Rainy 9

1141 คำ
Rainy 9 กินข้าวเสร็จก็ถึงเวลาที่ต้องออกจากบ้าน พี่เทียนขับรถพาไปดูรอบ ๆ ทั้งยังแนะนำให้รู้จักร้านค้าต่าง ๆ ในละแวกไร่ และฉันก็สะดุดตาเข้ากับร้านกาแฟ คาเฟคาใจ มาก ที่ตั้งร้านดูไม่ไกลจากไร่สักเท่าไร หากปั่นจักรยานหรือขับมอเตอร์ไซค์มาก็น่าจะได้ ระหว่างนี้พี่เทียนฟ้าก็พาฉันไปจนถึงตลาดของอำเภอ นั่นจึงทำให้ฉันได้เดินซื้อของกินเล่นเล็กน้อยไม่ลืมที่จะซื้อไปฝากพี่ ๆ ที่บ้านด้วย “พี่กินไหมคะ?” ระหว่างที่รอน้ำเต้าหู้ก็เอ่ยถามคนตัวสูงที่ยืนเงียบอยู่ข้างฉัน และที่ถามเขานั้นฉันหมายถึงปาท่องโก๋ไส้นมข้นหวาน พี่เทียนส่ายหน้าบอกปฏิเสธฉันเองก็ไม่ได้เซ้าซี้เขามากนัก เลือกของกินเล่นไปเรื่อย “ซื้อเยอะเกินไปแล้ว” นานสักพักใหญ่คนที่ช่วยถือของถึงกับเตือนเสียงเบา “ไม่เยอะสักหน่อย” แก้ต่างให้ตัวเองทั้งยังหันกลับไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังอย่างงอแง “ไม่เยอะ?” พี่เทียนทวนถามมือทั้งสองข้างก็ยกขึ้นให้ฉันได้ดูว่ามือของเขานั้นเต็มไปด้วยถุงของกินมากมายที่ฉันเองก็เผลอลืมตัวซื้อมาเสียเยอะ ก็ว่าทำไมถึงไม่รู้สึกหนักเลยสักนิด “อุ๊ย ขอโทษค่ะ ลืมตัวไปนิด” รีบขอโทษคนใจดีพามาเดินเล่นแล้วยังช่วยถือของให้ฉันเสียจนมากมาย ยื่นมือหมายจะรับถุงของกินมาถือไว้เองแต่ก็โดนคนตรงหน้าปฏิเสธเสียก่อน “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวถือให้” คนตรงหน้าบอกฉันด้วยรอยยิ้มมุมปากบาง ๆ แม้จะบางเบาแต่ก็รับรู้ได้ว่าเขากำลังส่งยิ้มให้ฉันอยู่ “ข้าวเกรงใจค่ะ” “ไม่เป็นไรครับ ซื้อของต่อเถอะ” “งั้นเรากลับเลยก็ได้ค่ะ ไม่ซื้อเพิ่มแล้ว” รีบบอกอย่างไม่สบายใจ ฉันก็เผลอตัวไปนิดหน่อย เพราะคิดว่ามากับพี่ชาย เลยซื้อของที่อยากกินเพลินไปนิด “แน่ใจเหรอ?” พี่เทียนถามย้ำอีกครั้งพร้อมกับหรี่ตามองเมื่อได้ยินว่าฉันอยากจะกลับแล้ว “แน่ใจมาก ๆ เลยค่ะ” “โอเค งั้นก็กลับบ้านกันก่อน แต่ถ้าอยากแวะที่ไหนบอกพี่เลยนะ” “ขอบคุณค่ะ ทั้งที่พี่ควรจะได้ทำงานดี ๆ แต่ต้องพาข้าวมาเดินเล่นแบบนี้ ข้าวเกรงใจมากเลย” ระหว่างที่เดินกลับไปขึ้นรถฉันเอ่ยบอกคนตัวสูงที่เดินยู่เคียงข้างอย่างไม่สบายใจสักเท่าไร “ไม่ทำงานหรอก ขี้เกียจ” พี่เทียนตอบฉันอย่างไม่ได้เป็นกังวลทั้งยังหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่เหมือนเดิม เพราะสิ่งที่ชัดเจนคือฉันรบกวนเวลาของพี่เทียนฟ้ามาก ๆ เลยยังไงล่ะ “ไม่ต้องกังวลหรอก พี่คุณก็ทำงานหนัก งานพี่เองก็ทำอยู่บ้าน ทำไม่เป็นเวลาด้วย ถ้าอยากไปไหนก็บอกได้ พี่จะพาไปเอง” พี่เทียนยกถุงข้าวของที่ซื้อมาไปเก็บไว้ท้ายรถโดยที่ไม่ลืมแบ่งถุงขนมโดนัทมาให้ฉัน พอรับมาก็เอ่ยถามคนตรงหน้าต่ออย่างใคร่รู้ “แล้วถ้าจะขอยืมรถได้ไหมคะ?” “ได้ ยืมได้ครับ ขึ้นรถเถอะเหมือนฝนจะตกอีกแล้ว” ได้ยิน แบบนั้นถึงได้ลองมองขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วก็จริงอย่างที่พี่เทียนบอก เมื่อตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองครึ่งแต่ท้องฟ้านั้นตั้งเค้ามืดครึ้มจนแทบมองไม่เห็นอะไร มองรอบ ๆ ก็พบว่าเริ่มมีลมพัดไปมาเสียแล้ว “ขึ้นรถครับ” พี่เทียนย้ำอีกครั้งด้วยใบหน้าติดจะเคร่งเครียด “ค่ะพี่” จังหวะที่เปิดประตูรถขึ้นไปนั่งบนเบาะ ก็มีเม็ดฝนตกลงมากระทบกับกระจกรถเปาะแปะ สักพักก็มีเสียงฝนเริ่มตกลงมาถี่ขึ้น พี่เทียนรีบเปิดประตูรถขึ้นมานั่งก่อนจะสตาร์ตรถไว้เป็นอย่างแรก “เปียกไหม?” พี่เทียนรีบหันกลับมามองอย่างเป็นห่วง มือข้างหนึ่งยื่นมาลูบที่ผมฉันเบา ๆ ก่อนจะเอี้ยวตัวไปทางด้านหลังแล้วหยิบเสื้อแจ็กเกตสีดำมาคลุมให้ฉัน “พี่นั่นแหละหนาวไหม” “ไม่หนาวครับ เอาละเรากลับบ้านกันก่อนนะ” “ระวัง ๆ นะคะ ไม่รีบนะ” เตือนคนข้าง ๆ เสียงแผ่วเบา “ครับ พี่จะขับช้า ๆ แล้วเมื่อคืนนอนได้ไหมไฟดับ” จู่ ๆ พี่เทียนก็ถามไถ่ฉันขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับค่อย ๆ เคลื่อนรถออกจากที่จอด อีกฝ่ายขับช้าลงอย่างเห็นได้ชัดและด้านนอกรถตอนนี้มีสายฝนตกลงมาเรื่อย ๆ ไม่ได้เบาแต่ก็ไม่ได้หนักมากจนมองไม่เห็นอะไร “นอนได้ค่ะ เปิดพัดลม” “เดี๋ยวเอาโคมไฟแบตเตอรี่ไปชาร์ตไว้ที่ห้องนะ เผื่อคืนนี้ไฟดับ” “ขอบคุณค่ะ พี่กินโดนัทไหมคะ?” มือที่แกะโดนัทชิ้นใหญ่ออกจากกล่องไม่ลืมที่จะเอ่ยถามคนใจดีที่ช่วยขับรถให้ฉันได้นั่ง “ขอกัดคำหนึ่ง” ได้ยินแบบนั้นก็ยื่นโดนัทไปให้อีกฝ่ายกัดอย่างที่ร้องขอ ป้อนพี่เทียนฟ้าเสร็จฉันก็หยิบชิ้นใหม่ขึ้นมากินบ้าง “ปกติทำงานกี่โมง” “ปกติตอนเช้าจะเคลียร์งานเอกสารค่ะ แต่เหมือนพี่รินจะไม่ให้ทำแล้ว เลยวางแผนเอาไว้ว่าจะออกแบบชุดใหม่” “ออกแบบชุดเหรอ?” “ใช่ค่ะ คอลเลกชันของที่บริษัท” พยักหน้าหงึกหงักยืนยันสิ่งที่อีกฝ่ายถาม ถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้หันกลับมามองตัวเองเลยก็ตาม แต่ ทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติ “เก่งมาก มีบ้านศาลาริมน้ำที่โซนข้างบ้านนะ ไปนั่งเล่นนั่งทำงานได้ แต่โรงเรือน...” “...” “โรงเรือนที่อยู่ตรงนั้นห้ามเข้าไปยุ่งนะ” “ค่ะพี่” โรงเรือนที่อีกฝ่ายเอ่ยถึงคงจะหมายถึงโรงเรือนที่ฉันสามารถมองเห็นได้จากห้องนอนที่ฉันพักอยู่อย่างแน่นอนเพราะบริเวณนั้นมีเพียงแค่โรงเรือนเดียว ส่วนศาลาริมน้ำก็ตั้งห่างจากโรงเรือนแต่ที่นั่นมีชุดเก้าอี้ มีเบาะรองนั่งอะไรด้วยนะ เหมาะแก่การไปนั่งคิดงานมาก ๆ เลยล่ะ ทั้งวิวสระน้ำ ทั้งวิวภูเขา ไหนจะต้นไม้สีเขียวขจีที่อยู่รายล้อม ทุกอย่างรอบตัวฉันในตอนนี้ทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายมากจริง ๆ และนั่นคงจะเป็นจุดชาร์ตพลังให้ตัวฉันอย่างดีเลยล่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม