การที่เขาจะต้องมาแต่งกายคล้ายๆ ดยุคแห่งทารอนเป็นเรื่องที่วินเทอร์ไม่ค่อยชอบใจเอาซะเลย
“ไม่ใช่เจ้าคนเดียวที่ไม่ชอบใจ คิดว่าข้าชอบแต่งกายคล้ายเจ้ารึไงเคาน์ทรอย”
วินเทอร์ยกยิ้มขึ้นมาจางๆ
“หากว่าท่านดยุคไม่เต็มใจ โชคดียิ่งนักที่ในคฤหาสน์โรแกนมีชุดออกงานของบุรุษมากมายให้ท่านได้เปลี่ยน ข้าจะให้พ่อบ้านนำทางท่านไป”
มาไคล์แสยะยิ้มออกมา
“ทำไมข้าจะต้องเป็นคนเปลี่ยนเล่าเคาน์ทรอย เจ้าต่างหากที่จะต้องเป็นคนเปลี่ยน รู้จักทางที่นี่ดีไม่ใช่รึไง เช่นนั้นเจ้าก็รีบไปเปลี่ยนชุดซะสิ รีบๆ ด้วยล่ะเพราะทารีน่าคงจะใกล้ลงมาแล้ว”
“ข้าจะไปเปลี่ยนทำไมกัน ในเมื่อชุดนี้ก็เหมาะสมกับข้าอยู่แล้ว..”
“นี่เจ้ากล้า..”
“ใครจะเปลี่ยนชุดอย่างนั้นหรือคะ? มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”
ทารีน่ายกชายกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ เดินลงมาจากบันได นางส่งยิ้มให้กับท่านมาไคล์ก่อนจะหันไปมองท่านพี่วินเทอร์สลับกัน
ปกติทารีน่าก็งดงามมากอยู่แล้ว วินเทอร์พึ่งรู้ว่านางสามารถงดงามเพิ่มมากขึ้นได้อีก
“ไม่มีเลยรินา ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล..”
วินเทอร์กล่าวพร้อมกับยื่นมือไปให้ทารีน่าจับ ในขณะที่เธอกำลังจะวางมือลงบนมือของเขา มาไคล์ก็ปัดมือของวินเทอร์ออกเพื่อให้เธอวางมือลงบนมือของเขา
“เราสายมากแล้ว รีบไปเถอะ”
ในใจมีคำถามมากมายว่าเขา..เถียงกับเคาน์ทรอยทำไมกัน? อันที่จริงคำถามมากมายมันกวนใจเขาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าทำไมเขาจะต้องให้ทารีน่าเป็นคู่ควง ทั้งๆ ที่ไม่กี่วันก่อนเขาพึ่งจะสร้างบาดแผลบนร่างกายของนาง อีกทั้งยังทำร้ายนางด้วย..
แต่ไม่กี่วันก่อนเขากลับรู้สึกว่านางน่าสนใจ และอยากจะทดสอบว่านางรักเขาจริงๆ รึเปล่า เพื่อที่เขาจะได้หลอกใช้นาง
เช่นนั้นเขาก็ได้คำตอบของเรื่องทั้งหมดนี้แล้วว่าที่เขาเข้ามาพัวพันกับทารีน่า ทั้งหมดที่เขาทำไปมันเป็นเพราะว่าเขาหลอกใช้นาง ใช้แล้วเหตุผลนี้แน่ๆ
เมื่อทารีน่าเห็นใบหน้าของท่านพี่วินเทอร์ที่ดูสลดลงเล็กน้อย เธอก็ใช้มืออีกข้างจับมือของเขาเอาไว้
เมื่อวานเรา..พูดกันไม่เข้าใจนิดหน่อย เพราะแบบนั้นเธอไม่อยากจะผิดใจกับเขาอีกแล้ว
“ขึ้นรถม้าของทารอนไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังที่นั่นที่ดีในสุดในการดูการแข่งขันของอัศวิน..”
วะ..ว่าไงนะ?
และเมื่อเดินทางมาถึงพระราชวังแน่นอนว่าผู้คนทั้งงานต่างจับจ้องมาที่เธอและท่านดยุค เพราะว่าพวกเราทั้งสามคนมางานพร้อมกับแถมท่าทีของเธอและเขายังนับว่าสนิทสนมกัน ซึ่งมันทำให้เกิดการจับกลุ่มพูดคุยกันของชนชั้นสูง ชื่อของเลดี้โรแกนก็อยู่ในหัวข้อการจับกลุ่มสนทนา
“รินา..ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ที่ส่งสายตาเป็นห่วงมาให้
“หากเป็นเรื่องที่ชื่อของข้าอยู่ในการสนทนาของพวกเขา ข้าไม่เป็นอะไรเลยค่ะ”
ตอนนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงไม่ใช่ชื่อเสียงของเธอแต่มันคือพิธีการเปิดงานวันชาติต่างหาก เมื่อขบวนของราชวงศ์ขึ้นรถม้าเดินทางไปตามถนนหนทางในเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการกล่าวเปิดงานวันชาติสิบวันเต็มๆ ที่ลานประลอง..
อัศวินของตระกูลต่างๆ ก็จะเข้าร่วมเพื่อเป็นสีสันของงานวันชาติ และท่านมาไคล์พาเธอมานั่งยังที่นั่นที่สามารถมองเห็นการประลองได้ชัดเจนมากที่สุด
แต่เธอกลัวเลือด..ตอนนี้ในใจก็เลยภาวนาว่าขอให้ตัวเองอดทนไม่เป็นลมไปก่อนที่การแข่งขันจะจบ
เสียงตบมือดังขึ้นมาพร้อมๆ กับรถม้าของราชวงศ์ที่เคลื่อนที่เข้ามาในลานประลอง ผู้คนโดยรอบบริเวณต่างยืนขึ้นเพื่อทำความเคารพแด่องค์จักรพรรดิและองค์รัชทายาท
นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นองค์รัชทายาทฮาร์วี ใบหน้าของเขานับว่าหล่อเหลาในแบบที่สมกับเป็นพระเอกของเรื่องนี้ แต่มันไม่ได้ว้าวอะไรขนาดนั้นเพราะในสายตาจองเธอแล้ว คนที่หล่อที่สุดในเรื่องคือท่านมาไคล์ต่างหาก
ทารีน่าเงยหน้าขั้นมองใบหน้าของท่านมาไคล์ที่อยู่ด้านข้าง ที่มุมปากของเธออมยิ้มน้อยๆ เมื่อได้มองเห็นเขาในมุมที่ใกล้เช่นนี้
มาไคล์ปรายตามามองหน้าของทารีน่าเมื่อเขาเห็นองค์รัชทายาทเดินทางเข้ามาในสนามประลอง เขาแค่ตั้งใจจะมองท่าทีของทารีน่าว่านางจะแสดงท่าทีแบบไหนเมื่อพบเจอคนรักเก่า แต่ทว่าสายตาของนางกลับมองมาที่เขา..ตอนนี้มันก็เลยทำให้เรากำลังสบตากันอยู่
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของทารีน่าเกร็งขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อท่านมาไคล์หันหน้ากลับมาแล้วเราสบตากันพอดี
“รู้แล้วว่าหล่อ ไม่ต้องมองตลอดเวลาแบบนั้นก็ได้”
เหมือนกับว่าเขามัดเธอเอาไว้ด้วยสายตาอันแสนเจ้าเล่ห์ของเขาเลย ท่านมาไคล์เมนของฉันหล่อที่สุดเลยให้ตายเถอะ!!
“อยากจะเถียงออกไปเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าข้าจะเถียงท่านไม่ได้เพราะว่าท่านดยุคหล่อเหลามากจริงๆนั่นแหละค่ะ”
เมื่อได้ยินคำกล่าวแบบนั้นของทารีน่า มันทำให้มาไคล์รีบหันไปมองทางอื่นโดยไม่รู้ตัว ใบหูของเขาทั้งสองกำลังแดงและเขากำลังพยายามเกร็งสีหน้าเอาไว้เพื่อให้ตัวเองดูปกติและไม่หวั่นไหวไปกับคำกล่าวของเธอ
“ข้าอยากจะถามเจ้ามาตลอดเลยว่าเจ้าชอบข้าตรงไหนงั้นเหรอ?”
เขาถามทั้งๆ ที่ไม่ได้มองหน้าเธอ แต่สายตาของทารีน่ายังคงจับจ้องที่ใบหน้าของเขาอยู่
“ทุกตรงเลยค่ะ การจะรักใครสักคนต้องมีเหตุผลด้วยอย่างนั้นหรือคะ?”
มาไคล์รู้สึกว่าเขากำลังถูกต้อนให้อับจนในถ้อยคำที่จะกล่าวออกไป
ตั้งสติหน่อยสิวะ ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ดีมากเลยไม่ใช่รึไง เพราะว่าทารีน่านั้นชอบเขา..การจะหลอกใช้นางก็เลยง่ายดายมากยิ่งขึ้น..
เขาหันกลับมามองสบตาของเธออีกครั้งหนึ่ง โชคดีที่เคาน์ทรอยไปทักทายขุนนางคนอื่นอยู่ทำให้ตอนนี้มีแค่เขากับเธอเท่านั้น จังหวะดีๆ แบบนี้ต้องรีบฉวยเอาไว้สิ
“ทารีน่า ข้าได้ยินว่าโรแกนพึ่งจะขุดบ่อเกลือขึ้นมาใหม่ หากว่าข้าอยากจะได้สัมปทานการผูกขาดค้าเกลือจากเจ้า..”
“ท่านจะอยากได้สัมปทานการค้าไปทำไมกันคะ ข้าสามารถยกบ่อเกลือที่พึ่งขุดขึ้นมาใหม่ให้ท่านได้เลย ส่วนเรื่องจะผูกขาดหรือไม่เรื่องนั้นเชิญท่านตัดสินใจเองได้เลยค่ะ”
ง่ายดาย..ขนาดนั้นเลย?
เขาแค่จะหลอกใช้เธอ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะง่ายดายขนาดนั้น เกลือถือเป็นสิ่งสำคัญมาก หากผู้ใดถือครองบ่อเกลือเอาไว้ ผู้นั้นจะร่ำรวยยิ่งกว่ามีเหมืองเพชรซะอีก..
มาไคล์แสยะยิ้มออกมา ทารีน่าเอ๋ย..ดูเหมือนว่าการหลอกใช้เจ้าจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับข้ามากกว่าที่คิดเอาไว้