EP 10

1286 คำ
ตอนที่ 2   “พี่หญิงจะให้ชายยกกระเป๋าออกมาทำไมครับ” น้องเอ่ยด้วยท่าทีผ่อนคลายกว่าเมื่อตอนที่มีเจ้าหนี้อยู่ใกล้ๆ มาก แต่ผู้พี่กลับจ้องมองมาหาด้วยใบหน้าบึ้งตึง สายตาเอาเรื่องเหมือนในหลายๆ ครั้งที่น้องเคยทำความผิดมา “เพื่อนสองคนนั่นเกี่ยวข้องอะไรกับสร้อยรัตนามณีที่หายไปจากเซฟหรือเปล่าชายฟ่าง บอกความจริงพี่มาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นพี่จะเอาเรื่องไปบอกท่านแม่” “พี่หญิง!!!” สองพี่น้องอุทานออกมาแทบจะพร้อมกันขณะจ้องมองหน้าเอาเรื่องของพี่ กัญญาวีร์หันกลับไปมองพี่ชายด้วยสายตางุนงงสงสัยกับข่าวใหม่ที่เพิ่งได้ยิน และเพิ่งเดาออกถึงสาเหตุที่พี่สาวไม่ค่อยจะพูดตอนอยู่ในห้องอาหาร “บอกพี่มาชายฟ่าง ก่อนที่พี่จะหมดความอดทน บอกความจริงกับพี่มาให้หมด เพราะมีเพียงสามคนเท่านั้นที่รู้รหัส ท่านแม่ไม่มีทางเอาออกมาเองถ้าไม่ใช้พี่ ส่วนพี่ก็ไม่ได้เอา คงจะเป็นคนอื่นไม่ได้นอกจากชาย บอกพี่มาให้หมดเดี๋ยวนี้” กันต์กวีรู้ดีว่าไม่มีทางเลี่ยงปัญหานี้ได้แน่แล้ว และในความตกใจ เสียใจก็ยังมีความโล่งใจปะปนอยู่บ้าง ที่ปัญหาหนักอกไม่ถูกหมักบ่มไว้เพียงคนเดียว แต่มีพี่กับน้องมาร่วมรับรู้ แม้จะไม่มีใครช่วยได้ แต่อย่างน้อยๆ เขาก็จะได้ไม่อกแตกตายอยู่คนเดียว เรื่องการติดพนันจนต้องเอาสร้อยไปจำนำกับสิงหรัฐจึงถูกบอกกล่าวออกไปจนหมดสิ้น หลงเหลือไว้แต่เรื่องโฉนดบ้านที่เขาเข้าใจว่าพี่สาวยังไม่รู้ ไม่เช่นนั้นคงจะเอ่ยออกมาแล้วและเขาก็ได้แต่หวังว่าอีกห้าวันที่เหลือ จะมีปาฏิหาริย์มาช่วยเสกเงิน หกสิบล้านมาให้ ปัญหาต่างๆ จะได้จบสักที และเขาบอกกับตัวเองว่าผ่านพ้นช่วงนี้ไปแล้วเขาจะไม่หันหน้าไปหามันอีก “พี่ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าชายจะเป็นคนโง่ได้ขนาดนี้ ถ้าท่านพ่อยังอยู่จะต้องผิดหวังในตัวชายมาก แล้วชายจะทำยังไงถึงจะหาเงินยี่สิบล้านไปไถ่สร้อยกลับมาได้ก่อนที่ท่านแม่จะเรียกให้พี่เอาออกไปขัดให้ท่านดู” พี่สาวแทบจะลมจับจนต้องพากายทรุดนั่งกับชุดรับแขกที่จัดไว้ตรงมุมระเบียงข้างห้อง เมื่อรับรู้ความจริงที่เจ็บปวดนี้ ส่วนน้องสาวก็อยากจะว่าพี่ไม่น้อย แต่ด้วยความที่ตัวเองยังเด็ก และสงสารท่าทีอันหงอยเศร้าของพี่ชายเลยเลือกที่จะเงียบแล้วไปนั่งข้างพี่สาวเท่านั้น “ชายขอโทษครับพี่หญิง ชายกำลังพยายามหายืมจากเพื่อนๆ อยู่ครับ” กันต์กวีเองก็ถึงกับคุกเข่าลงตรงหน้าพี่ด้วยความเสียใจที่ตัวเองทำให้ทุกคนในบ้านเดือดร้อน “ชายอย่ามาขอโทษพี่ เพราะความผิดครั้งนี้ใหญ่หลวงเกินไป เกินกว่าพี่จะยกโทษให้ได้ และถ้าท่านแม่รู้ว่าสร้อยหายไป จะต้องเสียใจจนช็อกเหมือนคราวที่ขโมยขึ้นบ้านแน่ๆ เคราะห์ดีแค่ไหนที่ตำรวจตามมาคืนให้ได้ ชายก็รู้ดีว่าโรคหัวใจของท่านไม่ถูกกับเรื่องอะไรก็ตามที่จะมากระทบกระเทือนจิตใจ แต่ชายก็ยังทำ ชายทำไปทำไม เพื่ออะไร การพนันมันไม่เคยทำให้ใครได้ดีชายไม่รู้เหรอ” “แต่ชายอยากเห็นพวกเรามีเงินทองไว้ใช้จ่ายแบบสบายๆ ไม่ใช่ต้องเขียมแบบนี้ ลำพังค่าเช่าเดือนละแปดหมื่นก็ไม่พอค่าใช้จ่ายในบ้านแล้ว ชายไม่อยากเห็นพี่หญิงต้องเอาสร้อยทอง เอาของมีค่าส่วนตัวไปขายทีละชิ้นๆ จนจะไม่เหลืออะไรให้ขาย” “แต่พี่พอใจที่จะเป็นแบบนี้ พอใจที่จะอยู่แบบเขียมๆ ดีกว่าจะคิดการใหญ่และเสี่ยงเหมือนชาย แล้วเป็นยังไงล่ะ ชายเองก็รู้ว่าสร้อยนั่นสำคัญกับท่านแม่ และตระกูลเราแค่ไหน ชายทนได้เหรอที่มันจะตกไปเป็นของคนอื่นในราคาแค่ยี่สิบล้าแทนที่จะเป็นห้าหรือแปดสิบล้าน หรือต่อให้มากกว่านั้น พี่กับท่านแม่ก็ไม่คิดจะขายสร้อยมงคลเส้นนั้น รวมทั้งบ้านหลังนี้ด้วย เพราะมันเป็นความภาคภูมิใจที่ท่านพ่อกับท่านแม่มี เข้าใจมั้ยชาย เข้าใจจุดประสงค์ของท่านทั้งสองมั้ย” “ชายรู้ครับพี่หญิง ชายขอโทษ” “ไม่ต้องมาขอโทษพี่ ทางเดียวที่ชายจะทำให้พี่ลืมเรื่องนี้ คือไปเอาสร้อยกลับมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ทำยังไง ไปขอร้องหรืออะไรยังไงกับใคร ชายต้องไปเอามาคืนไว้ในเซฟก่อนที่ท่านแม่จะให้พี่ไปเปิดออกมาให้ท่านดู” “พี่หญิง! ชายกำลังพยายามอยู่ครับ” “ออกไปจากห้องพี่ได้แล้ว และอย่ากลับมาบ้านถ้าไม่มีสร้อยกลับมาด้วย ไป! พี่อยากอยู่คนเดียว” สองพี่น้องได้แต่มองหน้ากันแล้วค่อยๆ เดินออกจากห้องพี่สาวไปด้วยใบหน้าหงอยเศร้าโดยเฉพาะพี่ชายที่ไม่เอ่ยอะไรสักคำ นอกจากหุนหันลงชั้นล่างไป น้องสาวที่ห่วงพี่ไม่น้อยตามลงไปไม่ห่าง “ทำใจดีๆ ไว้นะคะพี่ชาย ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางแก้ไข” แล้วปลอบใจพี่ที่ทรุดกายลงนั่งที่บันไดขั้นสุดท้ายอย่างคนอ่อนแรง โดยมีน้องนั่งเคียงข้างและเป็นกำลังใจให้ “พี่ไม่รู้จะไปหาเงินจากที่ไหนมาได้แล้วหญิง ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าไม่มีใครให้พี่ยืมแน่ ยิ่งพวกญาติๆ ของเราแล้ว ยิ่งดูถูกเหยียดหยามบ้านเราจะตาย พี่หมดหนทางแล้ว” ผู้พี่สารภาพอย่างหมดเปลือก “ไม่ค่ะพี่ชาย ปัญหาทุกอย่างต้องมีทางออก พี่ชายต้องคิดถึงท่านแม่ไว้ให้มากๆ สิคะ คิดว่าถ้าไม่มีสร้อยเส้นนั้นจะทำให้ท่านจากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับ แล้วพี่ชายก็อาจจะมองหาทางออกเอง” “แล้วเป็นหญิงล่ะ จะทำยังไงดี หญิงจะแก้ปัญหายังไงดี” “หญิงไม่รู้ค่ะ แต่หญิงคิดว่าเพื่อชีวิตของท่านแม่แล้ว หญิงพร้อมที่จะแลกกับทุกอย่างที่มีในชีวิตค่ะ ทุกอย่างจริงๆ” “แต่เราไม่มีอะไรเหลือเลยนะหญิง ตึกแปดคูหาที่เรามีอยู่จะขายได้สักกี่ล้าน และห้าวันใครจะไปขายทัน พี่หมดหนทางแล้ว พี่กลุ้มใจจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วหญิง ได้ยินมั้ยว่าพี่กลุ้ม” แล้วผู้พี่ก็ลุกพรวดพราดไปคว้ากุญแจแล้วตรงไปหารถควบออกจากบ้านทันที ทิ้งให้น้องสาวมองผ่านหน้าต่างไปจนรถพี่หายลับออกจากประตูรั้ว ความสงสารพี่ทั้งหมดที่มีได้ถูกผันไปเป็นความชิงชังที่มีต่อแขกสองคนทันที ไม่เสียแรงที่คิดและมองไว้ในทางลบตั้งแต่แรก อดเสียดายข้าวมื้อนี้เป็นที่สุด เมื่อพวกคนชั่วให้ลิ้มลองฝีมืออันประณีตบรรจงของพี่สาว เพราะไม่คู่ควรกับเวลาที่พี่เสียไปเลย ไม่คู่ควรที่จะมาเหยียบบ้านที่ท่านพ่อรักและสร้างมากับมือ ด้วยน้ำพักน้ำแรงน้ำเงินอันบริสุทธิ์ทุกบาททุกสตางค์ “ทำไมคนชั่วๆ ถึงได้รวยเอาๆ นักนะ” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม