Rainy 10

1002 คำ
Rainy 10 “กลับมาแล้วเหรอคะ?” ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปภายในบ้าน ป้าแม่บ้านก็รีบส่งเสียงทักทายพร้อมกับรอยยิ้มโล่งอก “กลับมาแล้วครับ” พี่เทียนตอบป้าแม่บ้านเสียงเบา “กลับมาแล้วค่ะ มีขนมให้ป้ากับพี่ ๆ ด้วยนะคะ” รีบบอกคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้น พี่เทียนหิ้วถุงไปวางไว้บนโต๊ะกินข้าวก่อนจะกระซิบบอกฉันเสียงเบา “พี่จะขึ้นไปอาบน้ำ หกโมงเย็นลงมารอนะ” เอ่ยจบก็เดินหาย ไปเลย นั่นจึงทำให้ฉันไม่ได้ตอบกลับอีกฝ่าย แต่เลือกที่จะแบ่งของกินให้ป้าแม่บ้านและพี่ ๆ ไปกินด้วยกัน “เยอะเกินไปแล้วค่ะคุณข้าว” “ใช่จ้ะ พวกเราเกรงใจ” “ไม่เป็นไรเลยค่ะ หนูเองก็มารบกวนทุกคนด้วย เอาไปกินได้เลยนะคะ” แบ่งของให้ทุกคนเสร็จฉันก็ขอน้ำดื่มจากห้องครัวมาสามขวดเพื่อเอากลับขึ้นไปไว้บนห้องนอน เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดของพี่เทียนฟ้า นั่นจึงทำให้ฉันเดินไปหยิบดินสอและกระดาษมานั่งร่างแบบเสื้อและเครื่องประดับต่าง ๆ ตามความรู้สึกของตัวเองที่มีในตอนนี้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเบา ๆ ฉันวางดินสอในมือลงอย่างเสียดายก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องนอนเพื่อดูว่าใครกันที่มาหาฉันในตอนนี้ “อ้าว ป้าแจ่มมีอะไรหรือเปล่าคะ” บริเวณหน้าประตูคือป้าแจ่มที่เดินถือถาดเครื่องดื่มยืนอยู่หน้าประตูห้อง “ป้าเห็นว่าโดนละอองฝนมาเลยชงชาข้าวโพดมาให้ค่ะ” “ขอบคุณค่ะป้า” ฉันยื่นมือไปรับถาดมาถือไว้เอง เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องฝั่งตรงข้ามถูกเปิดออกมาพอดี พี่เทียนฟ้านั่นแหละที่เปิดประตูออกมาจากห้องนอนของเขา ที่จริงเหมือนพี่เทียนฟ้าจะบอกแล้วนะว่าห้องของเขาอยู่ตรงข้ามกับห้องที่ฉันพักอยู่ แต่ฉันก็ลืมไปเลยเหมือนกัน “ทำอะไรกัน” คนมาใหม่เอ่ยถามทั้งยังขยับเข้ามาใกล้ ป้าแจ่มมีสีหน้าตกใจเล็กน้อยที่เห็นพี่เทียนเปิดประตูห้องออกมาแบบนี้ “ป้าแจ่มชงชาข้าวโพดมาให้ค่ะ พี่เอาด้วยไหม?” ถามคนตัวสูง “อือ ขอสักแก้วนะครับ” “ดะ ได้ค่ะ ได้เลยค่ะเดี๋ยวป้าทำมาให้นะคะ” ป้าแจ่มตอบรับอย่างตกใจทั้งยังส่งยิ้มกว้างเมื่อได้ยินว่าพี่เทียนต้องการชาข้าวโพดเหมือนกับฉัน แปลกจริง ๆ อะไรจะดีใจขนาดนั้นกันนะ “ขอเข้าไปในห้องได้ไหม? เปิดประตูไว้ก็ได้” คล้อยหลังป้าแจ่มเดินออกจากประตูห้องนอน พี่เทียนก็เอ่ยขอฉันเสียงแผ่วเบา แววตาของเขาดูสั่นไหวและสับสนอย่างที่ฉันเองก็เดาไม่ถูกว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่ รวมถึงเขากำลังรู้สึกหรือนึกคิดอะไรทำไมถึงได้ดูสับสนมากขนาดนี้ “หือ? ทำไมเหรอคะ?” “ไม่อยากอยู่คนเดียว...ตอนฝนตก” เหตุผลของอีกฝ่ายแม้จะดูคลุมเครือแต่ฉันก็ยอมให้เขาเข้ามาอยู่ในห้องนอนโดยที่เปิดประตูห้องนอนไว้ รวมถึงหน้าต่างทั้งสองคู่ที่ถูกเปิดรับลม พี่เทียนเดินไปล้างมือและเท้าก่อนจะเดินออกมาเปิดพัดลมที่อยู่มุมห้องนอนเสร็จแล้วก็เดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟา ส่วนฉันก็นั่งที่พื้นพิงโซฟาตัวที่พี่เทียนนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ นั่งทำงานของตัวเองไปเรื่อย “ไม่เจ็บเหรอนั่งที่พื้นแบบนั้น” คนที่เงียบไปนานสักพักใหญ่เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ หลังจากที่เห็นว่าฉันนั้นนั่งอยู่ที่พื้นกระเบื้องเย็น ๆ แข็ง ๆ แบบนั้น “นิดหน่อยค่ะ” ปากขยับตอบแต่มือก็ร่างแบบไปเรื่อย ๆ ตั้งใจให้งานชิ้นนี้เสร็จเสียก่อน แล้วฉันค่อยตอบข้อความของทีมในกลุ่มแชตที่มีข้อความถูกส่งเข้ามาน่ะ “ถ้าว่างแล้วจะพาเข้าไปเลือกซื้อในเมืองแล้วกันนะ จะได้ไม่ต้องนั่งพื้นแข็ง ๆ แบบนี้” “ขอบคุณค่ะ” “อ้าว อยู่ห้องนี้เหรอคะเนี่ย” เสียงป้าแจ่มดังขึ้นอย่างสงสัย และฉันก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองว่าป้าแจ่มทำหน้ายังไงอยู่ ทำให้ได้ยินเพียงแค่เสียงสนทนาระหว่างพี่เทียนฟ้ากับป้าแจ่มเท่านั้น “ครับ มาเล่นห้องน้องน่ะ” “นี่ชาข้าวโพดค่ะ ป้าเตรียมของว่างมาให้ด้วยนะคะ” “ขอบคุณครับ” “คุณเทียนอยากได้ผ้าห่มกับหมอนไหมคะป้าจะไปเอามาให้” “ได้ก็ดีครับ” “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวป้าให้เด็ก ๆ เอาขึ้นมาให้นะครับ” “ขอบคุณครับ” เจ้าของบ้านเงียบไปสักพัก ยิ่งพอได้ผ้าห่มกับหมอนที่พี่คนงานเอาขึ้นมาให้เขายิ่งเงียบ ไม่มีเสียงเล่นโทรศัพท์แล้วด้วย ความสงสัยที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ฉันตัดสินใจหันไปมองคนที่อยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ภาพที่เห็นทำให้ฉันหลุดยิ้มออกมาบาง ๆ ทันทีเมื่อพี่เทียนฟ้าหลับไปแล้วพร้อมกับคลุมผ้าห่มไว้จนเหมือนดักแด้ ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายหลับไปนานหรือยัง แต่พอเห็นอีกฝ่ายหลับไปแบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าเขาเหมือนเด็ก ถึงแม้วันนี้เขาจะพาเที่ยว พาไปซื้อของกินต่าง ๆ มากมาย แต่ระหว่างเราก็เหมือนจะยังไม่ได้สนิทกันมากสักเท่าไร แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราอาจจะได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น เพราะแม่เราทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน ส่วนเราที่อายุห่างกันก็ถือว่าเป็นพี่น้องกันได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม