บทที่ 8 พี่สาวของผม
อย่าว่าแต่ดาวลดาเลยที่ตกใจ ทุกคนที่ออกันอยู่ตรงระเบียงชั้นลอยของบ้านเพื่อมองดูพี่สาวของมินวูต่างก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน พวกเขาไม่ได้ตกตะลึงกับการกระทำของมินวูเท่ากับตกตะลึงในความสวยของเธอ ไม่เสียแรงที่มินวูมาคุยไว้จริง ๆ ทุกคนต่างลงความเห็น โดยเฉพาะดงซิก
“ฉันอยากจะเป็นลมค่ะที่รัก” เดือนนภาถึงกับกุมขมับอยู่ในอ้อมกอดของสามี
“มินวูเขานิสัยเหมือนเด็กคุณก็รู้นี่ แล้วเขาก็โตที่อเมริกาด้วย ทักทายแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก”
“แต่ผู้หญิงคนนั้นน้องสาวฉันนะคะ” เธอกระทุ้งศอกใส่ท้องสามีเบา ๆ
“แต่คุณบอกผมว่าเขารับเป็นพี่เป็นน้องกันแล้วนี่ อย่าคิดมากเลยนะครับ เดี๋ยวลูกเครียดนะ” ซองอากระเซ้าภรรยาสุดที่รัก
“ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่านั่นนางฟ้าหรือพี่สาวมินวูกันแน่” ดงซิกเหมือนคนตกอยู่ในอาการศรรักปักอก แต่มันไม่ใช่ครั้งแรก มันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เจอผู้หญิงสวย ๆ
“เฮ้พวกนาย! ทำอะไรเกรงใจพี่สะใภ้ฉันบ้างนะ คนที่นายกำลังพูดถึงเป็นน้องสาวของเธอนะ” เฮียวริซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของซองอารีบพูดดักคอ ก่อนที่คำพูดอื่นจะหลุดออกมาจากปากของหนุ่ม ๆ พวกนั้น โดยเฉพาะดงซิกตัวแสบ
อย่าว่าแต่ดงซิกเลย เธอเองตอนนี้ก็แทบใจละลาย เมื่อเห็นน้องสาวของพี่สะใภ้ในระยะที่ใกล้ขึ้นและชัดขึ้น ตอนลงจากรถแค่เห็นห่าง ๆ ก็ว่าสวยแล้วนะ พอมาเจอระยะใกล้แบบนี้ยิ่งไม่มีที่ติ สวยกว่าดาราหลาย ๆ คนซะอีก
“เฮ้ทุกคน ฉันจะแนะนำให้รู้จักพี่สาวฉันนะ พวกนายเรียกพี่แยมหรือพี่แยมมี่ก็ได้นะ เธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของคุณนายวูของเรา” มินวูแนะนำหญิงสาวให้ทุกคนรู้จักก่อน แล้วค่อยแนะนำเพื่อนร่วมวงเป็นรายบุคคล
ดาวลดาทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเอง เสร็จแล้วจึงกล่าวทักทายคนที่โตกว่าอีกสามคนอย่างเป็นทางการตามสไตล์ของคนไทย นั่นคือการยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะพี่เขย สวัสดีค่ะพี่เยล สวัสดีค่ะพี่เฮียวริ” เธอมองหญิงสาวอีกคนที่เดาว่าอายุน่าจะรุ่นเดียวกันก่อนจะไหว้และกล่าวสวัสดี ซึ่งฝ่ายนั้นก็ตอบรับและทำตาม
“ฮานิเธอเป็นเพื่อนพี่เอง เธอเพิ่งไปร้องเพลงโชว์ที่รายการโทรทัศน์เสร็จ ก็เลยขอแวะมาร่วมงานด้วย” เฮียวริแนะนำ
“ยินดีมากค่ะที่ได้รู้จักดาราดังอย่างคุณฮานิ” เดี๋ยวต้องถามพี่เยลหน่อยแล้วว่าฮานิคนนี้เคยเล่นหนังเรื่องอะไร นึกไม่ออกแฮะ
“คุณพูดภาษาเราได้ด้วยเหรอคะ พูดคล่องมากเลย” ฮานิแปลกใจมาก ตอนแรกที่เห็นเธอทักทายเป็นภาษาไทยยังนึกว่าเธอพูดไม่เป็น
“ฉันพูดได้ห้าภาษาค่ะ แต่ที่อ่านออกเขียนได้คล่องมีสองภาษาค่ะคือไทยกับอังกฤษ ส่วนอีกสามภาษาพูดได้แต่อ่านเขียนไม่ค่อยได้” ดาวลดาไม่อายที่จะพูดถึงความสามารถของตน เพราะถือว่าพูดเรื่องจริงไม่ได้โกหก
“ตอนเด็ก ๆ พวกเราไม่ค่อยได้เล่นเหมือนเด็กคนอื่นหรอกค่ะ ป้าของเรามักจะจับให้เราไปเรียนพิเศษโดยเฉพาะพวกภาษา แยมเขาเรียนเก่งค่ะ ความจำดี” เดือนนภาคุยอวดน้องสาวอย่างภูมิใจ
“ไม่จริงหรอกค่ะ ที่แยมเก่งภาษาขนาดนี้เพราะเจอครูประจำบ้านอย่างพี่เยลนี่แหละค่ะ แยมเรียนพิเศษกลับมาก็ต้องมาทบทวนกับพี่เยลทุกครั้งเลยค่ะ ถ้าแยมท่องไม่ได้พี่เยลก็ชอบขู่ว่าจะเอาหนอนชาเขียวมาหลอก”
“แสดงว่าที่เก่งมาได้ก็เพราะกลัวหนอนสินะคะ” ฮานิหัวเราะกับวิธีของพี่น้องคู่นี้
“ค่ะ”
“พี่สาวพูดไทย อังกฤษ เกาหลีได้ แล้วอีกสองภาษาล่ะครับภาษาอะไร” อินซูถามด้วยความสนใจขณะยื่นถาดใส่น้ำดื่มให้ทุกคนเลือกได้ตามใจ
“จีน ญี่ปุ่นค่ะ”
“สุดยอดมาก ๆ เลยครับพี่สาว ผมก็อยากเรียนภาษาไทยนะครับ แต่ไม่มีเวลาไปเรียนเลยครับ ถ้าพี่สาวไม่รังเกียจช่วยสอนผมบ้างได้ไหมครับ” ดงซิกเริ่มเรียกร้องความสนใจจากหญิงสาวบ้าง
“เฮ้! พี่สาวฉันไม่ใช่ครูนะพี่ดงซิก” มินวูขัดขึ้นบ้าง เขารีบเอาอาหารวางลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็วแล้วนั่งลงใกล้ ๆ กับดาวลดา
“ป่านนี้แล้วคุณเจสันทำไมยังไม่มาอีก” ดงโฮถามขึ้นมาแบบจงใจกระทบถึงใครบางคน ที่ยังกล้ามาเหยียบที่นี่เหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น
“เดี๋ยวก็คงมาแหละ มาดื่มกันดีกว่า” ประธานวูหยิบขวดโซจูยื่นไปที่ดงโฮเป็นคนแรก เขาต้องรีบตัดบทก่อนที่จะมีการพูดจารุนแรงกันมากกว่านี้
ทุกคนรับเหล้าจากประธานวูและกล่าวขอบคุณ ยกเว้นเดือนนภาที่ไม่มีสิทธิ์ดื่มเพราะกำลังตั้งครรภ์ และดาวลดาที่ขอปฏิเสธเนื่องจากยังมีงานรออยู่ในช่วงเช้าตรู่ เธอเป็นประเภทแพ้โซจูอย่างแรง ถึงแม้มันจะเป็นเหล้าที่มีดีกรีต่ำและรสชาติดี แต่ดื่มแค่ขวดเดียวก็เมาเกือบหมอบ พอตื่นเช้าขึ้นมาก็จะปวดหัวชนิดไปไหนไม่เป็นเลยทีเดียว
ทุกคนต่างก็ผลัดกันรินผลัดกันเทจนเริ่มมึนได้ที่ จะมีที่หนักหน่อยก็คงเป็นเฮียวริและฮานิ แต่พวกเธอก็ยังดื่มกันต่อเนื่อง
เวลาล่วงเลยไปเกือบสองชั่วโมง เดือนนภาจึงเตือนให้เป่าเค้กก่อนที่จะเมามากกว่านี้จนเป่าไม่ไหว
“พี่สาวช่วยปักเทียนให้ผมหน่อยสิครับ ผมจะเป่าเค้กของพี่สาว” มินวูฉีกยิ้มกว้างพูดเสียงยานเล็กน้อย ดวงตาดูหวานฉ่ำเพราะฤทธิ์น้ำเมา
“พี่เยล แล้วไม่รอคุณเจสันเหรอ” ดาวลดากระซิบถามพี่สาว
“เขาคงติดงานน่ะ ไม่งั้นน่าจะมาถึงแล้ว เป่าเลยเถอะแยมจะได้รีบกลับไปพักผ่อน” ที่เธออยากให้เป่าเค้กเพราะอยากให้น้องสาวได้กลับไปพักผ่อนเอาแรง เพื่อเตรียมตัวกับงานในเช้าวันใหม่นั่นเอง
“ค่ะ” ดาวลดารับคำพี่สาวและทำตามที่มินวูร้องขอ
ทุกคนต่างร่วมกันร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้มินวู แต่ไม่มีใครอยากกินเค้กสักคนเพราะกำลังอร่อยกับโซจู มีเพียงเจ้าของวันเกิดเท่านั้นที่ใช้ช้อนตักเค้กใส่ปากไปหนึ่งคำโตเพื่อเอาใจพี่สาวคนสวย
“พรุ่งนี้ตอนหายเมาผมจะกินให้หมดเลยครับพี่สาว แต่ตอนนี้ผมไม่ไหวจริง ๆ พี่สาวอย่าน้อยใจผมนะครับ” มินวูพูดอ้อแอ้
“พี่เข้าใจจ้ะ” หญิงสาวรับคำ หัวเราะกับท่าทางน่าเอ็นดูของน้องชายตัวโตหุ่นนักกีฬา ผิดกับนิสัยแบบเด็กน้อย
“เป่าเค้กแล้วเรากลับกันดีกว่า” เดือนนภาบอกกับน้องสาวและหันไปกระซิบกับสามี ที่หน้าตาแดงจัดเพราะฤทธิ์เหล้า
ซองอาพยักหน้ารับกับความต้องการของภรรยา เพราะเขาเองก็อยากพักผ่อนเต็มที่แล้ว จึงขอตัวลากับทุกคน