ตอนที่ 16
เสียงบรรเลงดนตรีลีลาศจังหวะหวานซึ้งดังขึ้น พร้อมทั้งชายหนุ่มหญิงสาวที่มาด้วยกันเป็นคู่ พากันเดินมายืนอยู่ที่กลางฟลอร์เพื่อเต้นรำ
นิคลูกชายคุณหญิงรมณีย์ลุกขึ้นและเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่เขาพิศวาสเธอตั้งแต่แรก
“ให้เกียรติเต้นรำกับพี่สักเพลงได้มั้ยครับ น้องอัปสร” ชายหนุ่มโค้งตัว แล้วยื่นมือมา หญิงสาวประหม่าเล็กน้อย ก่อนจะยอมเดินออกไปเต้นรำกับเขา
คุณหญิงรมณีย์ที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันกับลูกชายของเธอ ลุกขึ้นเดินเข้ามาหาวิภาวรรณแม่ของตรีอัปสร เพื่อเอ่ยชมว่าลูกสาวของเธอที่กำลังเต้นรำด้วยท่วงท่าสง่างามในอ้อมแขนของลูกชายเธอนั่นเหมาะสมกันเพียงใด ขณะที่วาทิตลุกขึ้นและขอตัวเดินไปเข้าห้องน้ำ
คู่เด่นกลางฟลอร์ที่กำลังเต้นรำพร้อมกับส่งยิ้มให้กันอย่างไม่หยุดหย่อนสร้างความรู้สึกหมั่นไส้และขวางหูขวางตาให้กับคนหวงของจนต้องใช้แอลกอฮอล์เพื่อดับความร้อนภายในใจ สายตาแข็งกร้าวมองทั้งคู่จนอยากจนไปกระชากตรีอัปสรออกมาเสียให้ได้
“พี่พูดจริงนะครับ วันนี้น้องอัปสรสวยมาก” นิคเอ่ยชมตรีอัปสรอีกครั้งหลังจากที่ชมมาแล้วไม่ขาดปาก
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ พี่นิคคงจะแปลกตาเพราะไม่เคยเห็นอัปสรแต่งตัวแบบนี้”
“ถ้าน้องอัปสรไม่เชื่อก็ลองหันมองรอบ ๆ งานดูสิครับ ทุกคนแอบมองน้องอัปสรด้วยกันทั้งนั้น”
“เลิกชมอัปสรเถอะค่ะพี่นิค แค่นี้อัปสรก็ตัวจะลอยอยู่แล้ว” นิคมองหน้าหญิงสาวที่แดงระเรื่อขึ้นมา แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“เหนื่อยหรือเปล่าครับ อยากพักก่อนไหม”
“กำลังจะบอกพี่นิคอยู่เลยค่ะ พอดีอัปสรอยากเข้าห้องน้ำ”
“งั้นให้พี่พาไปนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวรีบบอกเพราะทนสายตาเกรี้ยวกราดของใครบางคนไม่ไหว
พอออกจากห้องน้ำตรีอัปสรก็พบกับคุณวาทิต ที่บอกว่าเขากำลังจะกลับก่อน และขอให้ตรีอัปสรช่วยเป็นธุระขับรถไปส่งลูกชายที่คอนโด วาทิตเห็นท่าทางของนิคแล้วเมื่อสักครู่ เค้าก็แทบจะรอไม่ได้จนอยากจะให้วันพรุ่งนี้มาถึงเร็ว ๆ เพราะกลัวว่าตรีอัปสรจะถูกนิคชิงจีบไปเสียก่อน เพราะคืนนี้หล่อนสวยมากจริง ๆ
“ถ้ายังไงไม่ต้องห่วงคุณแม่นะ เดี๋ยวลุงจะชวนคุณแม่หนูกลับพร้อมกับลุงเลย”
“ค่ะ”
“แล้วก็อย่าให้เจ้าวายุดื่มหนักล่ะ” ชายชรารีบย้ำ
เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตรีอัปสรก็ออกมาหาวายุ ส่วนวาทิตก็เดินเข้าไปชวนวิภาวรรณแม่ของตรีอัปสรกลับพร้อมกับเขา
“พอเถอะค่ะ ท่านรองดื่มไปหลายแก้วแล้วนะคะ” คนถูกห้ามตวัดสายตาขุ่นคลั่กใส่เลขาฯสาวทันที นอกจากจะทำให้เขารู้สึกเสียหน้าที่โดนนิคแย่งคู่ควงไปเต้นรำแล้ว ยังจะมาขัดใจเขาด้วยการแย่งแก้วเหล้าในมือไปอีก ก่อนจะสั่งเสียงเข้ม
“เอาแก้วฉันคืนมา”
“ไม่ค่ะ! คุณลุงกลับไปแล้ว และสั่งว่าให้อัปสรพาพี่กลับ”
“เดี๋ยวนี้ ไม่เรียกท่านรองแล้วเหรอ”
“นอกเวลางานค่ะ”
“แล้วพ่อฉันกลับไปตอนไหนเหรอ”
“ได้สักพักแล้วค่ะ พอดีท่านให้คุณแม่อัปสรกลับด้วย และบอกให้อัปสรขับรถให้พี่”
วายุมองหน้าใบหน้าสวยที่ขมวดคิ้วราวกับสงสัยแล้วกระตุกยิ้มที่มุมปากคล้ายกำลังจะเยาะเย้ยหล่อน พร้อมกับมือหนาที่เอื้อมไปคว้าขวดวิสกี้รินลงแก้วใบใหม่ แล้วเบนสายตามาหาคนต้นเรื่อง
“อยากให้พี่กลับก็ไปเต้นรำกับพี่ก่อนสิ” เสียงเข้มเปรยขึ้นมา และเธอคิดว่าพอจะเดาสาเหตุได้ว่าเพราะอะไรเขาถึงโกรธเธอเช่นนี้ ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองนะ สงสัยเมื่อกี้เค้าคงหึงหล่อน ตรีอัปสรจึงคิดจะเล่นตัวเพื่อแกล้งเขา
“เอาไว้เต้นวันหลังค่ะ งานเค้าจะเลิกกันแล้ว” ทันทีที่เธอพูดจบ ร่างสูงของวายุก็ลุกขึ้นก่อนจะดึงแขนหล่อนไปกลางฟลอร์เพื่อเต้นรำ ตรีอัปสรยืนเต้นและมองคนที่เธอหลงรักจนหมดใจด้วยสายตาเว้าวอน มือเรียวยื่นออกไปหมายคว้าลำแขนแกร่งและยื้อเขาไว้
“พี่วายุโกรธอัปสรเหรอคะ”
“ฉันโกรธที่เธอไปเต้นรำกับมัน”
“อัปสรแค่ไม่อยากเสียมารยาทค่ะ”
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้..รู้มั้ย”
“ค่ะ อัปสรจะไม่ทำแล้ว ตอนนี้เรากลับกันได้หรือยังค่ะ
“อ๋อ ได้สิ พี่ลืมไปว่า พรุ่งนี้เราต้องเดินทางกันแต่เช้า”
“เรา..หมายถึงพี่กับอัปสรเหรอคะ”
“ก็ใช่นะสิ”
“ก็ไหนพี่บอกว่าจะให้คุณลุงไปกับอัปสรไม่ใช่เหรอคะ”
“ไม่แล้ว พี่ไปเองดีกว่า” ตรีอัปสรลอบยิ้ม