“ปกติคนรุ่นใหม่จะไม่รู้จักแม้แต่ใบชะมวง แต่คุณหญิงเอามาต้มซี่โครงหมูได้อร่อยรสชาติแบบดั้งเดิมจริงๆ ค่ะ”
กิรินาผู้เป็นป้าของอัญรวีเอ่ยปากชม ‘นางก้นครัว’ ที่หลานสาวเล่าให้ฟังครั้งก่อน จนตัวเองกับ ‘ไอรินทร์’ หลานสาวคนโตอยากมาเห็นหน้าด้วยไม่แพ้กัน ถึงขั้นหอบ ‘น้องกาย’ ลูกชายวัยสามขวบมาด้วย
เลยได้เห็นเจ้าของบ้านหนุ่ม ที่รู้จักมักคุ้นกันมาตั้งแต่คุณสิงหากับคุณรัตนาผู้เป็นพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่แล้วเหมือนจงใจนั่งเบียดหรือบางทีกอดเอวของสาวสูงศักดิ์ ยิ่งทำให้เดาได้ว่าประตูความหวังของหลานสาวที่จะผูกไว้กับเขาเกือบจะปิดลงแล้ว
“ที่บ้านมีต้นไม้หายากหลายต้นครับ”
แต่ความหวังใหม่ของกิรินาก็เอนเอียงไปหาหนุ่มรูปงามนามเพราะ และมีกิริยามารยาทสุภาพเรียบร้อยสมกับเป็นราชนิกุลทุกประการแทนหลานคนเล็กแล้ว หากก็มีข้อกังขาอยู่ว่า สองพี่น้องเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าของบ้าน จะว่าเป็นคู่รักก็ยากจะเชื่อ จะว่าไม่เป็นก็ปฏิเสธไม่ได้อีก
ยิ่งตอนอิ่มแล้วต่างพากันย้ายไปนั่งเก้าอี้ไม้เก่ากลางสนามจัดไว้หลายชุดกระจายกันอยู่คนละที่ด้วยแล้ว กิรินายิ่งมั่นใจใหญ่ว่าสองหนุ่มสาวใกล้ชิดกัน เกินกว่าจะบอกได้แค่อาศัยอยู่บ้านเดียวกันเท่านั้น แม้ฝ่ายสาวจะไม่ชอบใจที่ฝ่ายชายทำอะไรเปิดเผยมากจนเกินความจำเป็นก็ตามที
“ฉันจะไปยกผลไม้ในตู้เย็นลงมาค่ะ”
กัญญาวีร์พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะพาตัวเองออกห่างจากวงแขนของเขา ที่ครอบครองเอวเอาไว้ไม่ห่าง ขณะนั่งอยู่เก้าอี้กว้างสำหรับสองคนอย่างไม่เกรงใจสายตาผู้ใหญ่หรือใครๆ เลย
“เก่งๆ ขึ้นไปเอาผลไม้ในตู้เย็นลงมาที”
เขาก็หันมองคนข้างๆ แล้วยิ้มให้อย่างผู้ชนะ ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ โดยไม่ยอมให้อีกแขนห่างเอวเลย กัญญาวีร์มองเพื่อนๆ ของเขา ที่ต่างคลอเคล้าสาวข้างกายอย่างไม่เกรงใจใครเช่นกัน หรือบางครั้งมีหอมแก้มด้วย ซึ่งแม่สาวสวยหน้าใสก็ยินยอมแต่โดยดี
“อุ๊ย!!!”
ส่วนตัวเองไม่ได้ยอม แต่กลับถูกขโมยหอมอย่างรวดเร็ว จนตกใจอุทานออกมา ทำเอาสาวๆ ที่ต่างหมายปองเขา ต้องมองมาหาอย่างอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กัน อัญรวีอยากจะหนีกลับบ้านเสียเดี๋ยวนั้น หากไม่มีพี่สาวกับกันต์กวีนั่งคุยด้วย
“ฟางขอตัวขึ้นไปดูป้าผินเตรียมชาก่อนนะคะคุณป้า”
กัญญาวีร์ออกตัวกับกิรินา แล้วรีบลุกจากเก้าอี้เดินแกมวิ่งขึ้นบันไดหลังบ้าน ผินกับเก่งกำลังเดินลงมา ยิ่งเห็นเจ้าหนี้หนุ่มเดินตามไปไม่ห่าง เท้าบางก็รีบวิ่งขึ้นทันที และตั้งใจว่าจะเข้าห้องแล้วลั่นดานไว้ตลอดคืนโดยไม่ออกมาอีก
“ปล่อยฉันนะ!”
แต่ก็ได้แค่คิดอีกเช่นเคย เมื่อขึ้นไปถึงครัวก็ถูกเขารวบตัวเอาไว้ได้ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ นอกจากฉกลงไปหาริมฝีปากอิ่มจูบอย่างรวดเร็ว กัญญาวีร์ใช้สองมือดันแผงอกเขาสุดแรง เมื่อหวาดเกรงว่าจะมีใครขึ้นมาเห็นเข้า จนเขาผงะถอยหลังไปสองสามก้าว เลยได้โอกาสวิ่งออกจากครัวหมายจะตรงไปห้องนอน
“จะไปไหน” แต่เขาก็ตามไปทันตรงโถงกลางบ้านแล้วรีบรวบตัวเอาไว้อีก
“ปล่อยฉันนะ บอกให้ปล่อยไง อื้ห์มมม”
แล้วจูบอย่างรวดเร็ววงแขนก็รัดแน่นไม่เปิดโอกาสให้อีกคนได้ดิ้นรนขัดขืน แผ่นหลังก็ถูกตรึงไว้กับเสาต้นใหญ่ จนไม่มีทางหลุดรอดได้ เสื้อสีฟ้าแขนยาวพองตรงไหลแต่งระบายที่สาบกระดุม กำลังถูกมือเขาปลดออกอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจว่าจะมีใครมาเห็น หรือจะพูดให้ถูกก็คือจงใจด้วยซ้ำ
“อย่า!!! ได้โปรดอย่าทำกับฉันแบบนี้! ฉันขอร้อง!”
กัญญาวีร์รู้ดีว่าขัดขืนไม่ได้ นี่ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ยอมอ้อนวอนขอต่อเขา เพราะเดาได้ไม่ยากว่าแขกด้านล่างคงกำลังสงสัยแน่ ว่าเจ้าของบ้านหนุ่มกับนางก้นครัวขึ้นมาทำอะไรกัน นอกจากจะไม่ยอมทำตามคำอ้อนวอนแล้ว สิงหรัฐยังย่อเข่าลงช้อนร่างเบาหวิวเดินตรงไปหาห้องนอนแต่ไม่ได้แวะเตียง หากเลยเข้าไปถึงในน้ำต่างหาก
สายน้ำโปรยปรายมาหาสองร่างที่อยู่ด้านใต้เมื่อเขาจงจะเปิดก๊อก และจงใจจะเปิดประตูห้องไว้ล็อกแค่ห้องน้ำ แล้วกลับมาหาร่างอันน่าหลงใหล เมื่อชุดเปียกน้ำแนบติดไปทุกสุดส่วน ด้วยดีกรีที่ดื่มเข้าไป ด้วยความหิวกระหายในกายสาว
และด้วยแผนที่วางไว้คร่าวๆ ทำให้เขาไม่รีรอที่จะมอบบทรักอันแปลกใหม่ใต้สายน้ำนี้ให้สาวสูงศักดิ์เลย และจะต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว จนช่วงขาเล็กเรียวแทบจะพับลงไปหาพื้น เมื่อทานทนต่อแรงต้องการไม่ไหว
กายก็เอนไปหาเขาเมื่อต้องการสิ่งเติมเต็มเข้ามาในกายสาว สองแขนโอบกอดเขาไว้เมื่อไร้เรี่ยวแรงจะหยัดยืน สิงหรัฐพรหมจูบไปตามพวงแก้ม ปลายคาง ใบหู และลำคอระหงอย่างจงใจและเนิ่นนานในแต่ละจุด
โดยที่สาวไร้ประสบการณ์หาได้รู้ไม่ว่า จะเกิดริ้วรอยตามมาให้อับอายผู้คนยังไง ก่อนที่เขาจะก้าวเดินไปตามจุดที่ปรารถนาอย่างมีความสุข จนสองกายเหนื่อยหอบอยู่ใต้สายน้ำอันฉ่ำเย็นในเวลาอันรวดเร็ว
และพาคนข้างกายลงไปหาแขกอีกครั้งอย่างรวดเร็ว และด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ใครๆ ต่างก็เดาได้ว่าเพราะอะไร กัญญาวีร์อายจนไม่รู้จะอายยังไง กับสายตาที่แต่ละคนมองมาหาชั่วครู่ก่อนจะหันไปคุยกันดังเดิม
“เอ้าเพื่อน! จะได้มีแรงอีก”
หนึ่งในสามเพื่อนที่ยังคงมีสาวคลอเคลียข้างกาย ยกแก้วเหล้าใหม่มาให้พร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทำเอาทุกคนต่างกลั้นยิ้มไว้แทบไม่อยู่ กัญญาวีร์ให้โกรธเกลียดเขาเป็นที่สุด แต่ก็ไปไหนไม่ได้เมื่อเขารั้งเอวเอาไว้ไม่ให้ห่าง และไม่สนสายตาของสามสาวที่มองมาหาด้วยอาการเจ็บช้ำ