหาความหมาย
"แปลว่า...พี่ไอติมน่ารักมากค่ะ" ขนมปังรีบแปลไขข้อข้องใจให้พี่ไอติมได้รับรู้
...อาไฟที่มาตามนัดกับหลานสาว ค่ายมวยที่เพื่อนรุ่นเดียวกันมาเปิดนานหลายปี สิ่งที่หลานสาวต้องการ ผู้เป็นอาก็ต้องยอมสนองด้วยความจำนน รถยนต์คันหรูจอดสนิทหน้าค่ายมวยที่มีเหล่านักมวยหลายรุ่นกำลังฝึกซ้อม และผู้คนที่มาเรียนเพื่อเป็นงานอดิเรกยามว่าง หนึ่งในนั้นก็คือหลานสาวตัวแสบของอาไฟ 'ขนมปัง'
"ที่นี่เหรอคะอาไฟ?" ขนมปังเอ่ยถาม สายตามองลึกเข้าไปยังด้านในอย่างสอดส่องอยากรู้
"ใช่ ที่นี่แหละ" อาไฟตอบรับพร้อมกับเดินมาหยุดข้างหลานสาวที่ให้ความสนใจกับสถานที่แปลกใหม่
"ว้าว...ผู้ชายเยอะมาก ๆ เลย งื้อออออ ปังใจบาง" ขนมปังที่แสดงอาการตื่นตา เพศตรงข้ามที่กำลังโชว์ฝีไม้ลายมือในศิลปะการต่อสู้ ภาพที่เห็นทำให้ขนมปังนั้นหลงใหล
งั่บ!!!
"หุบปากแล้วเก็บอาการด้วยลูก หนูเป็นผู้หญิงนะ" อาไฟที่เห็นหลานสาวอ้าปากค้าง สายตาเพ่งมองไปยังบรรดาชายหนุ่มจนต้องปรามด้วยการแตะปลายคางหลานสาวเบา ๆ ให้กลีบปากชิดกัน จนเสียงของฟันขาวสวยหลานสาวกระทบกันดัง
"โอ๊ย!! อาไฟเกือบฟันกระแทกปากปังเนี้ย นี่ก็ชอบดับมโนของปังเหมือนคุณแม่จริง ๆ" ขนมปังโอดโอยทำหน้ายู่ย่น
"พูดมากเข้าไปข้างในได้แล้ว" อาไฟบอกกล่าวเดินนำหน้าหลานสาวโดยไม่มองหลัง
คนที่อยู่ในภวังค์หลงใหล เดินทอดน่องเชื่องช้าปรายสายตามองโดยรอบอย่างให้ความสนใจ เพ้อจินตนาการก้าวไกลนึกภาพหากเธออยู่ในชุดนักมวยฝึกซ้อมอย่างเพ้อฝัน ไม่ได้ฟังสิ่งที่อาบอกกล่าวแม้แต่น้อยจนอาไฟเดินลับเข้าไปด้านใน
"อะ อ้าว...อาไฟหายไปไหนเนี้ย!!!" เมื่อสติสตังของขนมปังกลับคืนมา เมื่อหมดเวลาเพ้อฝันเธอหันมองโดยรอบแต่ไร้เงาของผู้เป็นอา หันมองซ้ายแลขวาก็ไม่มี
"ค่ายมวยกว้างขนาดนี้จะไปหาที่ไหนล่ะเนี้ย ตาย ๆ ขนมปังผู้น่าสงสาร ถูกทอดทิ้งขว้างดั่งลูกแมวเหมียว งื้อออออ" ขนมปังบ่นยุบยิบเพียงลำพัง ยืนเกาหัวอย่างงวยงงขมวดคิ้วกังวลแทบพันกัน
...สายตาคมปรายมองอาผู้เป็นอา แต่ก็ไม่มีทีท่าจะพบเจอ เดินวนเหม่อมองก็ไร้วี่แวว จนสายตาพบเจอเข้ากับใครคนหนึ่งที่กำลังก้มหน้าทำอะไรสักอย่างที่อยู่ห่างไกล เธอรีบวิ่งเร็วไวเข้าไปหาอย่างไม่คิดกลัว
"น้าคะ?" ขนมปังผู้ใสซื่อเรียกขานชายที่กำลังนั่งใส่รองเท้าอย่างขะมักเขม้น
".............." ชายผู้นั้นไม่สนใจกับเสียงใส ๆ ของเธอ
"น้า น้า .... " เมื่อไม่ได้รับความสนใจขนมปังผู้สดใสจึงสะกิดแขนแกร่งของชายผู้นั้นเบา ๆ
"ฉันเหรอ?" ชายหนุ่มที่งวยงงเงยหน้ามองเมื่อร่างกายถูกสะกิดด้วยมือของเด็กสาวขนมปัง
"ก็น้านั่นแหละ...อยู่กันสองคนจะให้ปังเรียกใครล่ะคะ?" ขนมปังย้อนเมื่อเรียกอยู่นานก็ไม่ได้รับความสนใจจากชายตรงหน้า
".............." ชายหนุ่มที่ใส่รองเท้าเสร็จลุกยืนเต็มความสูง ก้มหน้ามองคนที่อยู่ใต้ความสูงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เพ่งพิศสายตามองคนตัวเล็กเรียบเฉย กระตุกคิ้วส่งสัญญาณเชิงการถาม?
"ที่เขารับสมัครเรียนชกมวยไปทางไหนเหรอคะ?" ขนมปังเงยหน้าถามด้วยคำพูดสุภาพ
"ข้างใน" ชายหนุ่มตอบคำถามของเด็กสาวขนมปังด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พร้อมกับชี้นิ้วบ่งบอกเป้าหมาย
"ขอบคุณค่ะ" ขนมปังยกมือไหว้อย่างนอบน้อมก่อนจะเดินเลี่ยงไปตามทาง "คนอะไรตัวสูงอย่างกับเสาไฟฟ้า ขนมปังผู้น่ารักยืนเทียบอย่างกับหลักกิโล" ทั้งที่เดินไปไม่ไกลบ่นอุบตามประสา ด้วยความสูงของชายหนุ่มที่ทำให้เธอต้องเงยหน้ามองจนแทบปวดคอ
"กูมาถึงขั้นเรียกว่าน้าเลยเหรอวะ?" ชายหนุ่มที่มองตามหลังของขนมปัง ไม่วายบ่นเพียงลำพังอย่างสงสัยกับสรรพนามที่เด็กสาวในคราบชุดนักเรียนเรียกขานเพียงแรกเจอ