5
ว่าไงฉันถามว่ากลัวฉันเหรอ” ใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้ชิดเรียวหน้าบาง ก่อนจะถาม
“กลัวค่ะ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะ” ทิพย์ธาราตอบตรงๆ เสียงหัวเราะของอเล็สซานโดรดังอยู่ในลำคอ นิ้วเรียวยาวของเขาเชยคางมนขึ้นมา ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้เธอมากยิ่งขึ้น จนริมฝีปากทั้งสองห่างกันไม่ถึงสองนิ้ว ทิพย์ธาราหลับตาแน่นเมื่อได้สัมผัสกับลมหายใจของเขา หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความกลัวระคนตื่นเต้น กลัวว่าเขาจะทำแบบเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ตื่นเต้นที่ใบหน้าของเขาอยู่ชิดจนได้รับรู้ลมหายใจของกันและกัน
“คงจะไม่ได้ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ฉันอยากทำมากที่สุด” ชายหนุ่มใช้ริมฝีปากแตะที่เรียวปากนุ่มเบาๆ และเพิ่มแรงบดเคล้ายิ่งขึ้น แต่เหมือนสวรรค์ช่วยทิพย์ธาราเมื่อเสียงเปิดประตูห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าถูกเปิดออก ทำให้อเล็สซานโดรจำต้องผละจากร่างของทิพย์ธารา ก่อนที่อแมนดาอาหารว่างรสจัดจ้านของเขาจะเห็น
“ทาร่า เก็บของสิจะได้กลับแล้วนี่เป็นอะไรยืนตัวสั่นเชียว อแมนดาเอ่ยถาม
“ปะ เปล่าไม่เป็นอะไรพอดีเห็นแมลงตัวใหญ่” เป็นอีกครั้งที่เธอแก้ตัว
“แค่แมลงตัวเดียวแกยืนตัวสั่นขนาดนี้เลยเหรอไปเก็บของไปจะได้รีบกลับ” ทิพย์ธารารีบเก็บของใช้ส่วนตัวของนางแบบสาวทันที เพราะเธออยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ทั้งหมดเดินออกมาจากห้องส่วนตัวเพื่อเดินทางกลับบ้าน โดยมีคนของอเล็สซานโดรยืนรออยู่ที่หน้าห้อง อแมนดาทักทายเพื่อนรวมงานที่อยู่ด้านนอก ที่เป็นเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน
“อ้าว ลูกแมวน้อยมาด้วยเหรอ” โทมัสนายแบบชาวอังกฤษที่มาเอาดีทางด้านเดินแบบในอิตาลี เอ่ยทักทิพย์ธารา ที่เดินตามหลังอแมนดามา เพราะทั้งสองสนิทสนมกัน เนื่องจากเจอกันตามงานที่อแมนดารับงานอยู่บ่อยครั้ง โทมัสเป็นคนคุยสนุก สุภาพ อัธยาศัยดีและที่สำคัญเห็นทิพย์ธาราเหมือนน้องสาว เขาเป็นคนเดียวที่เรียกเธอว่าลูกแมวน้อย ซึ่งเป็นชื่อเล่นของเธอ
“ฉันเดินมานี่ นายไม่ทักฉันเลยนะโทมัส ทักแต่ทาร่า” อแมนดาอดค่อนขอดไม่ได้
“จะทักเธอทำไม เมื่อกี้ก็เดินแบบด้วยกัน” โทมัสพูดก่อนจะเดินไปหาทิพย์ธารา โดยมีสายตาที่ไม่พอใจของอเล็สซานโดร มองตามผ่านแว่นตาสีชาเข้มที่เพิ่งสวมใส่ตอนออกมาจากห้อง
“ลูกแมวน้อยกลับด้วยกันหรือเปล่า” โทมัสเอ่ยชวน เพราะอพาร์ตเมนต์ของทิพย์ธารา เป็นทางผ่านของคอนโดที่เขาพักอาศัย ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณสองร้อยเมตรเท่านั้น
“ไปสิ ไป” ทิพย์ธาราตอบแบบไม่ต้องคิด
“งั้นไปกลับบ้าน ว่าแต่ไปหาอะไรกินกันก่อนนะ ผมหิว”
“ได้สิ อแมนดา ทาร่ากลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน” ทิพย์ธาราปลีกตัวออกทันที และรู้สึกโล่งใจที่นายแบบหนุ่มเข้ามาช่วยเธอในสถานการณ์ที่อึดอัดเช่นนี้ โทมัสเดินมาโอบไหล่ของเธอ โดยที่ทิพย์ธาราไม่ได้คัดค้านการกระทำของนายแบบหนุ่ม หากคนที่ไม่พอใจจนอยากจะเอาปืนจ่อหัวโทมัสก็คือมาเฟียหนุ่ม ทั้งคู่กำลังเดินออกไปจากห้องจัดงาน แต่เสียงห้าวดังกังวานขึ้นเสียก่อน
“ผมกำลังจะพาอแมนดาไปทานอาหารอยู่พอดี ชวนคุณโทมัสด้วยแล้วกัน หวังว่าจะให้เกียรติผมนะครับ” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยอำนาจ เหมือนจะออกคำสั่งกลายๆ โทมัสหรือจะกล้าปฏิเสธมาเฟียหนุ่มแห่งเกาะซิซิลี ที่มีอำนาจแผ่ขยายมาถึงโรม และมิลาน อาจเป็นเพราะเขาเป็นเจ้าของโรงแรมชื่อดัง และยังมีกิจการมากมายในอิตาลี รวมทั้งเจ้าของร้านจิวเอลรีชื่อดังด้วย
“เอ่อ ครับ” โทมัสรับคำเชิญอย่างจำใจ เพราะเขาไม่อยากมีเรื่องกับผู้ชายคนนี้มากนัก เนื่องจากต้องหารายได้จากอาชีพนายแบบที่นี่อยู่ การที่มีข้อขัดแย้งกับมาเฟียดังคนนี้ไม่ส่งผลดีกับเขานัก
“งั้น!! ทาร่ากลับก่อนนะ”
“คุณก็ต้องไปด้วย เพราะคุณต้องไปดูแลอแมนดาไม่ใช่เหรอ” อเล็สซานโดรพูดแทรกขึ้น
“ไปกันหมดนี่น่ะแหละ รีบไปเถอะหิวจะแย่แล้ว” อแมนดาตัดสินใจเอง ทำให้ทิพย์ธาราเดินตามไปอย่างไม่เต็มใจนัก หากแต่เธอขัดอแมนดาไม่ได้
อเล็สซานโดรพาทั้งหมดมาที่ห้องอาหารหรูกลางกรุงโรม ทิพย์ธารามองอาหารบนโต๊ะที่แต่ละจานมีราคาค่อนข้างแพง จานหนึ่งอย่างต่ำมีราคาเฉียดร้อยยูโร ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เธอใช้จ่ายกับน้องอีกสองคนได้หลายวัน พานให้นึกถึงอาหารหลักที่ทำกินภายในบ้านที่มีเพียงมักกะโรนี สปาเกตตีหรือไม่ก็พาสตาง่ายๆ เท่านั้น หากวันใดอแมนดาไม่ซื้อของมาฝากน้องๆ ของเธอ รับรองได้ว่าไม่ได้ทานอาหารอย่างอื่นแน่นอน
“มองอาหารแบบนี้ คิดถึงน้องๆ ละสิ” อแมนดาถามอย่างรู้ทัน ทิพย์ธาราได้แต่ยิ้มบางๆ เท่านั้น ทั้งหมดรับประทานอาหารกันอย่างเงียบๆ มีเพียงการสนทนาของอเล็สซานโดรและอแมนดาเท่านั้น
“เมดของอแมนดาเป็นคนไทยเหรอ” อเล็สซานโดรเอ่ยถามอแมนดา ระหว่างที่รอของหวาน พร้อมกับจิบน้ำแก้กระหาย
“ใช่ค่ะ ทาร่าเป็นคนไทย ชื่อว่าทิพย์ธาราหรือเรียกสั้นๆ ว่าลูกแมว แต่ชื่อนี้เรียกยาก ฉันเลยเรียกว่าทาร่าแทน ง่ายดี” อแมนดาตอบอย่างไม่ใส่ใจ อเล็สซานโดรพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะจ้องมองใบหน้าหวานของทิพย์ธารา ผ่านแว่นตาสีชาเข้มนิ่งโดยที่ทุกคนบนโต๊ะอาหารไม่รู้ ดวงตาของเขาทอประกายจ้าราวดวงไฟ เมื่อเห็นโทมัสป้อนของหวานที่บริกรนำมาเสิร์ฟ เข้าไปในปากของทิพย์ธารา ก่อนที่ทั้งสองจะยิ้มให้แก่กัน เขากระแทกแก้วน้ำลงอย่างแรง ทำให้คนที่นั่งร่วมโต๊ะต่างตกใจในท่าทีของชายหนุ่มยิ่งนัก แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร นอกจากก้มหน้ารับประทานของหวานตรงหน้าต่อไป ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินออกจากห้องอาหารหรู เมื่อการรับประทานอาหารเสร็จสิ้นลง