ปากหวาน

1339 คำ
นอกจากนั้นร้านข้าวแกงแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นร้านอาหารที่ยกระดับขึ้นมาอีกนิด เหมาะสำหรับพวกคอเหล้า หรือครอบครัวที่ต้องการออกมาหาของอร่อยในตอนกลางคืน ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของบิดาที่เกษียณตัวเอง จากการเป็นลูกเรือขุดเจาะน้ำมันที่ประเทศดูไบมาสิบกว่าปีแล้ว.. “แยมเป็นอะไรมากหรือเปล่า เย็นนี้ไม่ต้องไปญี่ปุ่นดีไหม เดี๋ยวพี่โทรไปบอกพี่หนาให้หาไกด์คนอื่นไปทำแทน” พิษนุถามคนรักด้วยความห่วงใยขณะทานข้าวด้วยกัน “ไม่ต้องค่ะ แยมไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่รู้สึกปวดหัวนิดหน่อยเท่านั้น พอกินยาและได้นอนพักก็ดีขึ้นมากแล้ว” “ดีขึ้นมากแล้วทำไมไม่ไปทำงานคะ หรืออยากแกล้งให้พี่เป็นห่วง” หญิงสาวคลี่ยิ้มให้คนรัก “สงสัยจะเป็นอย่างหลังค่ะ” ความจริงที่เธอไม่เข้าบริษัทเพราะเห็นว่าไม่มีงานอะไร จึงให้นนทิยาที่เดินทางไปด้วยกัน เข้าไปจัดการเบิกเงินสำรองจ่ายและเตรียมเอกสารแทน “แค่นี้ก็รักจะแย่แล้ว ยังอยากจะแกล้งอะไรอีกคะ” ชายหนุ่มพูดขณะตักต้มจืดเยื่อไผ่ใส่ถ้วยใบเล็ก “ขอบคุณค่ะ” ดาวลดากล่าวขอบคุณเมื่อเขาวางถ้วยต้มจืดให้ตรงหน้า เขามักจะปากหวานและเอาใจเก่งแบบนี้เสมอจึงทำให้เธอไม่เคยเลิกรักเขา ถึงแม้จะจับได้หลายครั้งแล้วว่าเขาแอบนอกใจ แต่เขาก็มักจะมีคำพูดหวานๆ และวิธีเอาใจจนเธอโกรธไม่ลงและยอมอภัยให้เสมอ “เดี๋ยวอิ่มข้าวแล้วพี่คงต้องขอตัวก่อน เพราะพี่ต้องไปธุระสำคัญ” “ค่ะ” ดาวลดารับคำง่ายๆ แต่ในใจนั้นสงสัยมากเพราะเขาไม่กล้าสบตากับเธอเท่าไหร่นัก “แยมไม่งอนพี่ใช่ไหมคะ” พิษนุส่งยิ้มให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน พอดีกับโทรศัพท์ส่งเสียงดังขึ้น เขาจึงหยิบขึ้นมาดู “ลูกค้าโทรมาพอดีเลย” “ไม่หรอกค่ะ ถ้าพี่เต้มีงานก็ไปทำเถอะค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อนนะคะ” เขาบอกเธอแล้วรีบลุกขึ้น เดินห่างออกไปไกลพอสมควรจึงกดรับสาย ดาวลดาส่งสายตามองตามคนรักไปจนเขาสตาร์ทรถออกไป จึงเรียกให้คนงานในร้านมาเก็บถ้วยชามไปล้าง “แฟนเราไปแล้วเหรอ” “ค่ะป้าเดือน” ดาวลดาตอบป้าพร้อมรอยยิ้ม “ทำไมรีบกลับนักล่ะ” “พี่เต้เขามีธุระต้องไปทำค่ะ” “แปลกคนนะแฟนเราคนนี้” ดวงเดือนบ่นขึ้นมาลอยๆ แววตามีความลังเลปนอยู่ “แปลกยังไงหรือคะป้า พี่เต้เขามีสามหู สามตาหรือคะ” ดาวลดาล้อผู้เป็นป้าแล้วหัวเราะเบาๆ “เด็กคนนี้นี่ เดี๋ยวป้าตีตายเลย” ดวงเดือนเอ็ดหลานสาวไม่จริงจังนักแล้วนิ่งเงียบไปชั่วครู่ “ป้ารู้สึกว่าเขาไม่อยากอยู่กับเรานานๆ ทุกครั้งที่มาหาหนูเขาจะต้องมีธุระไปทำต่อตลอดเลย” ดาวลดานิ่งไปชั่วครู่เมื่อได้ยินคำพูดของป้าดวงเดือน ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านางจะสังเกตถึงขนาดนี้  “ป้าเดือนคิดมากไปหรือเปล่าคะ พี่เต้เขาเป็นเจ้าของบริษัทนะ ธุระก็ต้องมากเป็นธรรมดา” เพราะความรักที่มีต่อแฟนหนุ่มทำให้เธอแก้ตัวแทนเขา ถึงแม้จะเห็นด้วยกับคำพูดของป้า.. แต่เขาอาจจะยุ่งเรื่องงานจริงๆ “อย่างนั้นเองเหรอ ป้าก็หลงคิดมากอยู่ตั้งนาน” ดวงเดือนรู้ว่าหลานสาวแก้ตัวให้คนรัก แต่นางไม่อยากพูดจากระทบจิตใจหลานให้มากกว่านี้ จึงทำเป็นยอมคล้อยตาม “ป้าว่าหนูเข้าบ้านไปอาบน้ำนอนสักตื่นดีกว่านะ เย็นนี้ต้องไปญี่ปุ่นอีกไม่ใช่เหรอ” “ค่ะป้า แต่แยมอยากช่วยป้าขายของก่อนค่ะ” “ไม่ต้องช่วยแล้วลูก เลยเที่ยงไปแล้วคนไม่ค่อยยุ่ง หนูไปนอนพักสักหน่อยดีกว่านะ” ดวงเดือนเกือบจะจับแก้มของหลานสาวอยู่แล้ว แต่เมื่อนึกได้ว่ามือของตัวเองอาจจะสกปรกและทำให้หน้าสวยใสของหลานเป็นสิว จึงเปลี่ยนเป็นลูบผมด้วยความรักใคร่แทน “เชื่อป้านะลูก ไปพักสักหน่อยเย็นนี้ได้มีแรงทำงาน” “ก็ได้ค่ะ” ดาวลดาโอบเอวอวบๆ ของป้าอย่างรักใคร่ไม่ต่างกัน “เข้าไปพักด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ ทางนี้ฉันจัดการเอง” ดวงดาวเดินออกมาจากหลังร้าน ได้ยินคำพูดของคู่แฝดกับหลานสาวจึงเอ่ยปากไล่ทั้งคู่ “ฉันว่าเธอนั่นแหละสมควรเข้าไปพักพร้อมหลาน ทำกับข้าวมาตั้งแต่เช้าแล้ว” ดวงเดือนไม่ยอม “เธอนั่นแหละไป ทางนี้ฉันจัดการเอง ใครบอกว่าฉันเป็นคนทำฉันแค่ไปยืนคุมแล้วก็ชิมรสชาติแค่นั้นเอง ไม่เห็นจะเหนื่อยตรงไหน ไปเถอะไป ไปพักสักหน่อยเถอะ อีกเดี๋ยวก็เก็บร้านแล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะ แยมเอาป้าเดือนเข้าบ้านไปด้วยลูก” ดวงดาวบอกกับหลานสาว “แยมว่าป้าทั้งสองเข้าไปพักผ่อนดีกว่าค่ะ ปล่อยหน้าที่ทางนี้ให้แยมจัดการดีกว่า” “ไม่ได้!” สองเสียงประสานขึ้นมาพร้อมกัน ไม่ยอมให้หลานสาวคนสวยที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวเพราะอีกคนแต่งงานไปแล้วต้องทำงานหนักเด็ดขาด “ห้ามพูดคำนี้กับแยมเด็ดขาดค่ะ ไปเลยค่ะ เข้าบ้านไปพักผ่อนเดี๋ยวนี้เลยค่ะ งานหมูๆ แค่นี้แยมจัดการเอง” หญิงสาวโอบบ่าของป้าฝาแฝดทั้งสองแล้วเดินไปยังทางเข้าบ้านซึ่งอยู่ทางด้านหลังของร้านเข้าไปประมาณห้าสิบเมตร.. “ป้าเดือน ป้าดาว อาบน้ำแล้วเข้าไปเปิดแอร์นอนให้สบายเลยนะคะ ถ้าแยมกลับเข้ามาเห็นป้าทั้งสองยังไม่นอนแยมงอนจริงๆ ด้วย” ดาวลดาส่งป้าทั้งสองถึงหน้าบ้านแต่ไม่ได้เดินเข้าไปเพราะจะรีบกลับไปดูแลที่ร้าน “แต่ป้าอยากให้หนูนอนมากกว่า” ดวงดาวดึงแขนหลานสาวไว้ ดวงเดือนพยักหน้าเห็นด้วย “แยมยังเป็นสาวเป็นแส้ ยังแข็งแรงดีค่ะ ป้าเดือน ป้าดาวไม่ต้องห่วงแยมหรอกค่ะ” เธอตัดบทด้วยการหอมแก้มของป้าทั้งสองแล้ววิ่งเหยาะๆ ออกไปตามเส้นทางเดิมที่เดินเข้ามา.. “ฉันไม่อยากให้หลานแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นเลยดาว” ดวงเดือนพูดขึ้นขณะส่งสายตามองตามหลังหลานสาวที่วิ่งไปไกลเกือบถึงร้านแล้ว “ทำไมล่ะ เขาก็รักกันมานานหลายปีแล้วนี่” “ก็เพราะหลายปีนะสิถึงไม่อยากให้แต่ง” “ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอนะ แต่มันเป็นเรื่องของเขาสองคนนะพี่เดือน” ดวงดาวเข้าใจดีว่าเพราะอะไรพี่สาวคู่แฝดถึงคิดแบบนี้ เพราะหลายปีที่หลานสาวรู้จักกับพิษนุจนกลายเป็นแฟนกัน ผู้ชายคนนั้นไปมาหาสู่ที่บ้านหลังนี้แต่ละครั้งก็เหมือนไม่ได้ตั้งใจมา ส่วนมากจะแวะมากินข้าวที่ร้านแล้วก็ซื้อกับข้าวกลับไปฝากที่บริษัทครั้งละมากๆ แต่ก็ไม่เคยแวะมาคุยหรือกินข้าวร่วมโต๊ะแบบเป็นทางการสักครั้ง “ก็จริงอย่างที่เธอพูดนะ.. แต่ฉันรู้สึกว่าเขาดูแปลกๆ ยังไงไม่รู้ เวลาฉันมองหน้าเขา เขามักจะหลบสายตาฉันเสมอ แม้กระทั่งกับหลานเราเขาก็เป็นนะดาว” ดวงเดือนเล่าเรื่องเดิมๆ ให้น้องสาวฟังอีก “เราอาจจะคิดมากกันไปเองก็ได้นะเดือน เพราะเรารักและเป็นห่วงหลานมากเกินไป” “ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะ” “เข้าบ้านเถอะ เดี๋ยวหลานกลับมาเห็นเรายังไม่ขยับไปไหนจะโดนเขางอนใส่เอานะ" ดวงดาวพูดติดตลก เดินนำเข้าไปในบ้าน...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม