จะไม่ทน…11/2

1483 คำ
ตลอดทั้งวันที่อยู่คนเดียวหญิงสาวนั่งเล่นนอนเล่นโทรศัพท์ เปิดดูรายการทีวี ออกกำลังกายในยิมส่วนตัวในห้องจนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงค่ำหลังจากทำอาหารง่าย ๆ สำหรับตัวเองแล้วเธอก็มานั่งเล่นโทรศัพท์มือถือที่โซฟาตัวเดิม ขณะนั้นมีสายเรียกเข้าซึ่งไม่ปรากฏชื่อผู้โทร. เข้ามา ตอนแรกหญิงสาวลังเลว่าจะรับหรือไม่เพราะเหมือนมีบางอย่างร้องเตือนว่าอาจจะเป็นสายจากคนที่กำลังคุกคามเธอแต่คิดอีกทีว่าอาจจะเป็นคนที่ร้านโทร. มาจึงตัดสินใจรับสาย “ฮัลโหล” ทันทีที่จอมแก้วกรอกเสียงกลับไป คนในสายก็เอ่ยตอบกลับมา {ฉันคือหยาดพิรุณ คิดว่าเธอคงรู้จักฉันบ้างแล้ว} น้ำเสียงของอีกฝ่ายฟังดูเยือกเย็น จอมแก้วพยายามตั้งสติไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นได้เบอร์ติดต่อเธอมาได้อย่างไร แต่ถ้าถึงขนาดให้คนมาข่มขู่เธอได้ก็คงไม่ยากสำหรับการจะหาเบอร์ของเธอ “ทำไมเงียบไปล่ะ กลัวเหรอ หึหึ” ปลายสายเอ่ยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ “อย่ากลัวไปเลย ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย ฉันแค่จะมาบอกข่าวดีกับเธอว่า พรุ่งนี้ฉันกับเฮียกั้งกำลังจะหมั้นกัน ไม่รู้ว่าเฮียกั้งเขาบอกเธอหรือยัง ถ้าอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าอนาคตจะอยู่กันยังไงก็มาได้นะที่โรงแรม xx ฤกษ์สวมแหวนเวลาเก้าโมงเก้านาที” แจ้งข่าวแล้วหยาดพิรุณก็วางสายไปทิ้งความรู้สึกหนักอึ้งไว้ให้กับจอมแก้ว นี่คือการประกาศสงครามจากว่าที่เมียเบอร์หนึ่งของเขาสินะ ทั้งที่เธอไม่เคยคิดจะแสดงตัวหรือทำอะไรเลยด้วยซ้ำ อีกฝ่ายก็เล่นงานเธอแบบไม่ยั้ง ที่เขาไม่กลับมาที่เพนต์เฮาส์คืนนี้เพราะเขาต้องเตรียมตัวหมั้นในวันพรุ่งนี้ แบบนี้นี่เอง “ได้ จะแต่งตัวให้สวยตะโกนไปเลย” เมื่อได้รับเชิญมา ตามมารยาทก็ต้องไปสิ ไปให้เห็นกับตาว่าบรรยากาศในงานจะมีความสุขอบอวลกันมากแค่ไหน จอมแก้วรับคำเชิญปากเปล่าจากหยาดพิรุณ หญิงสาวเดินไปที่ Walk-in Closet เลือกชุดสำหรับจะสวมไปงานหมั้นของปภังกรพรุ่งนี้เช้าให้สมเกียรติ “ชุดนี้น่าจะเหมาะ” มือเรียวหยิบชุดเดรสเกาะไหล่สีครีมดูเรียบหรูของแบรนด์ดังออกมา ริมฝีปากอิ่มสวยระบายรอยยิ้มขื่นขม อยากจะรู้ว่าปภังกรจะทำหน้าอย่างไรเมื่อเห็นเธอไปร่วมพิธีหมั้นของเขา งานหมั้นของปภังกรกับหยาดพิรุณจัดขึ้นในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมระดับห้าดาวริมแม่น้ำเจ้าพระยา แขกเหรื่อในงานมีเฉพาะคนที่รู้จักสนิทสนมของทั้งสองครอบครัว ทางด้านของปภังกรแขกของเขามีมาแค่สองคนคืออาจองและศาสตรา ชายหนุ่มในชุดสูทสีงาช้างหล่อเหลา ส่วนเจ้าสาวสวมชุดหมั้นแบบเรียบหรูแต่ดูแพงด้วยชุดเกาะไหล่สีชมพูหวาน ผมเกล้าสูงปล่อยปอยผมด้านหน้าลงมาระกรอบหน้าเหมือนไม่ได้ตั้งใจทำให้ดูเป็นธรรมชาติสวมเครื่องประดับศีรษะไม่มากไม่น้อยอย่างลงตัวบรรยากาศเรียบง่ายแต่มีระดับ หม่าจิ้นอากงของเจ้าสาวที่บินมาไทยเพื่องานหมั้นของหลานสาวโดยเฉพาะนั่งอยู่บนวีลแชร์มองหลานคนโปรดและคู่หมั้นด้วยสายตาปริ่มเปรม จอมแก้วมาถึงห้องจัดงานซึ่งมีหญิงสาวสองคนคอยต้อนรับแขกที่ได้รับเชิญมาร่วมพิธีหมั้น ดูแล้วน่าจะเป็นญาติของฝ่ายหญิงเพราะเค้าหน้าคล้ายว่าที่คู่หมั้นของปภังกร จอมแก้วแต่งหน้าโทนนู้ดชมพูเกล้าผมแบบ Perfectly Messy ดูยุ่งนิด ๆ ที่เรียกว่าสวยแบบไม่ตั้งใจ สวมต่างหูโรสโกลด์ของคาร์เทียร์ และถือกระเป๋าคลัตช์สีงาช้าง ในตอนที่กำลังลังเลว่าจะเข้าไปด้านในงานดีหรือไม่ เพราะดูเหมือนจะเป็นงานที่เชิญเฉพาะญาติและคนสนิทเท่านั้น ส่วนเธอเป็นแขกที่ได้รับเชิญ ‘เป็นกรณีพิเศษ’ หญิงสาวก็เหลือบไปเห็นอาจองเดินเข้ามาพอดี ชายหนุ่มตกใจไม่น้อยที่เห็นผู้หญิงอีกคนของเพื่อนรักยืนอยู่ตรงนี้ แต่จอมแก้วไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเธอก้าวเข้าไปหา สบตาที่ยังมองเธอด้วยความตกใจแล้วพูดขึ้นว่า “จอมขอเข้าไปในงานพร้อมคุณอาจด้วยนะคะ” หญิงสาวยิ้มสดใส สีหน้าไม่เหมือน ‘เมียคนหนึ่ง’ ที่กำลังจะมาอาละวาดในงานแต่งสามี แต่อาจองก็ยังมีทำท่าเหมือนคนท้องผูก ขณะที่ในใจกำลังทักทายบรรพบุรุษของไอ้เพื่อนรักที่มันกล้าชวนผู้หญิงที่เลี้ยงไว้มางานหมั้นตัวเองได้ลงคอ ไม่คิดว่ามันจะเลือดเย็นขนาดนี้ ริมฝีปากอิ่มเคลือบสีชมพูนู้ดก็เอ่ยราวกับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “จอมได้รับเชิญมาเหมือนกันค่ะ” “เอ่อ...” จอมแก้วไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มคิดนาน เธอคล้องแขนเขาพร้อมกับพยักหน้าให้เขารับคำขอจากเธอด้วย ใกล้ได้เวลาสวมแหวนปภังกรและหยาดพิรุณเข้ามานั่งต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายที่ต่างยิ้มแย้มยินดีที่สองตระกูลจะเกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน หยาดพิรุณในวันนี้ดูสวยเปล่งปลั่งออร่าเจ้าสาวจับ หญิงสาวส่งยิ้มให้ว่าที่คู่หมั้นทุกครั้งที่สายตาสบประสานกัน ปภังกรเองก็ยิ้มตอบเธอเช่นกัน งานหมั้นครั้งนี้จัดขึ้นโดยความสมัครใจของเขาไม่ใช่การบีบบังคับ ทำไมเขาจะต้องทำหน้าไม่พอใจด้วยล่ะ ขณะที่รอให้เข็มนาฬิกาเดินมาถึงฤกษ์ยามที่กำหนดในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้ ช่างภาพมืออาชีพที่ถูกจ้างมาก็รัวกดชัตเตอร์เก็บภาพหนุ่มสาวทั้งสองคนในทุกมุม ก่อนที่สายตาของปภังกรจะมองไปเห็นหญิงสาวที่เขารู้จักเธอดีในทุกซอกมุมยืนอยู่ตรงนั้น สายตาของเธอก็กำลังจ้องมองมาที่เขาเช่นกัน หยาดพิรุณมองตามสายตาเขาไปก็เห็นจอมแก้วที่วันนี้แต่งตัวมางานด้วยชุดที่มีดีไซน์คล้ายกันกับเธอแต่ต่างสี แถมทรงผมก็ยังใกล้เคียงกันเพียงแต่ไม่มีดอกไม้กับมงกุฎเล็ก ๆ ประดับศีรษะเหมือนเธอ ดวงตาของหยาดพิรุณวาบขึ้นอย่างแค้นเคืองและอาฆาตจอมแก้วอยู่ในใจที่แต่งตัวเหมือนตั้งใจมาประชันกับเธอ ‘แกรู้จักฉันน้อยไปแล้วนังผู้หญิงอุ่นเตียง ให้มาเห็นด้วยตาตัวเองจะได้สำเหนียกเงาหัว กลับกล้ามาท้าทายฉัน’ ทั้งสามคนจ้องมองกันอยู่ชั่วขณะหนึ่ง กระทั่งมีเสียงเอ่ยขึ้นว่า “ได้ฤกษ์สวมแหวนแล้ว” ปภังกรจึงดึงสายตากลับมาโฟกัสคู่หมั้นตรงหน้า หลังจากพิธีสวมแหวนเสร็จสิ้นเขาถึงได้หันไปมองที่จุดเดิมอีกครั้งแต่ก็ไม่เห็นเธอแล้ว เสร็จจากช่วงพิธีการบนเวที คู่หมั้นหมาด ๆ ก็ลงมาพูดคุยถ่ายภาพร่วมกับแขกในงาน ปภังกรกวาดสายตาไปทั่วงานเพื่อจะหาคนที่เขาไม่คิดว่าจะเห็นเธอในงานนี้แต่ก็ไม่เจอแล้ว หรือว่าเมื่อครู่เขาจะมองผิด ผู้หญิงคนนั้นอาจจะแค่คนที่คล้ายเธอเท่านั้น...แต่คนที่กอดอยู่แทบทุกคืนเขาไม่น่าจะจำผิด อาจองเดินเข้ามาหากระแซะถามว่า “นี่แกใจกล้าถึงขนาดชวนจอมแก้วมางานหมั้นวันนี้ด้วยเลยเหรอวะ” “แกเจอจอมใช่มั้ยวะ” “เออดิ ก็เขาเข้ามาในงานกับฉันนี่ ควงแขนด้วยเว้ย จะไม่เจอได้ไง” ที่เห็นนั่นเป็นจอมแก้วจริง ๆ สีหน้าและแววตาของปภังกรกระวนกระวายอย่างไม่ปิดบัง “แล้วตอนนี้เธอไปไหนแล้ว” ถามพลางก็กวาดสายตาหา “ไม่รู้สิ สงสัยทนเห็นภาพบาดตาไม่ไหวกลับไปแล้วมั้ง” อาจองพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะจนปภังกรหันมองตาขุ่นขวาง หากเพื่อนรักก็ไหวไหล่แถมยักคิ้วให้ เขากวาดสายตามองหาเธอต่อแต่ไม่พบ คิดว่าคงจะออกจากงานไปแล้วแต่ก็ไม่วายสงสัยว่าเธอมางานวันนี้ได้อย่างไร แต่ขณะที่คิดหาคำตอบอยู่นั้นเสียงหวานใสของคู่หมั้นก็เรียกเขาให้ไปถ่ายรูปกับแขกคนอื่น ^ ^ ^ ***สงสารจอม แง อ่านแล้วอย่าลืมส่งกำลังและคอมเม้นให้นักเขียนด้วยนะค้าาาา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม