ณ หัวหิน
ด้านเรวดีก็ใส่ชุดเดรสสีขาวแบบสวยๆไปที่บ้านพักของเพชรรัตตามที่เขาได้เอ่ยชวนเธอไว้ พอมาถึงเธอก็เห็นพันทิวาภรรยาของเพชรรัตกำลังปิ้งย่างอยู่ ส่วนศิลาและเพชรรัตนั้นก็กำลังนั่งเตรียมอาหารกันอยู่
“น้องเรย์มาแล้วเหรอคะ พี่กำลังจะให้ศิลาไปรับที่โรงแรมพอดีเลย วันนี้แต่งตัวสวยมาเลยนะ” พันทิวาเอ่ยพูดออกไปด้วยรอยยิ้ม เพราะก่อนหน้านี้เธอก็พูดคุยกับเรวดีมาพอสมควรแล้ว
ศิลาก็เงยหน้าขึ้นไปมองตามเสียงที่พี่สะใภ้ของเขาเอ่ยทักทายเรวดี ก่อนจะเห็นเธอมาในชุดเดรสสีขาวยาวถึงเข่าอย่างน่ารัก เขาก็มองแล้วยิ้มมุมปากออกมาอย่างชอบใจ เพราะผู้หญิงคนนี้ดูสวยเพลินตาดีจริงๆ
“อ่อ พี่พันก็สวยมากเหมือนกันค่ะ มาค่ะเดี๋ยวเรย์ช่วยย่าง” เรวดีพูดออกไปอย่างเขินๆ ก่อนจะเข้าไปช่วยพันทิวานั้นย่างอาหารทะเล
“น้องเรย์เป็นแขกจะมาย่างได้ยังไงหึ ไปนั่งกับศิลาแล้วก็สามีพี่ตรงนั้นดีกว่า เดี๋ยวตรงนี้พี่จะให้แม่บ้านเขามาจัดการต่อ ป้าแตน…เดี๋ยวยกอาหารข้างในมาเลยนะ แขกมาแล้วค่ะ เราไปนั่งคุยกันรออาหารดีกว่า ป่ะ ” พันทิวาเอ่ยพูดออกไป เพราะที่นี่มีแม่บ้านคอยดูแลอยู่แล้ว แถมยังมีพี่เลี้ยงของลูกๆเธออย่างป้าแตนตามมาดูแลอีกที
“นั่งตรงข้ามกับศิลาเลยครับน้องเรย์ เชิญครับเชิญ” เพชรรัตพูดบอกไป เพราะเขานั้นได้จัดมื้อเย็นเพื่อขอบคุณเธอที่ช่วยลูกๆของเขาโดยเฉพาะเลย
“ขาดีขึ้นแล้วใช่ไหมคุณ ยังเจ็บอยู่อีกหรือเปล่า” ศิลาเอ่ยถามออกไปแล้วมองเธอที่นั่งตรงหน้าเขาด้วยสายตาจดจ้อง
“ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณที่ถามนะคะคุณศิลา … เด็กๆอยู่ไหนกันเหรอคะ เรย์ไม่เห็นเลย” เรวดีพูดตอบไปก็หลบสายตาของศิลาที่มองมาอย่างประหม่า ก่อนจะหันไปหาเพชรรัตแล้วเอ่ยถามถึงเด็กๆที่เธอช่วยไว้อย่างไม่รู้จะพูดคุยอะไร
“นั่งดูทีวีอยู่ข้างในนู้นน่ะครับ เดี๋ยวหิวก็คงจะออกมากันแล้วล่ะ ว่าแต่หมอวิทกลับกรุงเทพแล้วจริงๆเหรอ” เพชรรัตเอ่ยถามเธอออกไป เพราะก่อนหน้านี้เธอบอกว่าวิทวัสนั้นมีเคสผ่าตัดด่วนจนต้องกลับกรุงเทพก่อน
“กลับแล้วค่ะ เมื่อกี้พึ่งโทรมาบอกว่าตอนนี้ก็ถึงกรุงเทพแล้ว เดี๋ยวอีกไม่นานก็คงจะเข้าผ่าตัดแล้วมั้งคะ” เรวดีพูดตอบไปแล้วก็ยิ้ม
“น่าเสียดายจริงๆเลยที่ไม่ได้เจอกัน แต่ไม่เป็นไร ถึงหมอวิทจะไม่อยู่แต่น้องเรย์ยังมีพวกพี่อยู่ด้วยรับรองว่าน้องเรย์ไม่เหงาแน่นอน ศิลา มัวแต่นั่งเงียบอยู่ได้ เอาเครื่องดื่มให้น้องเรย์เขาหน่อยสิ” เพชรรัตพูดบอกไปอย่างเอ็นดูเด็กสาว เพราะเธอไม่น่าถูกหมอวิทวัสทิ้งให้อยู่เที่ยวคนเดียวแบบนี้เลย
“เรย์ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ดีกว่าค่ะ ขอแค่น้ำเปล่าแทนละกันนะคะ” เรวดีที่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นคออ่อนก็เอ่ยพูดออกไปอย่างเลี่ยงๆ เพราะเธอเมาทีไรวงแตกทุกทีดังนั้นเธอจะไม่ดื่มมันเด็ดขาด
“ดื่มน้ำเปล่าได้ยังไงกันน้องเรย์ พี่อุตส่าห์ให้คนออกไปซื้อไวน์มาเพื่อน้องเรย์เลยนะ ดื่มกับพวกพี่สักแก้วสองแก้วเถอะนะ” พันทิวาพูดเสริมไปอย่างไม่ยอม เธอและสามีอุตส่าห์จะเลี้ยงตอบแทนเธอ แต่เธอกลับจะดื่มแต่น้ำเปล่าได้ยังไงกัน
“อ่อ ก็ได้ค่ะ แค่แก้วเดียวก็พอแล้วล่ะค่ะ” เรวดีพูดบอกไปก็ทำหน้ายิ้มแห้งๆออกไป เพราะพูดมาขนาดนี้เธอจะกล้าปฎิเสธอีกได้ยังไงกัน
“งั้นก็จัดไปเลย ศิลา เอาไวน์ให้น้องเรย์เขาสิ” พันทิวาพูดไปก็บอกน้องสามีให้เทไวน์ใส่แก้วให้กับเรวดี
ศิลาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาก็ทำหน้านิ่งๆแล้วก็เทไวน์ใส่แก้วแล้วส่งไปให้กับเธอ เพราะเขาไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอดี ในเมื่อเขามองหน้าเธอทีไรเธอก็หลบสายตาแถมยังทำท่าเหมือนไม่อยากจะคุยกับเขา ทำให้เขานั้นได้แต่นั่งนิ่งๆดูเธอพูดคุยกับพี่ชายและพี่สะใภ้ของเขา
สามชั่วโมงผ่านไป ณ เวลาสามทุ่ม
จากที่เรวดีนั้นคิดจะดื่มไวน์แค่สองแก้วตอนนี้เธอก็ดื่มเข้าไปเป็นแก้วที่เท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าเธอสามารถดื่มกับทั้งสามมาจนถึงไวน์ขวดที่สองได้ นั่นก็ทำให้ทั้งสามได้เห็นว่าเรวดีนั้นคออ่อนจริงๆ
“ขออีกแก้วนึงสิคะ เรย์ยังไหว อื้อ…นี่ไง อึก อึก อึก อ่าส์…อร่อยจริงๆเลย” เรวดีพูดพึมพำออกไปก็หยิบขวดไวน์มายกดื่มอย่างชอบใจ
“เละแบบนี้ยังจะดื่มต่อยังไงคุณ พอได้แล้ว คุณเมามากแล้วนะคุณเรย์ เอามานี่” ศิลาพูดด้วยเสียงเข้ม แล้วเขาก็แย่งเอาขวดไวน์ออกมาจากมือเธอ แล้วก็เอามือจับไหล่ของเธอให้นั่งลงแบบสงบๆ
“เอามานะ ฉันจะดื่ม…เอามาสิคุณ…อื้อ คุณมันขี้งกขอดื่มแค่นี้ก็ไม่ได้…” เรวดีพูดแล้วก็เงยหน้าชี้ไปที่ชายตรงหน้าอย่างค้อนๆที่เขาไม่ให้เธอดื่มต่อ ก่อนจะค่อยๆฟุบหน้าลงอย่างเมาๆ
“เฮ้อ…” ศิลาถอนหายใจออกมาอย่างไม่อยากจะพูดอะไรกับเธอ เพราะพูดไปเธอก็เมาไม่เข้าใจอยู่ดี ถ้ารู้ว่าคออ่อนแบบนี้เธอก็ควรจะหยุดตั้งแต่แก้วแรกแก้วที่สองแล้ว ไม่ใช่มาดื่มจนหมดเป็นขวดๆแบบนี้
“นี่พวกหมอทำไมคออ่อนกันแบบนี้นะเฮ้อ… ศิลา เดี๋ยวพี่วานนายพาน้องเรย์เขาไปนอนที่ห้องรับแขกหน่อยนะ สภาพแบบนี้คงกลับไปนอนโรงแรมไม่ไหวแล้วล่ะ ส่วนพี่ชายเราเดี๋ยวพี่จัดการเอง” พันทิวาพูดออกไป เพราะเรวดีและเพชรรัตนั้นดื่มจนตอนนี้เมาพูดไม่รู้เรื่องแล้ว
“ครับพี่พัน” ศิลาพยักหน้าแล้วตอบไป ก่อนจะหันมายืนมองเรวดีแล้วส่ายหน้าอย่างระอา
“เพี๊ยะ!... คุณเพชร ลุกขึ้นแล้วกลับไปนอนที่ห้องเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นฉันจะปล่อยให้คุณนอนตรงนี้แหละ” พันทิวาหันไปตีแขนของสามีแล้วเอ่ยพูดออกไปด้วยเสียงดุๆ
“อื้อ..ทำไมเมียผมถึงใจร้ายจัง โอเคๆ ผมลุกแล้ว ไหนมากอดหน่อยสิ” เพชรรัตที่หน้าแดงก่ำเอ่ยพูดออกไปก่อนจะลุกขึ้นไปโอบกอดพันทิวาอย่างเมาๆ
“ตัวคุณก็ไม่ได้เบาๆเลยนะคุณเพชร อื้อ… ค่อยๆเดินสิคุณเดี๋ยวก็ล้มหรอก ไปก่อนนะศิลา พี่ชายเราตัวหนักอย่างกับอะไรวัวกับควายแน่ะ พี่ฝากส่งน้องเรย์เขาหน่อยนะ” พันทิวาพูดบ่นสามีไปก็โอบกอดเอวเขาไว้ให้ล้มลง ก่อนจะหันมาพูดฝากฝังกับศิลาแล้วเธอก็พยายามพาตัวสามีของเธอออกไป
“ครับ พี่ไปเถอะ เดี๋ยวก็พากันล้มหรอก ค่อยๆเดินไปนะพี่” ศิลาพูดบอกไปแล้วมองพี่ชายและพี่สะใภ้อย่างเป็นห่วง จนกระทั่งทั้งสองพากันเดินเข้าไปในบ้าน เขาก็หันมามองเรวดีทันที
“ไปกันเถอะคุณ เดี๋ยวผมจะพาคุณไปนอน” ศิลาพูดบอกไปก็เอามือจับแขนของเธอให้ลุกขึ้น
“ไม่ไป…ฉันจะดื่มตรงนี้ คุณง่วงคุณก็ไปนอนเองสิ … น้องเติมไวน์ให้หน่อย เร็วสิ…” เรวดีพูดไปอย่างไม่ยอมไป ก่อนจะเอามือตีแขนของผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆให้เติมไวน์ให้เธออย่างเมาๆ
“คุณนี่มันเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันแน่เนี่ยห้ะ หยุดพูดจาไร้สาระแล้วไปนอนได้แล้ว มานี่เลย พรึบ!...” ศิลาพูดไปอย่างโมโหหน่อยๆแต่ก็พยายามสงบสติอารมณ์เพราะเธอนั้นกำลังเมาอยู่ เขาจึงตัดปัญหาด้วยการเอามือดึงตัวเธอขึ้นมาแล้วก็จับเธออุ้มพาดไหล่ทันที
“อื้อ…ช่วยด้วย หนูถูกผู้ชายอุ้ม…อื้อ ไอ้โจรบ้ากามปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ …แกไม่ได้แอ้มฉันง่ายๆหรอก ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ ปล่อยฉันสิ ปล่อย…” เรวดีร้องโวยวายลั่นบ้านก่อนจะเอามือทุบที่หลังของผู้ชายคนนี้ เมื่อเธอคิดว่าเขานั้นคือโจรที่มาอุ้มลักพาตัวเธอ
ศิลาก็กัดฟันอดทนกับการทุบตีและเสียงที่ร้องโวยวายของเธอจนเข้านั้นอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน แล้วก็มุ่งตรงไปยังห้องรับแขกของบ้านอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เธอนั้นโวยวายจนทำให้คนทั้งบ้านลงมาเจอ เขาอุตส่าห์ช่วยอุ้มเธอมาส่งแต่เธอกลับคิดว่าเขานั้นเป็นโจรบ้ากามซะได้ มันน่าตีจริงๆเลย คิดแล้วศิลาก็มันเขี้ยวเขาก็เอ่ยพูดไปแล้วง้างมือตีก้นเธอจริงๆ
“ เพี๊ยะ! ผมไม่ใช่โจรบ้ากาม แล้วผมก็ไม่คิดจะพิศสวาทผู้หญิงขี้เมาอย่างคุณ เข้าใจซะด้วยยัยขี้เมา” ศิลาพูดออกไปอย่างอดไม่ได้ เพราะเธอมันน่ามั่นเขี้ยวขนาดนี้จะให้เขาทนไหวได้ยังไงกันล่ะ
“โอ๊ย แกมาตีก้นฉันได้ยังไงห้ะ ช่วยด้วยไอ้โจรบ้ากามมันลวนลาม ช่วยด้วย” เรวดีร้องโวยวายเสียงดังอย่างไม่พอใจที่เธอถูกผู้ชายบ้ากามคนนี้ตีก้น เธอก็พยายามเอามือดันไหล่ของเขาแล้วขัดขืนอย่างไม่ยอมด้วยความเมาสุดๆ
“โธ่โว้ย ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะเนี่ย สวยซะเปล่า เมาอย่างกับหมา หยุดโวยสักทีได้ไหมคุณ มันน่ารำคาญ….ฟุบ!....” ศิลาพูดไปก็เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนรับรองแขก แล้วเขาก็ใช้เท้าปิดอย่างแรงก่อนจะโยนตัวของเรวดีลงไปที่เตียงอย่างแรงเป็นการสั่งสอนเธอที่โวยวายใส่เขาแบบนี้
“โอ๊ย เจ็บนะโยนมาได้ยังไง อือๆ เจ็บจังเลย อือๆ” เรวดีพูดไปก็ร้องไห้ออกมาแบบเมาๆ จนศิลานั้นมองแล้วถอนหายใจออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสาวสวยเวลาเมาแล้วจะเละได้ขนาดนี้
“ถ้าเจ็บก็นอนซะไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวผมจะห่มผ้าให้….เห้ยคุณ ทำอะไรเนี่ย…” ศิลาพูดไปก็เข้าไปดึงผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเธอนั้นดึงแขนของเขาไปกอดอย่างแรงจนเขานั้นล้มลงไปควบตัวเธอ เขาก็เอามือยันไวไม่ให้ล้มลงไปใส่ตัวเธอ แต่มันก็ทำให้หน้าของเขานั้นห่างจากหน้าสวยๆของเธอไม่คืบเดียวเท่านั้น
“พี่วิททำไมหล่อจังเลยคะวันนี้ กลิ่นตัวก็ห้อมหอม ” เรวดีพูดไปก็เอามือโอบรอบคอของศิลาทันที เพราะคิดว่าเขานั้นคือศิลาแฟนหนุ่มของเธอ
“ผมไม่ใช่พี่วิทอะไรของคุณนะคุณเรย์ ผมศิลา มีสติหน่อยสิคุณ ปล่อยผมก่อน…” ศิลาพูดบอกไปแล้วก้ดันหัวออกอย่างยากลำบาก เพราะเธอนั้นเล่นเอามือโอบรอบคอเขาไว้อย่างแน่นหนา
“ศิลาไหนคะเรย์ไม่รู้จัก อือ… เรย์รู้จักแต่พี่วิทของเรย์คนเดียว มามะ มาให้เรย์จุ๊บหน่อย อื้อ…” เรวดีพูดออกไปแบบเมาๆ ก่อนจะเอามือกดคอเขาลงมาแล้วเธอก็ยกหัวขึ้นไปจูบปากเขาอย่างรวดเร็ว และเธอก็เริ่มจูบเขาอย่างเร่าร้อนมาขึ้น
“อื้อ…จุ๊บ…อือ….” ศิลาที่ถูกเธอดึงไปจูบนั้นก็เอามือยันพื้นเตียงไว้ ก่อนจะพยายามดันหัวขึ้น แต่เธอก็ดึงดันจูบปากเขาอย่างรุกเร้าจนเขานั้นจูบโต้ตอบเธอไปอย่างไม่ปฎิเสธ เขาก็บดจูบและแทรกเรียวลิ้นหยอกเย้ากับลิ้นของเธออย่างดูดดื่ม
เรวดีที่เมานั้นก็จูบอย่างร้อนแรงเมื่อคิดว่าคนที่เธอกำลังจูบนั้นคือวิทวัสแฟนหนุ่มของเธอ แต่อยู่ๆเธอก็รู้สึกพะอืดพะอมอยากจะอ้วก เธอก็เอามือดันตัวเขาออกแล้วผลักอย่างแรง ก่อนจะลุกขึ้นมาอ้วกจนมันเลอะเสื้อผ้าของเธอและหนุ่มตรงหน้าอย่างทนไม่ไหว แล้วเธอก็ล้มตัวลงไปนอนอย่างมึนเมา
“โธ่โว้ย…ยัยขี้เมา….อ้วกออกมาได้ยังไงเนี่ยเนี่ยกำลังจะเข้าได้เข้าเข็มอยู่แล้วเชียว วันซวยอะไรวะเนี่ย” ศิลาพูดออกไปก็ก้มมองเสื้อของเขาและเธอที่เลอะอ้วกของเธอด้วยสีหน้าบึ้งตึง ก่อนจะค่อยๆถอดเสื้อของเขาที่เลอะอ้วกนั้นออกไปอย่างทนไม่ไหวกับกลิ่นของมัน
“อื้อ…เซ็กซี่จังเลยค่ะ หัวนมชมพูดซะด้วย ขอเรย์จับหน่อยสิคะ” เรวดีพูดไปก็จะเอื้อมมือไปจับหน้าอกของหนุ่มตรงหน้าอย่างโลมเลีย
“หื่นอะไรของคุณเนี่ย มาขอจับเนื้อจับตัวผู้ชายแบบนี้ได้ยังไงหึ หยุดเลยนะคุณ ดูสิอ้วกมันเลอะเสื้อคุณไปหมดแล้วเนี่ย ผู้หญิงอะไรซกหมกขนาดนี้เนี่ย” ศิลาพูดไปก็เอามือมาจับมือของเธออย่างห้ามปราม ก่อนจะมองเสื้อของเธอที่อ้วกนั้นเริ่มจะเลอะไปอย่างทนมองไม่ไหว
“งั้นก็ถอดออกสิ อื้อ… มันถอดยังไงเนี่ย…อือ” เรวดีพูดไปแบบเมาๆก็เอามือจับที่เขาจับอยู่นั้นสะบัดออกมา แล้วก็มาจับที่หน้าอกของตัวเองแล้วพยายามดึงชุดที่ตัวเองใส่ออก