EP.6 คืนเข้าหอ
บาจรีย์เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น สะอื้นฮักอย่างไม่อาจหักห้ามความเศร้าเสียใจได้อีกต่อไป เธอกลัว... กลัวผู้ชายคนนี้ที่จ้องมองเธอราวกับเธอเป็นเหยื่ออันโอชะที่เขาจ้องจะขย้ำให้แหลกคามือ ชีวิตของเธอในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ความรักสวยงามที่เธอเฝ้าฝันหา ครองรักจนกว่าจะตายจากกันคงไม่มีอีกแล้ว หากเธอทิ้งตัวลงไปในหลุมนรกที่บิดาบังเกิดเกล้าเป็นคนขุดเอาไว้ให้ด้วยตัวเอง
เสียงฮือฮาดังขึ้นเมื่อเจ้าสาวเอาแต่ร้องไห้ ไม่ยอมตอบรับบาทหลวง ติเอโกจับไหล่บางสั่นเทิ้มเอาไว้ก่อนจะดึงร่างอิ่มเข้ามากอด เสียงฮือฮาเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม ข่าวลือที่ว่าแต่งงานเพราะผลประโยชน์ บ้างก็ว่าพลาดพลั้งจนท้องจึงต้องยอมแต่งงานอาจเป็นเพียงข่าวโคมลอย ในเมื่อเจ้าบ่าวดูแลเจ้าสาวด้วยท่าทางอ่อนโยนขนาดนี้
“ไม่ต้องกลัว การแต่งงานกับฉันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย”
เขาก้มลงกระซิบแผ่วที่ข้างหู ทว่าแขกเหรื่อกลับเข้าใจว่าเขาก้มลงหอมแก้มเจ้าสาว จึงพากันปรบมือให้กำลังใจเจ้าสาวกลัวฝนอย่างพร้อมเพรียงกัน บาจรีย์รู้สึกมึนงง เธอทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของผู้ชาย เธอไม่เคยถูกกอด แม้แต่บิดาท่านก็ไม่เคยกอดเธอเลยสักครั้ง หญิงสาวผละออกจากอ้อมกอดอบอุ่น แล้วรีบเช็ดน้ำตาอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มดึงมือเจ้าสาว ก่อนจะบรรจงเช็ดหยาดน้ำตาให้เธอ “เช็ดแรงแบบนั้น ตาสวยๆ ช้ำหมดพอดี”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณเสียงเครือ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอพยายามถอยห่างแต่เขากลับรุกไล่จนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงอันตรายแค่เพียงชายหนุ่มยืนอยู่ใกล้ๆ ดวงตาและน้ำเสียงนุ่มก็ประหัตประหารหัวใจของหญิงสาวให้อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงจะต้านทาน
“พร้อมหรือยังครับเจ้าสาว” บาทหลวงเอ่ยถาม พลางยิ้มให้กำลังใจ
“ค่ะพร้อมแล้ว”
หญิงสาวพยักหน้ารับ สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด บางทีการแต่งงานในครั้งนี้อาจไม่ได้เลวร้าย สักวันหนึ่งเธออาจจะรักผู้ชายคนนี้ได้ ในเมื่อเขาเองก็ไม่ใช่ผู้ชายกักขฬะป่าเถื่อน กลับกัน...ความอ่อนโยนของเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะและมันเต้นรัวเร็วจนแทบกระโจนออกนอกอกทุกครั้งที่เธอเงยหน้าขึ้นสบดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้น
“ท่านจะรับนายติเอโก ลาซิคาโอ เป็นสามีไม่ว่าจะยามสุขหรือยามทุกข์ มั่งมีหรือยากจน สบายดีหรือเจ็บป่วย และสัญญาว่าจะรัก เคารพ เชิดชูดูแลกันและกัน จนกว่าทั้งคู่จะตายจากกันไปหรือไม่” บาทหลวงทวนคำถามอีกครั้ง
“รับค่ะ”
หญิงสาวตอบรับเสียงเครือ ทั้งคู่ทำการสวมแหวนให้แก่กันและกัน บาจรีย์มือสั่นเมื่อสัมผัสมือหนาแข็งแกร่งของอีกฝ่าย เธอบรรจงสวมแหวนให้เขา เมื่อแล้วเสร็จจึงปล่อยมือหนา ทว่า...เจ้าบ่าวของเธอกลับกระหวัดร่างอวบเข้ามากอดโดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว แล้วประทับริมฝีปากลงบนปากอิ่มอย่างเร่าร้อน
“อือ...”
บาจรีย์พยายามผลักไส ทว่ากลับเป็นการเปิดริมฝีปากให้เขาได้แทรกลิ้นร้อนเข้าไปตวัดค้นชิมรสความหอมหวานดุจน้ำผึ้งจากโพรงปากสีกุหลาบเย้ายวน ปลุกเร้ารัญจวนราวกับจะคร่าอากาศหายใจไปจากเธอ บาจรีย์รู้สึกตัวเบาหวิว ปลายเท้าแทบไม่ติดพื้น ก่อนที่สติสัมปชัญญะจะขาดผึง ทรุดฮวบไม่ได้สติอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งของชายผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอ
ติเอโกรวบร่างอิ่มขึ้นอุ้มก่อนจะเดินออกจากงาน พาหญิงสาวกลับไปยังเรือนหอของเขาอย่างไม่สนใจสายตาของแขกเหรื่อที่ยังคงตาค้างตกใจกับจูบวาบหวาม ดูดดื่มเสียจนสาวน้อยสาวใหญ่ในงานอยากจะเป็นเจ้าสาวเสียเอง
“เจ็บใจจังค่ะคุณแม่” จิราพัชรกัดฟันกรอด พยายามข่มอารมณ์ไว้อย่างสุดกำลัง
“เพราะนังรีมันได้ดีกว่าที่เราคิดไว้ใช่มั้ยลูก”
“ใช่ค่ะ ฝรั่งพ่อหม้าย...พัชรก็หลงคิดว่าคงจะแก่หงำถึงได้มาคว้านังรี ที่ไหนได้ ทั้งหล่อ ทั้งรวย ดูดีจนหาที่ติไม่ได้”
จิราพัชรแสดงอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เธอริษยาบาจรีย์ แม่นั่นมักจะได้สิ่งดีๆ ไปเสมอทั้งที่ไม่มีความสวยอะไรเลยสักนิด แล้วดูเอาเถอะคุณติเอโกเซ็กซี่เป็นบ้าเสียขนาดนั้น เรื่องอะไรเธอจะปล่อยให้เขาเป็นของนังบาจรีย์ เธอต้องได้สิ่งที่ดีที่สุดเสมอ
“แต่ลูกก็มีคุณณัฐดนัย รายนั้นเป็นผู้ดีไฮโซรวยไม่หยอก”
“รวยแล้วยังไงคะ รวยแต่ไม่หล่อไม่เร้าใจ คุณแม่ดูคุณติเอโกสิ ดูดีไปหมดทั้งตัวขนาดนั้น พัชรไม่อยากจะคิดเลยว่าลีลาบนเตียงจะเหลือร้ายสักแค่ไหน” ดวงตาของหญิงสาวพราวระยับเป็นประกายเมื่อคิดถึงริมฝีปากหนาหยักได้รูปน่าหลงใหลของชายหนุ่ม
“พัชรทำไมพูดอย่างนั้นล่ะลูก น่าเกลียด” หทัยนาถปรามบุตรสาวอย่างไม่จริงจังนัก ด้วยให้ท้ายกันจนเคยตัว อีกอย่างเธอเปิดกว้างเรื่องเซ็กส์ หากว่าบุตรสาวจะใช้มันเป็นสะพานไปยังความมั่งคั่งมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายไม่ใช่หรือ
“พัชรเบื่อคุณณัฐจะแย่แล้ว ตอนนี้พัชรรู้แล้วค่ะว่าใครที่เหมาะสมกับพัชร”
ดวงตากลมโตหรี่ลงอย่างเจ้าแผนการ มองตามแผ่นหลังกว้างที่อุ้มเจ้าสาวร่างอวบโดยไม่มีทีท่าว่าจะหนัก หน่วยก้านและผิวสีแทนเช่นนี้คงออกกำลังกายเป็นกิจวัตร ส่วนในเรื่องความแข็งแรงละก็เธอจะต้องหาทางพิสูจน์ด้วยเรือนร่างของเธอให้ได้
“ลูกจะทำยังไง ในเมื่อคุณติเอโกแต่งงานกับนังรีไปแล้ว” แม้จะไม่ค่อยเห็นด้วยกับบุตรสาวนักเพราะว่าใจลึกๆ แล้วเธออยากได้ลูกเขยมีเชื้อผู้ดีเก่า แต่เมื่อเป็นความต้องการของบุตรสาวเธอก็ไม่ขัดข้อง
“ไม่ใช่เรื่องยากหรอกค่ะคุณแม่ ในเมื่อเคยหย่ามาแล้วครั้งหนึ่ง จะหย่าอีกสักครั้งจะเป็นไรไปล่ะคะ พัชรจะทำให้เขาหย่ากับนังรีภายในเดือนนี้ให้ได้ คุณแม่คอยดูฝีมือพัชรได้เลยค่ะ” ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงชาดยิ้มกว้างอย่างหมายมาด
ผู้ชายเพียบพร้อมคนนั้นต้องเป็นของเธอเท่านั้น!
ติเอโกมองหญิงสาวในอ้อมกอดด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนเป็นลมเพราะโดนจูบ จะว่าเขาปากเหม็นหรือก็ไม่น่าจะใช่ หรือจะว่าเขาจูบไม่เก่ง...ประเด็นนี้ตัดทิ้งไปได้เลย เพราะเขามั่นใจว่าจูบของเขาทำให้ผู้หญิงอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งลนไฟมานักต่อนักแล้ว แต่ไม่เคยมีใครเป็นลมล้มพับเหมือนเจ้าสาวหุ่นทรมานใจชายคนนี้เสียที