EP 4

1186 คำ
รูปร่างผอมเพรียว ส่วนสูงร้อยเจ็บสิบห้า ซึ่งเกินมาตรฐานสาวไทยหลายคน แขนกับต้นคอที่ไม่ถูกเสื้อกับกางเกงปกปิดไว้ ก็ขาวราวหิมะ ถ้าเจ้าตัวมีตาชั้นเดียวทุกคนคงจะลงความเห็นว่าเป็นคนจีนแน่ แต่นั่นก็เพราะทั้งพ่อและแม่เป็นคนผิวขาวนั่นเอง “ต้มจืดวุ้นเส้น กับคั่วกลิ้งอย่างละถ้วย ข้าวเปล่าสองค่ะ” หญิงสาวสั่งแม่ค้าที่คุ้นหน้าตากันดีด้วยความรวดเร็ว และก็มักจะเลือกเมนูที่ไม่มีน้ำมันเข้ามาเจือปนหากไม่จำเป็น เพราะต้องรักษารูปร่าง ทรวดทรงองเอวให้ดูดีอยู่เสมอ มันดีกับสุขภาพและดีกับงานนอก ที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ อีกทั้งได้เผื่อแผ่ไปถึงครอบครัวของลุง ซึ่งช่วยเหลือค้ำจุนกันมาตั้งแต่สิ้นผู้เป็นตากับยายไปเมื่อหลายปีมาแล้ว หรือตั้งแต่ที่เธอกับแม่หอบกันกลับไปหาตากับยายก็ว่าได้ “แม่ค้าจ๊ะ เอาพะโล้อีกถ้วยนะ” หทัยชนกหันไปมองพี่ตาเขม็ง ไม่ใช่เพราะหวงเงิน ที่เธอมักจะควักกระเป๋าเลี้ยงแต่อย่างใด หากเป็นเพราะรูปร่างของพี่เริ่มจะออกข้างไปหน่อยแล้ว วีนายิ้มแหยๆ ให้ก่อนจะพากันไปนั่งมุมที่ใกล้พัดลมสุด เพื่อช่วยขจัดปัดเป่าอากาศอันร้อนอบอ้าวของเมืองสิวิไล ที่ใครๆ ก็ต่างอยากจะมาอยู่นักหนา “แล้วเย็นนี้จะกลับบ้านก่อนหรือไปงานต่อเลยล่ะอ๋อ” วีนาเอ่ย มือก็รินน้ำจากขวดใสๆ ที่เพิ่งคว้ามาจากตู้แช่ คนถูกถามนั่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสรุปออกมา “วันนี้คงจะรถติด เราไปเลยดีกว่า ฝากพี่อี๋ช่วยโทรไปบอกป้า ให้ซื้อกับข้าวเผื่อแม่ด้วยนะ หรือไม่ก็มากินด้วยกันแล้วก็นอนเป็นเพื่อนแม่เหมือนเดิม พออ๋อเสร็จงานก็ไปนอนบ้านพี่อี๋เลย จะได้ไม่ต้องไปกวนเวลาลุกมาเปิดประตูให้ไง” เพราะทุกครั้งที่หทัยชนกมีงานเดินแบบช่วงกลางคืน ก็มักจะต้องไหว้วานลุงป้าให้ช่วยดูแลอิงอรผู้แม่ ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงมาร่วมห้าปีแล้ว เนื่องจากเป็นมะเร็งเต้านม จนต้องตัดออกไปหนึ่งข้าง เรี่ยวแรงที่เคยมีก็หดหาย อาชีพทำแกงถุงขายหน้าปากซอย ที่ยึดมาตั้งแต่หนีกลับมาอยู่กับพ่อแม่ใหม่ๆ กระทั่งพ่อแม่ตายจากไปก็พลอยทำไม่ได้ ภาระอันหนักอึ้งจึงตกอยู่กับลูกสาวเพียงคนเดียว “ได้สิ งั้นรีบกินเลยนะ จะได้รีบกลับไปเคลียร์งาน ถ้าเสร็จเร็วจะได้ออกเร็วๆ หน่อย” สองสาวกลับเข้าออฟฟิศในเวลาบ่ายโมงนิดๆ แล้วก็แยกย้ายกันไปทำงาน แต่กระนั้นหทัยชนก ก็ยังถูกลูกพี่เรียกไปตำหนิในเรื่องกลับสาย แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าลูกน้องออกไปในเวลาเที่ยงครึ่ง แต่เพราะความอิจฉาที่อีกคนสาวกว่า สวยกว่า และเจ้านายชอบใจมากกว่า จึงคอยหาเรื่องเล่นงานไม่ว่างเว้น “เขาให้พักเที่ยงทำไมไม่ไปให้มันตรงเวลาล่ะ ไปช้าเองแล้วอย่ามาเถียงพี่นะ ทีหลังอย่าให้เห็นอีกไม่งั้นเรื่องถึงบอสแน่ แล้วอย่าหาว่ารังแกกันนะ” หทัยชนกหันไปยักไหล่ให้วีนา เพราะไม่สนใจจะเก็บคำด่าว่าของสาวแก่มาเป็นอารมณ์ รังแต่จะทำให้หมดมู๊ดในการทำงานเปล่าๆ เจ้านายหนุ่มชาวอังกฤษ ที่เดินเข้ามาในออฟฟิศเห็นเหตุการณ์เข้า จึงยิ้มให้ลูกน้องสาวเป็นเชิงปลอบใจ แถมก็ให้ระอากับลูกน้องอีกคน เพราะไม่รู้จะแก้ไขยังไงในความเจ้าจี้เจ้าการกับลูกน้อง “Are you ok?” ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นจ้องมองดวงหน้าสวยของลูกน้องอย่างมีความหมายที่มากกว่าคำว่าลูกจ้างกับนายจ้างอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่นานก็ปรับเปลี่ยนแววตาแห่งความเมตตาห่วงใยแทน และดูเหมือนหทัยชนกเองก็จะรู้ซึ้งถึงความหมายโดยนัยเช่นกัน “Never mind thank you boss” หญิงสาวส่งยิ้มบางๆ ให้แล้วรีบเดินเข้าห้องทำงานทันที ด้วยไม่อยากจะพิรี้พิไรอยู่ใกล้เจ้านาย กลัวจะเป็นการทอดสะพานให้โดยไม่รู้ตัวอีก และตัวเองก็จะไม่ขอสานต่อความสัมพันธ์ในแง่อื่น นอกจากนายจ้างกับลูกจ้างเท่านั้น เพราะเจ้านายมีมีครอบครัวแล้ว เธอจึงไม่คิดจะเป็นตัวไปทำลายชีวิตรักของใคร เพราะเห็นตัวอย่างแม่ที่ถูกแย่งของรักจากอกมาแล้วว่ามันเจ็บปวดสักแค่ไหน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอจึงยังหาหนุ่มรู้ใจไม่ได้สักที แม้จะสะสวยเป็นที่หมายปองของชายหลายต่อหลายคน แต่ก็โชคร้ายเหลือกำลัง ที่ชายเหล่านั้นต่างมีพันธะกันหมดแล้ว เธอจึงได้แต่ครองตัวเป็นโสดมาจวบจนอายุยี่สิบแปด โดยที่ยังหาแฟนไม่ได้สักคน นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก เพราะเรื่องหาเลี้ยงปากท้องของตัวกับแม่เป็นเรื่องที่ใหญ่กว่า เจ้าของร่างสูงเพรียว จึงรีบแล้วทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงาน จนเสร็จสรรพก่อนเวลาเลิกงานถึงครึ่งชั่วโมง ความตั้งใจแรกที่ว่าจะรีบไปนั้นถูกพับเก็บเข้าลิ้นชักโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ด้วยไม่อยากถูกเรียกไปว่ารอบสอง แม้กลัวว่าจะไปไม่ทันนัดก็ตามที เธอก็ได้แต่คิดว่า ถ้ารถติดจริงๆ ก็ทิ้งอีแก่ให้พี่ขับต่อ ส่วนตัวเองก็ใช้บริการพี่ วินมอเตอร์ไซด์เหมือนหลายครั้งที่เคยทำมา   “มาแล้วเหรอยะยัยอ๋อ คราวนี้มารถเก๋งหรือนั่งพี่วินมาล่ะยะ เร็วๆ เข้าไปนั่งให้ช่างแต่งหน้าทำผมด่วน” แต่โชคก็ยังเข้าข้างสองสาวอยู่มาก ที่ไม่ต้องทำตามแผนสำรอง เพราะวิ่งไปถึงห้องแต่งตัวตรงเวลานัดเป๊ะ แถมด้วยอาการหอบน้อยๆ จนตอบเบลเบล เจ้ดันสาวในร่างชาย ที่ยืนคอยชี้นิ้วสั่งคนนั้นคนนี้ จนวุ่นไปหมดแทบไม่ทัน แล้วก็ถูกลากแขนให้ไปนั่งหน้ากระจก วีนาหอบกระเป๋าสะพายของน้องไปนั่งรออยู่ข้างๆ แล้วคอยช่วยช่างผมจับโน่นจับนี่ไปตามเรื่อง เพราะคุ้นเคยกันดี “คุณหญิงชุดฟินมาแล้ว พวกเรารีบๆ หลบหน่อยสิยะ ยิ่งขาใหญ่อยู่ด้วย” เสียงสาวประเภทสองอีกคนกระซิบกระซาบให้กัน เมื่อนางแบบสาวสวยชื่อดัง ที่จะต้องใส่ชุดฟีนาเล่ในค่ำคืนนี้ หรือในหลายๆ คืนที่หทัยชนกได้มีโอกาสมาร่วมงานด้วย เดินเยื้องย่างเข้ามาในห้องแต่งตัว ความคิดที่จะผูกมิตรกับเจ้าหล่อนนั้น หทัยชนกล้มเลิกไปนานแล้ว เพราะเจ้าหล่อนหยิ่งยโสโอหัง คอตั้งหน้าตรง ไม่หันมองใครถ้าไม่ใช่คนระดับเดียวกันนั่นเอง 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม