EP.2 เจ้าสาวในชุดสีดำ
หญิงสาวกล้าโต้ตอบบิดาอย่างใจเด็ด ก่อนจะเบือนหน้าที่เปื้อนน้ำตามองออกไปยังบริเวณทุ่งกว้างที่ตกแต่งเอาไว้สวยงามสำหรับงานแต่งงานของเธอ แขกเหรื่อมากันมากมายล้วนแล้วแต่มาแสดงความยินดีกับบิดาและหทัยนาถที่สามารถคว้าลูกเขยชาวอิตาลีที่แสนร่ำรวยมาครอบครองได้สำเร็จ ส่วนเธอน่ะหรือ...เธอก็แค่ตัวประกอบของงานแต่งงาน ไม่เคยมีความสำคัญ ไม่เคยอยู่ในสายตาใคร
“เลือกที่จะหักหน้าฉัน นี่หรือคือสิ่งที่แกเลือก!”
ฐากูรกำมือแน่น พยายามข่มความโกรธเอาไว้สุดกำลัง คนเป็นพ่อมีหรือจะไม่รู้ว่าลูกสาวเป็นคนเช่นไร เขารู้มาตลอดว่าลูกสาวเสียใจที่ไม่ได้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ทั้งที่จิราพัชรพี่สาวต่างมารดาได้ไป ที่เขาทำเช่นนั้น เขามีเหตุผลหาได้ลำเอียงเพราะรักลูกไม่เท่ากันแต่อย่างใด นั่นเพราะเขารู้ว่าบาจรีย์แตกต่างจากจิราพัชร ลูกสาวคนเล็กใสซื่อไม่ทันคน ในขณะที่ลูกสาวคนโตฉลาดและเอาตัวรอดได้ดี นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาปล่อยจิราพัชรแต่กลับควบคุมบาจรีย์เอาไว้ไม่ยอมให้ห่างหูห่างตา
“รีไม่เคยคิดว่าการกระทำนี้คือการหักหน้าคุณพ่อ รีแค่อยากไว้อาลัยให้กับอิสรภาพและความสุขที่รีไม่เคยได้รับ นับจากลืมตาดูโลกใบนี้ต่างหาก”
เพียะ!
“รี นี่แกชักจะเอาใหญ่แล้วนะ” ฐากูรตัวสั่น หายใจหอบ เมื่อบุตรสาวเถียงคำไม่ตกฟาก คำว่าเธอไม่เคยมีความสุขและอิสรภาพนับจากลืมตาดูโลกทำให้เขาปวดแปลบที่หัวใจ
“คุณพ่อ...”
บาจรีย์หน้าชาดิกเมื่อถูกตบเต็มแรงจนรู้สึกได้ถึงรสชาติของเลือดที่มุมปาก เธอมองบิดาด้วยสายตาตัดพ้อ เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่โต้ตอบมีเพียงหยาดน้ำตาที่ไหลรินเป็นสาย ฐากูรใจหายเมื่อรู้ตัวว่าได้ทำร้ายบุตรสาวเพียงเพราะความโกรธจนขาดสติ แต่ก็ปากหนักเกินกว่าจะเอ่ยขอโทษ
“อยากทำอะไรก็ทำ ฉันจะไม่ยุ่งกับแกอีกแล้ว ลูกสาวแต่งงานออกจากบ้านไปก็เท่ากับเป็นของคนอื่น” พูดจบก็หุนหันเดินออกจากห้องไปอย่างฉุนเฉียว แม่บ้านขนอมรีบถลาเข้ามาหาคุณหนูของตนด้วยความสงสาร
“เจ็บหรือเปล่าคะคุณหนูรี” ขนอมมองใบหน้าซีกซ้ายแดงเป็นปื้นของหญิงสาวด้วยความสงสารจับใจ นี่นับเป็นครั้งแรกที่คุณผู้ชายลงไม้ลงมือกับลูกสาวคนเล็ก เพราะปกติแล้วฐากูรมักเป็นคนใจเย็นไม่เคยเจ้ากี้เจ้าการชีวิตของบาจรีย์แต่ก็ไม่เคยให้อิสระเช่นกัน
“เจ็บตัวไม่เท่าเจ็บที่หัวใจหรอกค่ะป้านอม น่าสมเพชนะคะชีวิตรีไม่เคยเป็นของรีเลย รีรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหุ่นกระบอกไร้ชีวิต จะเดินไปทางซ้ายหรือทางขวารีไม่เคยได้ตัดสินใจเลือกเอง ต้องรอคุณพ่อคอยชักใยให้เท่านั้น” หญิงสาวยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน
“โถ คุณหนูของนอม อย่าคิดอย่างนั้นสิคะ คุณพ่อรักคุณหนูมากนะคะ”
“คุณพ่อไม่ได้รักรี เพราะรีเกิดมาทำให้คุณแม่ต้องตาย หากเป็นไปได้รีก็อยากจะตายแทนคุณแม่ คุณพ่อคงมีความสุขมากกว่านี้” หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่น น้ำตาไหลอาบแก้มอิ่ม
“ไม่เอาอย่าพูดอย่างนั้นนะคะคุณหนู” ขนอมไม่รู้จะปลอบโยนเช่นไร ทำได้แค่เพียงนั่งโอบกอดคุณหนูของเธอเอาไว้ หากคุณเขมิกายังมีชีวิตอยู่ความสัมพันธ์ของคุณฐากูรกับคุณหนูบาจรีย์คงไม่เป็นเช่นนี้ ขนอมลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่รู้จะหาหนทางช่วยสาวน้อยในอ้อมกอดนี้ได้อย่างไร
บาจรีย์หยุดร้องไห้แล้ว เธอนั่งนิ่งราวกับตุ๊กตาไร้ชีวิตให้ช่างแต่งหน้าบรรจงแต่งหน้าให้เธอใหม่อีกครั้ง ครานี้ไร้การพูดคุยใดๆ ช่างแต่งหน้าเองก็อึดอัดกับสถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ บาจรีย์ทอดสายตาเหม่อมองอย่างไร้จุดหมาย แล้วภาพการพูดคุยกับบิดาเมื่อหลายวันก่อนก็ฉายชัดขึ้นมาในห้วงความคิดอีกครั้ง
‘รี...ถึงเวลาที่แกควรแต่งงานได้แล้ว’
เสียงเรียบขรึมเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อการรับประทานอาหารมื้อเย็นสิ้นสุดลง ฐากูรวางช้อนส้อมลงบนจานอย่างเบามือ หยิบน้ำขึ้นมาจิบช้าๆ ไม่ได้เหลือบมองอาการตกตะลึงของลูกสาวคนเล็กแม้แต่น้อย ด้วยเรื่องนี้เขาคิดใคร่ครวญมาเป็นอย่างดีแล้ว เขามองว่าหากบาจรีย์แต่งงานออกเหย้าออกเรือนไป เขาก็จะหมดห่วง เพราะรู้ดีว่าหากวันหนึ่งเขาต้องจากโลกนี้ไป ลูกสาวคนเล็กจะต้องพบเจอกับความลำบากอีกมากแตกต่างจากลูกสาวคนโตที่มีมารดาคอยดูแลและมีสมบัติติดตัวอยู่พอประมาณ
‘ตะ...แต่งงานหรือคะคุณพ่อ’
บาจรีย์...ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกชังเอ่ยถามเสียงเครือ หัวใจหล่นวูบ เรี่ยวแรงที่มีจางหาย แม้แต่จะถือช้อนไม่ให้ร่วงหล่นยังทำได้อย่างยากลำบาก เธอไม่ใช่คนสวยเหมือนจิราพัชรลูกภรรยาหลวงที่ถูกพะเน้าพะนอ งานการไม่เคยหยิบจับ เที่ยวเตร่สรวลเสเฮฮา เปลี่ยนผู้ชายเป็นว่าเล่น ใช้เงินราวกับเศษกระดาษ ต่างจากเธอตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัยก็อุทิศตนให้กับไร่กุหลาบของบิดา ช่วยงานท่านไม่เคยขาดตกบกพร่อง ถึงอย่างนั้นความดีของเธอก็ไม่เคยปรากฏ เพียงเพราะเธอเป็นลูก ‘เมียน้อย’ คำนี้เหยียบย่ำเกียรติของเธอจนไม่เหลือชิ้นดี เมื่อเธอถูกเลี้ยงให้มีศักดิ์เหนือกว่าคนรับใช้ขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
‘ใช่ อายุของแกสมควรแก่การแต่งงานได้แล้ว’
ผู้เป็นบิดาเอ่ยด้วยถ้อยคำหนักแน่น สบตาบุตรสาวนิ่งนานอย่างไม่ยอมเปลี่ยนใจ บาจรีย์หลุบตาลงต่ำ สะอื้นไห้ในอกในขณะที่ภรรยาหลวงกับพี่สาวต่างมารดาของเธอกำลังขบขัน หัวเราะต่อกระซิกราวกับจงใจให้เธอได้ยิน
‘แต่รีไม่เคยคิดอยากแต่งงาน รีอยากช่วยคุณพ่อทำไร่กุหลาบ’ หญิงสาวพยายามทัดทาน แต่ดูจากสีหน้าท่าทางของบิดาแล้ว ส่งผลให้หัวใจหญิงสาวห่อเหี่ยว ด้วยรู้ดีว่าไม่มีความหวัง
‘แกจะอยู่เป็นภาระของฉันไปอีกนานแค่ไหนยายรี แต่งงานไปซะ ฉันเลือกคนที่เหมาะสมกับแกไว้ให้แล้ว คุณติเอโกเขาเป็นคนดี มีฐานะระดับมหาเศรษฐี แกโชคดีขนาดไหนแล้วรู้หรือเปล่ามีผู้หญิงอีกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่เขาก็เลือกแก อีกสองวันเขาจะมาดูตัวแกที่นี่’
น้ำเสียงเหนื่อยหน่ายของบิดา และคำว่า ‘ภาระ’ ที่ท่านเลือกใช้เพื่อเชือดเฉือนหัวใจเธอ ทำให้เธอไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป หญิงสาวใช้หลังมือเช็ดน้ำตา ไหล่ห่อลู่สั่นไหวน้อยๆ หากเธอเงยหน้าขึ้นเธอจะเห็นว่าสายตาของบิดาที่มองเธอนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย หากแต่ชายสูงวัยผู้นี้เลือกที่จะเก็บความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ลึกสุดหัวใจ และแสดงออกตรงกันข้ามกับที่ใจคิด