บทที่3. เหตุการณ์ที่ทำให้รัชนิชลมองตากล้องรูปหล่อเปลี่ยนไปจากเดิม

1535 คำ
รถตู้คันใหญ่จอดรออยู่ตรงประตูทางออกของท่าอากาศยานจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อรัชนิชลเดินไปถึงที่ ทุกคนๆ ก็ส่งเสียงร้องทักทายชายหนุ่มด้านหลังกันเสียงดังเซ็งแซ่ โดยเฉพาะสาวน้อยทีมงานที่ร่วมเดินทางไปด้วย ต่างแสดงกิริยาเชิญชวนจนออกหน้าออกตา เธอส่ายใบหน้าแอบชำเลืองมองตัวต้นเหตุที่ยืนทำไม่รู้ไม่ชี้คุยกับเพื่อนๆ ทีมงานอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจปล่อยให้สาวน้อยสาวใหญ่วี้ดว้ายเอ่ยแซวกันตามสบาย รัชนิชลมุดรอดช่วงแขนของทีมงานบางคนที่ยืนขวางทางเดินขึ้นไปนั่งจองที่ด้านหลังสุดของตัวรถยนต์ ตัดปัญหาการแก่งแย่งกันใกล้ชิดกับหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ เธอล้วงโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง ค้นหาเพลงฟังสบายๆ จัดแจงเสียบสมอลทอร์คกับใบหูปิดกั้นการรับรู้รอบตัวๆ ปิดเปลือกตาลงเอนกายพิงเบาะฟังเสียงเพลงแผ่วๆ แทนเสียงวี้ดว้ายของสาวๆ ทีมงาน หลังจากเธอพริ้มตาหลับ ปิดกั้นการรับรู้จึงไม่รู้ว่ามีนัยน์ตายาวรีคอยชำเลืองมองบ่อยๆ จวบจนสิ้นสุดการเดินทางเมื่อถึงที่หมายปลายทาง... โรงแรมใหญ่ในตัวเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอนสถานที่พัก ก่อนจะระหกระเหินเดินทางขึ้นยอดดอย เพื่อไปถ่ายทำสารคดี ทีมงานทยอยลงจากตัวรถยนต์ เหลือแค่เพียงรัชนิชลที่หลับสนิทอยู่ด้านหลัง เสียงเจี๊ยวจ้าวเงียบลงเมื่อทุกคนต่างไปรวมตัวยืนรอรับคีการ์ดหน้าเคาว์เตอร์ เพื่อที่จะได้ขึ้นพักผ่อนบนห้องส่วนตัว แคสเตอร์เหลือบมองหญิงสาวในรถยนต์ด้วยความเป็นห่วงส่วนตัว เมื่อหมุนดูรอบๆ ตัวไม่เห็นมีใครใส่ใจรัชนิชลหรือรับรู้ว่าเธอยังไม่ได้ลงจากรถ ชายหนุ่มจึงมุดกายกลับเข้าไปภายในรถยนต์อีกครั้งเพื่อปลุกหญิงสาวให้ตื่นจากนิทราอันแสนสุข จะได้ไปพักผ่อนต่อบนห้องนอนสบายๆ ไม่ต้องมานอนตัวขดตัวงออยู่ในรถยนต์ “น้ำค้าง...คุณๆ ตื่นเถอะเขาไปกันหมดแล้วครับ!!” แคสเตอร์สะกิดเรียกหญิงสาวเบาๆ ฝ่ามือหนาจับเรียวแขนเขย่า ปลุกให้เธอตื่นจากหลับใหล รัชนิชลสะดุ้งตื่น เธอบิดลำตัวไปมาเมื่อปวดเมื่อยไปทั้งตัวหลังถูกปลุกขึ้นมาจากนิทราอันแสนสุข ก่อนจะรีบขยับกายหนี เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นมาเจอกับสายตาคมกล้าของหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ประจำทีม ดวงตากลมโตไหวหวั่นรีบเสหลบตาพัลวันและเอ่ยขอบคุณเสียงสั่นพร่า “ขอบคุณค่ะ...” แคสเตอร์ถอยหลังออกมายืนนอกตัวรถยนต์ ร่างสูงใหญ่ยืนตั้งมั่นรอให้แน่ใจว่าเธอออกมาอย่างปลอดภัย ถึงจะคลายความเป็นห่วงในใจ รัชนิชลสาวเท้าก้าวตามชายหนุ่มมาติดๆ จนสะดุดกับพื้นยางปูบนรถยนต์ร่างกายเสียหลักถลาเข้าสู่อ้อมอกหนาของเจ้าของร่างสูงใหญ่เบื้องหน้า ปุ๊บ! อกหนาหนั่นถูกปะทะอย่างแรง เสียงดังสนั่น! แคสเตอร์จึงรีบสวมกอดเรือนกายของรัชนิชลด้วยความตกใจ ร่างนุ่มนิ่มในอ้อมแขนหอมกรุ่นผิวเนื้อหยุ่นๆ ตรงหน้าอกปะทะแผงอกหนาหนั่นเต็มแรง จนชายหนุ่มเปิดยิ้มกว้างด้วยความพอใจ เมื่อความอวบใหญ่มากมายกว่าที่คาดการณ์ “อุ้ย! ...” เสียงอุทานด้วยความตกใจของหญิงสาวในอ้อมกอด พร้อมกับฝ่ามือเรียวบางที่พยายามดันแผ่นอกหนาของตัวเขา เพื่อจะถอยออกห่างร่างกายหนาหนักที่ร้อนระอุ “ปล่อยค่ะ!” รัชนิชลเอ่ยเสียงแผ่วๆ ร่างกายแข็งเกร็งอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม “ครับ...” แคสเตอร์ยอมตัดใจปล่อยร่างบอบบางในอ้อมกอดอย่างแสนเสียดาย ผิวกายเธอเรียบลื่นละมุนมือ กลิ่นหอมอ่อนๆ กรุ่นอยู่ในช่องจมูกจนนึกติดใจ อยากจะสานสัมพันธ์แนบแน่นเหมือนหนุ่มเสเพลทั่วไป ยามที่เกิดความพอใจสาวที่ถูกอกถูกใจขึ้นมา แววตาร้อนแรงคมปลาบกับลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดผิวเนื้อตรงซอกคอ ทำให้รัชนิชลผวาสั่น เธอรีบหลีกหนีไปด้วยหัวอกหัวใจสั่นระรัว แคสเตอร์ทอดสายตามองตามบั้นท้ายกลมกลึงของรัชนิชลไปด้วยความติดใจ พร้อมกับถอนลมหายใจเฮือกๆ เมื่อร่างกายตัวเองประท้วงขยับขยายลุกขึ้นมาอวดศักดา แก่นกายแข็งค้างปวดตุ๊บๆ เต้นกระดี๊กระด๊าเมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนกายอวบอุ่นอ่อนละมุน เขาจึงได้แต่ส่ายศีรษะอย่างอ่อนอกอ่อนใจตัวเอง คงเป็นเพราะกร่ำงานหนัก จนห่างหายเรื่องเพศสัมพันธ์ เมื่อได้แตะต้องคนที่พึงใจ ร่างกายจึงตื่นเพริดขึ้นมาแบบปุบปับ... บทที่3. เหตุการณ์ที่ทำให้รัชนิชลมองตากล้องรูปหล่อเปลี่ยนไปจากเดิม รัชนิชลรีบสาวเท้าเดินจากมาด้วยความตกใจ อกเธอสั่นขวัญบินกระเจิดกระเจิง เมื่อความร้อนผ่าวของวงแขนกำยำยังตอกตรึงอยู่ทุกตารางผิวเนื้อที่ถูกแตะ ขนแขนบนเรียวแขนอ่อนบางยกตั้งชูชัน มันรับรู้ถึงความกระสันซ่านอย่างปรีดิ์เปรม เธอรีบถลาเข้าไปภายในห้องพักด้วยความรวดเร็ว เหมือนกำลังวิ่งหนีเงามัจจุราชที่ไล่ตามมาติดๆ ฝ่ามือเรียวยกวางเหนือเนินอกด้านซ้ายที่ตั้งของหัวใจ มันเต้นเป็นจังหวะรัวเร็วดั่งกลองรบ จนเกือบจะกระเด็นกระดอนออกมาด้านนอกอก ถ้าขืนยังตกอยู่ในอ้อมแขนร้อนระอุแบบเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาหัวใจของเธอคงหยุดเต้นภายในเวลาสามนาทีเป็นแน่ๆ “น้ำค้างยัยบ้า!!? ไปเคลิ้มอะไรกับการถูกตัวนิดๆ หน่อยๆ มัวมาองมาอายทำไมกันเล่า?” เสียงหวานแผ่วพร่าก่นว่าตัวเองที่รีบชิ่งหนีจากมาด้วยความตกใจ ปล่อยให้ชายหนุ่มได้กำไรจากการแตะต้องเนื้อตัวเธอฟรีๆ โดยไม่ได้เอาคืนเลยสักนิด “ช่างเถอะน่ามันเป็นอุบัติเหตุ ลืมๆ ...ลืมเดี๋ยวนี้!!?” รัชนิชลยกมือขึ้นตบซีกแก้มของตัวเองเบาๆ ปลุกสติที่เตลิดไปไกลให้กลับคืนมา เพราะอารามตกใจที่ตกอยู่ในอ้อมกอดหนุ่มเจ้าเสน่ห์แบบแคสเตอร์ ชางบุคคลอันตรายที่เธอควรอยู่ให้ห่าง หากไม่อยากเสียใจเมื่อเธออาจจะตกบ่วงเสน่ห์ของเขาแบบไม่รู้ตัว เป็นเพราะฟรีโรโมนของชายหนุ่มฟุ้งกระจาย ดั่งละอองเกสรของดอกไม้ มันลอยวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเขา เธอและสาวๆ ที่หัวใจไม่เข้มแข็งพออาจจะตกหลุมรักเขาได้ง่ายๆ เธอเดินไปเอนกายลงนอนบนเตียงกว้าง สายตาหวานฉ่ำเหม่อมองเพดานห้องด้วยความเลื่อนลอย คงเพราะยังตกอยู่ในห้วงอารมณ์วาบหวาม ก่อนที่จะผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ เมื่อนึกถึงการทำงานในวันรุ่งขึ้นที่ยังจัดเตรียมไว้ไม่เรียบร้อย!!? “ตายแล้ว! ตายแน่ๆ ลืมตรวจเอกสารพรุ่งนี้เลย ต้องปีนขึ้นยอดดอยแล้วด้วยซิ” เธอก้าวพรวดพราด รีบคว้ากระเป๋าเดินทางออกมาเปิด ลงมือค้นหาของที่เธอต้องการ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ เมื่อพบเจอเอกสารเหล่านั้น เธอกางเอกสารออกวางตรงหน้าตัวเอง ตั้งหน้าตั้งตาตรวจทานอ่านวัตถุประสงค์ที่ทีมงานต้องการอย่างถี่ถ้วนละเอียดลออ จนลืมช่วงเวลาวาบหวามกับหนุ่มหล่อไปเสียสิ้น จมอยู่กับตัวหนังสือกับการทำความเข้าใจในเนื้อหาความต้องการของทีมงานประเทศฮ่องกง รายละเอียดต่างๆ รัชนิชลซึมซับไว้ในหัวสมอง เมื่อยามที่ต้องติดต่อกับผู้นำท้องถิ่นจะได้อธิบายให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในท้องถิ่นเข้าใจได้ไม่ยาก หญิงสาวแอบพอใจนิดๆ เมื่อยังมีคนใส่ใจเรื่องแบบนี้ในประเทศไทย ที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มัวแต่แก่งแย่งแข่งขันกันจนลืมใส่ใจการศึกษาของเด็กยากไร้ และโรงเรียนบนพื้นที่ห่างไกลที่ขาดแคลน แม้แต่ความช่วยเหลือก็เข้าไปไม่ถึง สุดเขตแดนประเทศไทยเต็มไปด้วยชนกลุ่มน้อยที่อาศัยปักหลักทำมาหากิน สร้างถิ่นฐานกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน แต่ไร้ระบบระเบียบทางการเรียน เมื่อความช่วยเหลือทุกฝ่ายยังเข้าไปไม่ถึงเพราะเป็นพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร รัชนิชลบิดตัวด้วยความเหมื่อยขบ บนที่นอนหนานุ่ม หลังจากศึกษาเนื้อความของเอกสารกับความต้องการของกลุ่มที่มาจัดการถ่ายทำ เธอมองนาฬิกาข้างพนังห้อง ก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่ง เมื่อมัวแต่อ่านเอกสารเพลินจนลืมทานอาหารมื้อเย็น และเวลาล่วงเลยไปไกล นาฬิกาบอกเวลา22:40นาที มันเกือบจะค่อนคืนแต่ร้านอาหารด้านล่างคงยังไม่ทันปิด รัชนิชลจึงรีบคว้ากระเป๋าสตางค์เตรียมตัวลงไปหาอะไรทาน เมื่อท้องไส้เริ่มครางประท้วงเพราะความหิวโหย เธอเดินลงมายังด้านหน้าบริเวณโรงแรมที่มีร้านแผงลอยมากมายไว้คอยให้บริการยามค่ำคืน อาหารหลากหลายอย่างส่งกลิ่นหอมยั่วยวน เมื่อเธอเดินผ่าน ดวงตากลมโตจ้องมองอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ด้วยดวงตาวาววาม ยกฝ่ามือเรียวบางลูบเบาๆ เหนือหน้าท้องแบนราบ ที่ครางครวญประท้วงเพราะความหิวโหย “ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็ได้กินแล้วจ้ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม