EP.10 ขยับหัวใจอีกนิด
“ว้าย!”
หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อจำต้องตื่นจากฝันหวานแล้วพบว่าติเอโกคร่อมทับร่างเธออยู่
“คุณติเอโก...”
หญิงสาวรู้สึกลำคอแห้งผาก หากเขาทำอะไรเธออีก เธอจะทำอย่างไรดี “อะ...อรุณสวัสดิ์ค่ะ เช้านี้อากาศสดใสจังเลยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยทักชายหนุ่มออกไปอย่างเก้อๆ เท่านั้นเองชายหนุ่มก็พลิกตัวออกจากร่างเธอแล้วนอนหงายแผ่หลา หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง อารมณ์ร้อนคุกรุ่นเมื่อสักครู่ถูกดับวูบเมื่อได้ยินคำทักทายของหญิงสาว
มีที่ไหนกัน! ผู้ชายคร่อมทับอยู่บนร่างถึงขนาดนั้น แต่เธอกลับเอ่ยทักทายตะกุกตะกักแล้วพูดถึงดินฟ้าอากาศหน้าตาเฉย แล้วใครจะไปมีอารมณ์สานต่อเล่า...
“คุณติเอโกหัวเราะอะไรหรือคะ” หญิงสาวนั่งนิ่ง งุนงงกับท่าทางของชายหนุ่ม เธอไม่เข้าใจว่ามีอะไรน่าขัน เขาถึงหัวเราะดังลั่นห้องเช่นนี้
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันไปอาบน้ำดีกว่า เธอนี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะบาจรีย์ ตลกดี ฉันชอบ” ชายหนุ่มลุกจากเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
“ชอบ” บาจรีย์ทวนคำว่าชอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ หัวใจเต้นแรง เป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายบอกว่าชอบเธอ แม้จะบอกว่าชอบเธอเพราะตลกก็ตามที
“เมื่อคืนเป็นยังไงบ้างครับคุณรี” พ่อบ้านสุรพลสัพยอกเมื่อเห็นเจ้าสาวหมาดๆ ลงมานั่งที่โต๊ะอาหาร ในขณะที่ติเอโกยังไม่ลงมา
“เป็นยังไงเรื่องอะไรหรือคะ” หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อ รู้ว่าสุรพลต้องการจะถามถึงเรื่องอะไร กระนั้นเธอก็แกล้งเฉไฉทำเป็นไม่รู้ไปเสีย
“ก็เรื่องนั้น...”
สุรพลยิ้มขันเมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำราวกับผลตำลึงสุกของบาจรีย์ เขาดูแลรับใช้ติเอโกมาหลายปี ทุกครั้งที่เจ้านายหนุ่มมาพักที่เมืองไทย จะมีเขาเป็นคนคอยดูแลต้อนรับ ซึ่งนั่นหมายความว่าแทบไม่มีความลับระหว่างเจ้านายกับพ่อบ้านคนสนิท ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างรู้ลึกรู้จริง เจ้านายของเขาหิ้วผู้หญิงคนไหนมานอนค้างด้วยละก็ เช้ามาจะต้องอ่อนเพลียทุกราย แต่บาจรีย์กลับดูไม่อ่อนเพลียเลยสักนิด
“หรือว่าคุณรีกับคุณผู้ชายยังไม่ได้...”
บาจรีย์ไม่ตอบแต่ก้มหน้างุด ยังผลให้พ่อบ้านเกย์อ้าปากค้าง เป็นไปได้อย่างไรกัน ฟันหญิงไม่ยั้งแบบติเอโกจะปล่อยให้เจ้าสาวของตัวเองลอยนวลในคืนวันแต่งงาน
“น่าแปลกมาก เป็นไปได้ยังไง” พ่อบ้านสุรพลไม่ได้เซ้าซี้แต่กลับบ่นพึมพำกับตัวเอง จริงอยู่บาจรีย์ไม่ใช่คนสวยสะดุดตา แต่เป็นคนสวยพิศยิ่งมองยิ่งเห็นความน่ารัก รอยยิ้มหวานๆ แก้มอิ่ม และดวงตากลมโตทำให้คนที่พบเห็นนึกเอ็นดูได้ไม่ยากเลย หากรู้จักแต่งเนื้อแต่งตัวประโคมเครื่องสำอางสักหน่อยคงจะสวยมากทีเดียว
“วันนี้มีอะไรทานบ้างสุรพล” ติเอโกเดินเข้ามาที่โต๊ะอาหาร คว้าหนังสือพิมพ์ขึ้นมากางออกอ่าน แล้วรับกาแฟดำจากพ่อบ้าน
“วันนี้มีข้าวต้มทรงเครื่องครับคุณผู้ชาย”
“ดีเหมือนกัน ฉันชอบทานอาหารไทย ไม่จำเจดี” เขาพยักหน้าให้พ่อบ้านแล้วลดหนังสือพิมพ์ลง เหลือบมองบาจรีย์ที่ก้มหน้าก้มตาจิบน้ำส้มอย่างตั้งอกตั้งใจ เห็นชัดว่าเธอพยายามจะก้มหน้าไม่สบตาเขา
“วันนี้ฉันว่าง เธอช่วยพาฉันชมไร่ฐากูรหน่อยได้มั้ย”
“คะ... อะไรนะคะ” หญิงสาวทวนถามด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบตอบออกไปโดยไม่รอให้เขาทวนคำพูดอีกครั้ง “รี เอ่อ...ฉันว่างค่ะ”
“ปกติเธอเรียกแทนตัวเองว่ารีเหรอ”
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้า ยามเมื่อสบตาสีมรกตในตอนกลางวัน มันช่างแตกต่างกับตอนกลางคืนลิบลับ เธอรู้สึกเกร็งจนพูดตะกุกตะกัก
“งั้นแทนตัวเองว่ารีเถอะ” ติเอโกหยิบกาแฟขึ้นจิบ เป็นจังหวะเดียวกับที่พ่อบ้านยกถ้วยข้าวต้มเข้ามาพอดี
การรับประทานอาหารเช้าเป็นไปอย่างเงียบเชียบ ไม่มีการพูดคุย มีเพียงเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาเป็นระยะ ซึ่งเสียงที่ดังลอดผ่านออกมาส่วนใหญ่เป็นเสียงผู้หญิง บาจรีย์ไม่ได้แอบฟังแต่เธอเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจเชียวล่ะ หญิงสาวก้มหน้างุด เธอจะสนใจทำไม การแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรัก แต่งงานเพราะผลประโยชน์ ดังนั้นเขาจะมีผู้หญิงสักกี่สิบคนมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา เธอไม่เห็นจะสนใจเลย ไม่สนใจเลยสักนิด...
“รี”
“บาจรีย์” ติเอโกเรียกซ้ำเมื่อหญิงสาวเอาแต่นั่งเหม่อจนไม่ได้ยินเขาเรียกชื่อเธอ
“คะ” หญิงสาวสะดุ้งมองหน้าชายหนุ่มอย่างตื่นๆ
“ฉันอิ่มแล้ว เราไปกันเถอะ” เขาลุกขึ้นยืนแล้วส่งมือถือให้พ่อบ้าน “นายรับโทรศัพท์แทนฉันที ถ้าจากอิตาลีให้เขียนโน้ตเอาไว้ ถ้าจากผู้หญิงให้บอกว่าฉันว่างเมื่อไหร่จะโทรกลับเอง”
“ครับคุณผู้ชาย” พ่อบ้านสุรพลค้อมตัวลงเล็กน้อยเมื่อรับโทรศัพท์สมาร์ตโฟนของเจ้านายหนุ่มมาถือไว้ แล้วลอบมองใบหน้าเศร้าของบาจรีย์ ต่อให้แต่งโดยไม่ได้รักแต่ถ้าได้ยินคำว่าผู้หญิงอื่น ไม่ว่าใครก็คงไม่ชอบใจด้วยกันทั้งนั้น
“ไปกันเถอะรี” ชายหนุ่มเรียกชื่อเธออย่างสนิทสนม พลางเดินนำหน้าหญิงสาวไป เธอต้องก้าวไวเพื่อจะเดินให้ทันเขา
“เดี๋ยวค่ะคุณติเอโก เราจะไปไหนกันหรือคะ” หญิงสาวเหนื่อยหอบเมื่อเขาเดินไวจนเธอต้องวิ่ง
“ก็ไปชมไร่น่ะสิ เธอลืมแล้วงั้นเหรอ”
“เอ่อค่ะ...”
บาจรีย์ลืมไปเสียสนิทเลย ทำไมเธอถึงได้เปิ่นแบบนี้นะ “ถ้าอย่างนั้นเดินมาทางนี้ดีกว่าค่ะ เดินลัดไปทางนี้ถึงสวนกุหลาบไวกว่า” หญิงสาวเลือกที่จะพาชายหนุ่มไปอีกทาง เพราะไม่อยากผ่านบ้านบิดา เธอไม่อยากพบคนบ้านนั้นแม้แต่คนเดียว หากจะให้ดีทำไมคุณติเอโกไม่แต่งงานกับเธอแล้วพาเธอย้ายไปไกลๆ เธอจะได้ไปให้พ้นจากคนใจร้ายพวกนี้เสียที
“ข้างหน้านู้นคือไร่กุหลาบค่ะ ไร่ของเราปลูกกุหลาบหลายสายพันธุ์ มีทั้งปลูกตัดดอกขายที่ปากคลองตลาด จัดส่งตามโรงแรมและร้านดอกไม้ใหญ่ แล้วไร่ของเรายังเพาะพันธุ์กุหลาบสำหรับขายเป็นต้น แต่เราเน้นขายส่งค่ะ อย่างต่ำก็ 50-100 ต้นขึ้นไป” บาจรีย์บรรยายอย่างคล่องแคล่ว แตกต่างจากท่าทางเคอะเขินที่มักแสดงออก
“ปกติใครเป็นคนดูแลไร่กุหลาบ”
ชายหนุ่มไพล่มือสองข้างไปยังด้านหลัง เดินตามหญิงสาวเข้าไปในไร่กุหลาบ ยังเช้าอยู่มากก็จริงแต่คนงานก็ขยันทำงานจนได้เหงื่อพอสมควรทั้งที่อากาศค่อนข้างเย็น นับว่าแข็งขันแม้ว่าจะไม่มีเจ้านายคอยเดินคุม