8.พยายามใจเย็น

1350 คำ
ตลอดระยะเวลากว่า 6 ปี ในฐานะของ โอฟีเลีย แอเรียนา ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกหนีเดรธแฟล็คในตอนจบ และช่วงเวลาที่ผ่านมาชีวิตของฉันมันก็ไม่มีอะไรยากเย็นเกินกว่าที่ฉันคนนี้จะสามารถทำมันได้ จนมาพบเจอคาเซล.. โอฟีเลียจับไหล่ของคาเซลเอาไว้พร้อมกับดันตัวเขาออก เธอส่งสายตาไม่พอใจไปให้เขาราวกับว่าเขากำลังทำเรื่องที่ผิด และเมื่อเขามองเห็นสายตาของเธอ แทนที่เขาจะสลดลง คาเซลกลับยกยิ้มขึ้นมาด้วยแววตาที่แสนเจ้าเล่ห์ เขาไม่ได้รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเธออีก คาเซลเพียงแค่ซบหน้าลงไปบนหน้าขาของโอฟีเลียอย่างเดียวเท่านั้น เขาออกแรงขบกัดบริเวณต้นขาของเธอเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว.. การกระทำของเขาทำให้โอฟีเลียสะดุ้งเล็กน้อยแต่มันก็ดีมากทีเดียวที่เขาไม่ได้มาทำให้เธอเสียสมาธิเหมือนกับช่วงแรก เธอกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากของตัวเอง ก่อนจะกลับไปจดจ่อกับงานที่ลิฟตันกำลังรายงาน “ลิฟตัน ไปสำรวจที่ดินตรงท่าเรือหน่อยสิว่ามีแปลงไหนที่จะขายหรือไม่ แล้วก็อย่าให้ทางเทอรันรู้เรื่องนี้ ข้าไม่อยากจะต่อสู้เรื่องราคากับทางนั้น มันน่าปวดหัวมากทีเดียว” ลิฟตันก้มหน้าลง “ทางเทอรันน่าจะไม่มากวนใจคุณหนูสักพักละมั้งครับ เพราะทางนั้นทุ่มเงินจำนวนมากในการซื่อที่ดินบนภูเขานี่” โอฟีเลียโบกมือไปมาเพื่อเป็นเชิงให้ทั้งเพนนีและลิฟตันออกไปจากห้องนี้ และเมื่อบานประตูห้องทำงานของโอฟีเลียปิดลงเธอก็ยกฝ่ามือขึ้นมาแล้วฟาดมันลงไปที่ใบหน้าของคาเซลแรงๆ สักที “เพี๊ยะ!!” “เจ้าคิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่?” แรงจากฝ่ามือเล็กๆ นั้นไม่ได้ทำให้เขาเจ็บปวดสักเท่าไหร่นัก ไม่แปลกหรอกที่เธอจะโกรธ หากไม่โกรธน่าจะแปลกกว่า โอฟีเลียดูท่าจะไร้ประสบการณ์เรื่องความรักมากพอสมควร หากว่าเขาทำให้เธอรักเขาได้ เรื่องราวต่างๆ น่าจะง่ายดายขึ้นเยอะเลย “ข้าแค่ทำไปตามที่หัวใจของข้าต้องการ..อย่าลืมสิครับว่าท่านดัชเชสสั่งให้ข้าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของท่าน ข้าหลงใหลท่านแทบบ้า และความต้องการพวกนั้นก็หลั่งไหลออกมาจากหัวใจไม่หยุดหย่อน หากการทุบตีข้ามันทำให้ท่านสบายใจหรือว่ามีความสุขก็ทำมันอีกสิครับ..ข้ายอมเจ็บตัวได้ทั้งนั้นเพื่อให้ท่านมีความสุข” เมื่อเขากล่าวออกมาพร้อมกับจับมือเธอไปตีเบาๆ ที่แก้มของเขา โอฟีเลียก็รู้สึกสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก ตัวร้ายอย่างคาลอสถูกทำร้ายร่างกายมากเยอะมากๆ ในช่วงวัยที่เขาเป็นเด็ก เธอไม่อยากจะทำร้ายเขาซ้ำๆ ในแบบที่เขาเจอ แต่การกระทำของเขามันก็อดโมโหไม่ได้.. โอฟีเลียลุกขึ้นก่อนที่เธอจะนั่งลงบนพื้นเช่นเดียวกับเขา “คาเซล ข้าอยากให้ทุกอย่างระหว่างเรามันค่อยเป็นค่อยไป ข้าขอเวลาทำใจให้ชินในการอยู่ร่วมกันกับเจ้าก่อนจะได้ไหม แล้วเรื่องที่เจ้าทำเมื่อครู่มันเอาไว้สำหรับให้คนรัก..ทำกัน แน่นอนว่าเราทั้งคู่ยังไม่ได้เป็นคนรัก เพราะอย่างนั้นเจ้าทำเช่นนั้นกับข้าไม่ได้เข้าใจรึเปล่า” เธอกำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะอธิบายกับเขาด้วยความใจเย็นอย่างถึงที่สุด “แต่ว่า..ข้ารักท่านนะครับ เช่นนั้นในเมื่อข้ารักท่านก็หมายความว่าข้าทำได้ใช่ไหม?” นี่เธอกำลังพูดคุยกับต้นเสาอยู่รึไง เขาถึงได้ไม่เข้าใจเธอเลยสักนิดเดียว โอฟีเลียไม่คิดว่าการล้างสมองของท่านแม่จะมีพลังที่ร้ายแรงมากขนาดนี้ “ทำไม่ได้ ตอนนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด ยิ่งในยามที่มีผู้อื่นด้วยเจ้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เข้าใจไหม” ริมฝีปากของคาเซลยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก “เช่นนั้นในยามนี้ที่มีแค่ท่านกับข้าอยู่ด้วยกันข้าทำได้สินะครับ..” ทำไม่ได้โว้ย!! เมื่อรู้ว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์โอฟีเลียก็เลยสั่งให้เขาอยู่ที่คฤหาสน์แอเรียนา เธอต้องเดินทางออกไปข้างนอกครู่หนึ่งเพื่อไปดูที่ดินแปลงใหญ่พอที่จะทำที่พักของนักเดินเรือ คาลอสมองรถม้าที่กำลังเคลื่อนตัวออกไปจากคฤหาสน์แอเรียนาด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ที่ดินบริเวณท่าเรือมันคือที่ดินของเขาทั้งหมด นั่นคือแผนการที่เขาวางเอาไว้ล่ะโอฟีเลีย เขารู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องขยายที่ดินตรงส่วนนั้นในอนาคตเพราะลำพังที่จอดเรือและโรงแรมเล็กๆ นั่นจะต้องไม่เพียงพอต่อการรับรองนักเดินเรืออย่างแน่นอน เมื่อเขาล่วงรู้ว่าเลดี้แอเรียนากำลังจะเปิดกิจการโรงแรมของนักเดินเรือ เขาก็คว้านซื้อที่ดินบริเวณท่าเรือจนหมด น่าเสียดายจังนะ ที่ครั้งนี้สตรีผู้นั้นจะต้องผิดหวังในการทำธุรกิจ นี่คือบทเรียนล่ะโอฟีเลีย บทเรียนที่กล้าจะหลอกลวงเขา “นายท่านครับ..” เสียงเรียกนั้นดังมาจากด้านล่าง คาลอสกระโดดลงจากระเบียงชั้นสองเพื่อไปหาเบนจามิน ผู้ช่วยของเขา “เรื่องที่ดินตรงภูเขา ข้าได้ลองขุดดูแล้วปรากฏว่าไม่ได้มีแร่ทองหรือว่าแร่เพชรอยู่เลย เหมือนว่าเราจะถูกเลดี้แอเรียนาหลอกแล้วครับ” คาลอสหัวเราะออกมาเบาๆ เรื่องนั้นเขารู้อยู่ก่อนหน้าแล้ว เงินลงทุนซื้อที่ดินตรงนั้นมากมายก็จริงอยู่ แต่มันไม่ได้สะเทือนคลังเงินทุนของเขาเลยแม้แต่น้อย “ในเมื่อมันไม่มีอะไรฝังอยู่ในดิน เช่นนั้นก็จะต้องทำให้ที่ดินมันมีมูลค่าเพิ่มจากของที่อยู่บนดินนั่นสิ สร้างข่าวลือหน่อยสิเบน..ส่งเงินจำนวนหนึ่งให้สำนักพิมพ์เพื่อให้เขาลงข่าวที่ดินของเรา” ที่ดินบนเขานั้น คาลอสตั้งใจเอาไว้แล้วว่าเขาจะเอาไปทำอะไร เขาจะต้องขายมันให้ได้ราคาดีที่สุดในแบบที่เลดี้แอเรียนาได้ยินราคาแล้วนั่งไม่ติดเลยทีเดียว “แล้วก็หากมีผู้มาถามซื้อที่ดินแถวท่าเรือก็บอกไปว่า..ต่อให้จ่ายในราคาสิบเท่า เราก็ไม่ขายเข้าใจหรือไม่” เบนจามินก้มหน้าลงพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนยินดี “ครับนายท่าน แล้วท่านจะเล่นสนุกที่นี่อีกนานไหมครับ เรื่องการประชุมกลุ่มการค้า และเรื่องในตระกูลอัคราฟ..” “เรื่องพวกนั้นเจ้าก็จัดการไปก่อน ข้าจำเป็นจะต้องอยู่ล้วงความลับของเลดี้แอเรียนาผู้ลึกลับและแสนเฉลียวฉลาดผู้นั้นก่อน มีงานด่วนอันใดเจ้าก็รอคอยให้นางออกไปจากคฤหาสน์ก่อนค่อยเข้ามา อ่อ..แล้วก็สืบเรื่องของดัชเชสแอเรียนาให้ข้าด้วยหากเป็นไปได้ข้าอยากจะรู้เรื่องการหย่าของดัชเชสและอดีตดยุค..” เบนจามินก้มหน้าลงเพื่อกล่าวอำลาครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะเดินจากไป หางตาของคาลอสเหลือบไปเห็นรถม้าแสนหรูหราที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาในคฤหาสน์โทรมๆ ของแอเรียนา “ข้ามาหาเลดี้แอเรียนาครับ ท่านแกรนด์ดัชเชสวาเลเลียได้ไหว้วานให้ข้าเป็นคู่เต้นรำของเลดี้แอเรียนาในวันพิธีบรรลุนิติภาวะที่กำลังจะจัดขึ้น..” บารอนคอนเนอร์ ลีออน คาลอสมองเห็นใบหน้านั้นอยู่บ่อยๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์ หมอนั่นมาทำอะไรที่นี่กันนะ?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม