Rainy 7

1181 คำ
Rainy 7 เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ ยามเช้าปลุกให้ฉันตื่นจากการหลับใหล แทบจะไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าไฟฟ้ากลับมาใช้ได้ตั้งแต่ตอนไหน รู้เพียงแค่พัดลมมุมห้องที่พี่อิงเอามาเสียบปลั๊กไฟแล้วเปิดไว้ให้กำลังทำงานอยู่ โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างกายถูกหยิบขึ้นมาดูเวลา พบว่าตอนนี้เจ็ดโมงเช้าแล้ว และฉันหลับไปตั้งแต่ยังไม่ทันสี่ทุ่ม “หลับสนิทมาก” เอ่ยกับตัวเองเสียงเบา และรู้สึกว่าตัวเองได้พักผ่อนจริง ๆ ทั้งที่นอนเร็วกว่าเวลาปกติที่เคยนอนและไฟฟ้าในตอนนั้นยังคงใช้งานไม่ได้แต่ฉันก็ยังหลับได้โดยที่ไม่รู้สึกร้อน น่าตกใจมาก จริง ๆ นั่งอยู่บนเตียงสักพักก็ขยับตัวเดินไปเปิดผ้าม่านในห้อง ดวงตาที่มองผ่านกระจกบานใหญ่ถึงกับเบิกกว้างด้วยความตกใจระคนตื่นเต้นเมื่อได้เจอเข้ากับกลุ่มเมฆหมอกสีขาวที่ลอยคลุ้งอยู่ทั่วบริเวณด้านนอก อากาศเย็น ๆ ทำให้ฉันเผลอสูดลมหายใจเข้าอย่างพลั้งเผลอแม้ว่าตัวเองจะยังยืนอยู่ในห้องก็ตาม มุมไกล ๆ นั้นมีโรงเรือนหลังหนึ่งตั้งอยู่แต่ก็ไม่สามารถมองออกว่าเป็นโรงเรือนอะไรกันแน่ แต่ก็ช่างเถอะ ไม่ได้อยากเข้าไปดูมากขนาดนั้นสักหน่อย เพราะวิวสวยงามเบื้องหน้าทำให้ฉันรู้สึกหลงใหลจนละสายตาไม่ได้มากกว่า “อาบน้ำดีกว่า” เป็นอีกครั้งที่เอ่ยขึ้นมาอย่างสบายใจ แล้วเดินเข้าไปเปิดกระเป๋าเดินทางก่อนจะหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำ ห้องนอนกว้างขวางมีห้องน้ำภายในตัวแต่ทั้งโทนสีและการตกแต่งดูทันสมัยและเข้ากับสิ่งแวดล้อมมาก ๆ เป็นบ้านสมัยใหม่ที่พอได้ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวขจียิ่งทำให้บ้านดูสวยงามมากยิ่งขึ้น ผ้าม่านหน้าต่างห้องถูกเปิดออกรับแสงสว่างเพียงน้อยนิด รวมถึงหน้าต่างบานเลื่อนทั้งสองฝั่งของห้องนอนที่ถูกเปิดออกกว้างเพื่อรับลมเย็น ๆ ไอหมอกสีขาวยังลอยคลุมปลายยอดต้นไม้เบื้องหน้าจนแทบจะมองไม่เห็น เห็นแบบนั้นถึงได้รีบหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากดถ่ายรูปไว้ สามสี่รูปก่อนจะเตือนตัวเองให้หมุนตัวกลับเข้ามาจัดเก็บเสื้อผ้าเข้า ตู้เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ใช้เวลาสักพักใหญ่ก็จัดของเข้าตู้และจัดมุมทำงานได้เรียบร้อย โต๊ะทำงานมุมห้องพร้อมกับเก้าอี้ราคาแพงถูกตั้งไว้ดังเดิม ส่วนมุมทำงานฉันเลือกทำงานที่โซฟาเบดมุมห้องใกล้กับหน้าต่างพร้อมกับโต๊ะกระจกหน้าโซฟา อาจจะต้องหาพรมมาปูที่พื้นระหว่างโซฟาและโต๊ะกระจกเพื่อนั่งทำงาน ฉันนั่งคิดอะไรมากมายอย่างเพลิดเพลินกับตัวเอง สักพักประตูห้องก็ถูกเคาะจนเกิดเสียงดังขึ้นมาสองสามที นั่นจึงทำให้ฉันต้องเดินออกไปเปิดประตูห้องพักเพื่อเปิดดูอย่างเลี่ยงไม่ได้ “...” “สวัสดี” แต่จังหวะที่เปิดออกไปก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อเปิดประตูออกไปบริเวณหน้าห้อง กลับพบว่าคนที่เคาะประตูนั้นไม่ใช่พี่อิงหรือพี่แทนคุณแต่เป็นใครสักคนที่ทั้งส่วนสูงและใบหน้ากับคล้ายคลึงกับพี่ ๆ สามหนุ่มที่ไปรับฉันเมื่อวาน แต่ฉันดันไม่รู้จักพี่เขาเท่านั้น “สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้คนตรงหน้าที่มองได้สักพักก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาอยู่ไม่น้อย และเหมือนคนตรงหน้าจะรับรู้ได้ว่าฉันตกใจและสงสัยในตัวเขา อีกฝ่ายถึงได้แนะนำตัวเองกลับมา “พี่ชื่อเทียนฟ้า เป็นฝาแฝดกับทิศเหนือแล้วก็อยู่ที่บ้านหลังนี้” คนตรงหน้าเมื่อเห็นว่าฉันยังทำหน้าตกใจและขยับถอยหลังออกห่างอีกฝ่ายถึงได้รีบแนะนำตัวให้ฉันได้รู้จัก “อ้อ สวัสดีค่ะ ข้าวตังค่ะเป็นลูกของเพื่อนคุณป้ามณี จะมาอยู่ที่นี่สักพักค่ะ” ตัวฉันเองก็ต้องรีบแนะนำตัวกลับไปเพราะกลัวจะเสียมารยาทที่ให้คนอายุเยอะกว่าแนะนำตัวและยืนรอแบบนี้ “โอเค จะมาเรียกไปกินข้าวเช้า” “ค่ะ ไปได้เลยค่ะ” รีบตอบตกลงอย่างเกรงใจ วิ่งกลับเข้าไปภายในห้องนอนหยิบเพียงแค่โทรศัพท์มือถือติดตัวมา พี่เทียนฟ้าที่ยืนรออยู่หน้าห้องพยักหน้าส่งให้สองสามทีเบา ๆ ก่อนจะเดินนำฉันไปตามทางเดิน กระทั่งเดินลงบันไดมาคนตัวสูงตรงหน้าถึงได้แนะนำห้องต่าง ๆ ภายในบ้านให้ฉันได้รู้จัก “ข้างบนจะเป็นห้องพวกพี่นี่แหละ ส่วนข้างล่าง มุมนั้นจะเป็นห้องนั่งเล่น ตรงนั้นห้องกินข้าวแล้วก็ถัดเข้าไปจะเป็นห้องครัว คนงานที่ทำงานบ้านจะพักอยู่บ้านพักหลังบ้าน คนงานที่ดูแลบ้านจะมีประมาณหกถึงเจ็ดคน ค่อย ๆ ทำความรู้จะกันไป” “ค่ะ” มองตามปลายนิ้วเรียวของคนตัวสูงที่ชี้แนะนำห้องต่าง ๆ กระทั่งเดินเข้าไปถึงห้องกินข้าวพี่เทียนฟ้าก็เลื่อนเก้าอี้ให้ฉันได้นั่ง “ขอบคุณค่ะ” “ครับ” พี่เทียนฟ้าขานรับก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามฉัน สักพักก็มีแม่บ้านทยอยยกอาหารเข้ามาเสิร์ฟจนถึงโต๊ะ และนั่นเป็นอีกครั้งที่พี่เทียนฟ้าแนะนำคนงานและฉันให้รู้จักกัน แม้จะดูเหมือน พี่เทียนฟ้าพูดเก่ง และคุยสนุก แต่ทำไมกันนะ ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูเข้าถึงยากขนาดนี้กันนะ “ถ้าอยากจะไปไหนบอกพี่นะ เดี๋ยวพาไป” “...” “ข้าว ข้าวตัง” “อ้อ ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันที่เหม่อลอยคิดอะไรกับตัวเองถึงกับต้องตกใจเมื่อถูกเรียกชื่อย้ำ ๆ จากคนตรงหน้า พี่เทียนฟ้าหรี่ตามองอย่างสงสัยที่เห็นฉันเหม่อไปขณะที่เขากำลังชวนคุย “ไม่สบายหรือเปล่า?” “ไม่ใช่ค่ะ คิดอะไรนิดหน่อย” “โอเค ๆ แต่ถ้าอยากไปไหนบอกพี่นะ ช่วงนี้ฝนตกเดี๋ยวพี่พาไปเอง” “ขอบคุณค่ะพี่เทียนฟ้า แต่ช่วงนี้คงจะอยู่ที่นี่ก่อนค่ะยังไม่มี แพลน” บอกคนตรงหน้าอย่างขอบคุณจากใจจริง แต่ฉันรู้สึกชอบมากอยากจะนอนเยอะ ๆ นอนทั้งวัน นอนทดแทนช่วงเวลาที่ฉันต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ “เรียกเทียนเฉย ๆ ก็ได้ แล้วก็เย็นนี้จะพาไปกินหมูกระทะร้านดัง” “ไปค่ะ! ข้าวชอบ” รีบพยักหน้าตกลงไปก่อนแล้วตั้งแต่ที่ได้ยินว่าจะได้กินหมูกระทะ “ฮ่า ๆ ๆ โอเค ๆ ระหว่างนี้ก็จัดของไปก่อนแล้วกันนะอยากได้อะไรเพิ่มก็บอกคนงาน พี่อยู่ห้องตรงข้ามมีอะไรเรียกได้เลย” “ได้ค่ะพี่” “อื้อ รีบกินข้าวเถอะ พี่ง่วงจะไปนอนต่อละ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม