บทที่ 26 ความรู้สึกมันพัฒนากันได้
โรเจอร์รีบก้มลงมองเมนูอาหารในมือ รู้สึกประหม่าเหมือนตอนที่ยังเป็นหนุ่มไฮสคูลที่เริ่มเดตสาวครั้งแรก มันทำให้เขาเสียมาดหนุ่มนักธุรกิจ ที่มีหุ่นบึกบึนแบบนักกีฬาไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อสั่งอาหารกันครบแล้ว ต่างก็ชวนคุยกันเรื่องทั่วไประหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ
“เธอสวยมากใช่ไหมหลานรัก” คาร่ากระซิบถามหลานชายสุดหล่อหลังจากอาหารถูกนำมาเสิร์ฟครบแล้ว มองเขาด้วยสายตาล้อเลียนเมื่อเห็นเขาแอบมองเธออยู่บ่อย ๆ
“พูดกับโรเจอร์เขาหน่อยสิหลาน” เจ็สสิก้ากระซิบบอกหลานสาว แล้วหันไปสนทนากับชายหนุ่มเสียเองเมื่อเธอไม่ยอมทำตาม “หลานชายเดินทางมาที่นี่บ่อยไหมจ๊ะ”
“ก็บ่อยนะครับคุณย่า ผมจะไปทุกที่ที่ทีมบาสของผมไปเล่นครับ”
“เสียดายจังที่ย่ารู้ช้าไปหน่อย ไม่งั้นหลานชายกับหลานสาวของย่าคงได้รู้จักกันนานแล้ว หลานชายยังดูหนุ่มอยู่เลย ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ”
“สามสิบครับคุณย่า”
“เพิ่งสามสิบก็ได้เป็นผู้บริหารแล้ว เก่งจริง ๆ เลยนะ ย่าภูมิใจแทนคุณย่าของหลานจัง แล้วเมื่อไหร่จะแต่งงานล่ะ”
“ผมยังไม่มีแฟนเลยครับคุณย่า” ชายหนุ่มตอบแล้วมองไปที่หญิงสาวเล็กน้อย เพื่อดูอาการของเธอ แต่เธอเฉยมาก “ตั้งแต่เรียนจบผมก็มุ่งมั่นกับการพัฒนาทีมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จนลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลยครับ”
“น่าชื่นชมจริง ๆ แล้วตอนนี้เริ่มคิดจะมองใครบ้างหรือยังล่ะ”
“ก็เริ่มจะคิดแล้วครับคุณย่า”
“เหรอจ๊ะ พยายามเข้านะ ย่าขอเอาใจช่วย” ไม่ต้องบอกก็ดูออกว่าคนที่ชายหนุ่มถูกใจคือใคร แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการพบหน้าครั้งแรก
คาร่าเห็นเพื่อนส่งสายตาให้ก็ยิ้มรับเล็กน้อย และเริ่มทำหน้าที่ของตนเองบ้าง
“ชาร์มมิ่งล่ะจ๊ะ ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว”
“ยี่สิบสี่ค่ะคุณย่า ยังเด็กอยู่เลยค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าจากจานอาหารแล้วตอบคำถาม และออกตัวปกป้องตัวเองเสร็จสรรพ
“ยี่สิบสี่ไม่เด็กแล้วนะจ๊ะ เริ่มมีความรักได้แล้ว บางคนแต่งงานมีลูกแล้วด้วย”
“หนูยังไม่เคยคิดว่าตัวเองโตเลยค่ะคุณย่า เพราะทุกวันนี้ยังใช้เงินคุณพ่อคุณแม่อยู่เลยค่ะ หาเงินใช้เองก็ยังไม่เป็น ดีแต่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไปวัน ๆ เทียบกันไม่ติดกับคุณโรเจอร์เลยค่ะ เพราะตอนที่เขาอายุเท่าหนู เขาก็เป็นผู้บริหารแล้ว”
“ฟังหลานสาวฉันพูดเข้าสิ ถ่อมตัวมาก ๆ เลย” เจ็สสิก้าหน้าเสียไปเล็กน้อยกับคำตอบของหลานสาว “จริง ๆ แล้วเธอเป็นนักแต่งเพลงจ้ะโรเจอร์”
“ค่าลิขสิทธิ์เพลงที่หนูได้ยังไม่พอค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนของหนูเลยค่ะคุณย่า อย่าไปคุยให้คุณโรเจอร์เขาฟังสิคะ หนูอายเขา” หญิงสาวส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้ชายหนุ่ม เหมือนกระดากอายกับรายได้อันน้อยนิดของตน
“คุณชาร์มมิ่งนี่น่ารักมากเลยนะครับ” โรเจอร์กล่าวชม “ผมชอบผู้หญิงที่กล้าพูดอะไรตรง ๆ แบบนี้แหละครับ เพราะบ่งบอกให้รู้เลยว่าเป็นคนจริงใจ”
คำพูดของชายหนุ่มทำเอาสตรีสูงวัยทั้งสองฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาทันที โดยเฉพาะเจ็สสิก้า เพราะหลานสาวของนางเจอคู่ปรับเข้าแล้ว
ชาร์มมิ่งหยุดพูดโดยทันที เพราะถ้าขืนพูดต่อไปเขาอาจจะบอกว่ารักเธอเลยก็ได้คราวนี้
โรเจอร์คลี่ยิ้มบาง ๆ มองหญิงสาวที่เอาแต่สนใจอาหารในจานไม่วางตา ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมดทุกอย่าง
“หลานชายย่าเขาสนใจแต่เรื่องงานจนลืมเรื่องผู้หญิง ย่าเองก็แก่มากแล้ว อยากให้เขาแต่งงานสักที หนูชาร์มมิ่งพอจะแนะนำใครให้โรเจอร์เขาได้บ้างไหมจ๊ะ” คาร่าเริ่มถามหญิงสาวอีกครั้ง
“หนูยังนึกไม่ออกหรอกค่ะคุณย่า เพราะเพื่อนหนูมีแต่ผู้ชายซะส่วนใหญ่ เอาไว้ถ้าหนูเจอใครที่เหมาะกับคุณโรเจอร์หนูจะบอกนะคะ”
“แต่สำหรับย่า ย่าเจอคนที่เหมาะกับหลานชายของย่าแล้วนะ” คาร่ามองหญิงสาวด้วยดวงตาเป็นประกาย จู่โจมถึงตัวเธอทันที “หนูอยากรู้ไหมจ๊ะว่าเป็นใคร”
“ไม่ขอทราบดีกว่าค่ะคุณย่า เพราะหนูคงไม่รู้จักเธอคนนั้น” หญิงสาวตอบปฏิเสธถึงแม้จะรู้คำตอบจากสายตาของท่านแล้ว
“คุณย่าไม่น่าจะถามคุณชาร์มมิ่งแบบนั้นเลยนะครับ แต่น่าจะบอกเธอไปเลยว่าผมกับคุณย่าใจตรงกัน คนที่เราพอใจก็คือหลานสาวของคุณย่าเจ็สสิก้านั่นเอง” โรเจอร์พูดเข้าประเด็น ไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา
“ห๊ะ! เป็นหนูเองเหรอคะเนี่ย รู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณคุณย่ากับคุณโรเจอร์มากนะคะ”
“ย่าเองก็พอใจหลานชายมากจ้ะ หลานสาวย่าเองก็ไม่ได้รังเกียจหลานชาย และหลานชายก็พอใจในตัวหลานสาวของย่ามากแบบนี้ ก็น่าจะลองคบหากันดูนะ” เจ็สสิก้ารีบรวบรัดเอาเองทันที ไม่ถามความสมัครใจของหลานสาวสักนิด
“ฉันเห็นด้วยนะเจ็สสิก้า แล้วหลานล่ะ” คาร่าถามหลานชายตัวเอง
“เต็มใจมาก ๆ ครับคุณย่า”
อารมณ์ที่พยายามสงบนิ่งมาตั้งแต่แรกของชาร์มมิ่ง แอนนาเบล เครน พุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน โดยเฉพาะคำพูดของผู้ที่เป็นย่า ท่านมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ไม่เคยถามความสมัครใจของเธอก่อน แต่ชอบทำตามใจตัวท่านเองก่อนตลอด
“ว่าไงจ๊ะชาร์มมิ่ง รับหลานชายของย่าไว้พิจารณาได้ไหม” คาร่าถามหลานสาวของเพื่อนรักด้วยใจที่มุ่งหวังคำตอบรับ
“หนูขอรับคุณโรเจอร์ไว้ในฐานะเพื่อนนะคะ เพราะหนูยังไม่มีความคิดเรื่องมีแฟนเลยค่ะ” เธอเก็บอารมณ์ไม่พอใจเอาไว้และตอบรับด้วยใบหน้าฝืนยิ้ม
“ความรู้สึกมันพัฒนากันได้ เริ่มจากการเป็นเพื่อนก็ดีเหมือนกันจ้ะ หลานเห็นด้วยไหมโรเจอร์” คาร่ายอมรับอย่างพอใจ
“ครับคุณย่า” แค่นี้ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว “ขอบคุณนะครับคุณชาร์มมิ่ง ที่ยอมเป็นเพื่อนกับผม” ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของเขา และหัวใจของเธอว่าจะยอมรับเขาในฐานะคนรักหรือไม่
“ด้วยความยินดีค่ะ” เธอตอบรับและมองหน้าเขาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่ส่งเสียงเตือนสายเรียกเข้าในกระเป๋าขึ้นมาดู “ขออนุญาตรับโทรศัพท์นะคะ”
“เดี๋ยวค่อยโทรกลับก็ได้นี่หลาน อย่าทำตัวเสียมารยาทสิ” เจ็สสิก้าเตือนหลานสาว
“โทรศัพท์จากเมืองไทยนะคะคุณย่า” เธอจงใจประชดความเจ้ากี้เจ้าการของผู้เป็นย่าด้วยการโชว์หน้าจอให้ท่านดู “หนูขอรับสายแล้วบอกว่าจะโทรกลับได้ไหมคะคุณย่า” แล้วกดรับสายของเพื่อนรักโดยไม่รอฟังคำตอบ “อีกสักครู่ชาร์มโทรกลับนะ ตอนนี้กำลังตกอยู่ในหลุมพรางไม่สะดวกคุยจ้ะ”
(อยู่กับคุณย่าอีกแล้วใช่ไหม) วิเวียนถามมาตามสาย
“จ้ะ เดี๋ยวชาร์มจะรีบโทรกลับนะ”
(โอเค อย่าลืมโทรมานะ วิจะบ้าตายแล้วตอนนี้)
“คุณชาร์มมิ่งพูดภาษาไทยได้ด้วยเหรอครับ” โรเจอร์ถามอย่างสนใจเมื่อเธอวางสายแล้ว
“ค่ะ คุณแม่ชาร์มเป็นลูกครึ่งไทย ชาร์มเลยกลายเป็นลูกเสี้ยว”
“แม่เขาให้ลูก ๆ ทุกคนเรียนภาษาไทยกันตั้งแต่เล็ก ๆ จ้ะ จ้างคนไทยมาสอนกันที่บ้านเลย”