“เออ กูจะหยุดบ้างไม่ได้หรือไง? กูก็มีธุระเป็นนะโว้ย” ธามไทแสร้งทำเป็นเสียงจริงจังเพื่อไม่ให้เพื่อนซี้จับผิดได้ แม้สุดท้ายแล้ว เขาก็ต้องยอมบอกเรื่องเขมมิกากับเวทัสอยู่ดี “ตอแหล มึงบอกมาเลย กูมีเวลาไม่มาก ถ้าไม่พูด มึงหมดโอกาสพูดแล้วนะโว้ย เพราะกูจะไม่เป็นที่ปรึกษาให้มึงอีก” เวทัสพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ แต่ธามไทรู้ดีว่าอีกฝ่ายแกล้งพูดไปอย่างนั้นเอง “มึงก็ตอแหลไม่ต่างจากกูหรอก คนอย่างมึงมันเสือกยิ่งกว่าอะไร ต่อให้กูไม่บอก ยังไงมึงก็มาถามกูอยู่ดีละ” คนรู้ทันพูดด้วยใบหน้ายิ้มเยาะ “ก็รู้นี่ ถ้างั้นบอกมาเลยจะได้ไม่เสียเวลา ถึงไง มึงก็มีกูเป็นเพื่อนคนเดียวที่คอยให้คำปรึกษา” ทว่า ปลายสายสวนกลับมาด้วยน้ำเสียงของคนถือไพ่เหนือกว่า และธามไทเองก็คงต้องยอมรับว่า มันคงถึงตาเอาคืนของเวทัสแล้วจริงๆ “เออ กูออกไปกับเค้กมา” คนสับสนพูดเสียงนิ่งๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป พลางลอบถอนหายใจ “เออ กูเดาถูกละหนึ่ง
ดาวโหลดโดยการสแกนรหัส QR เพื่ออ่านเรื่องราวมากมายฟรี และหนังสือที่ได้รับการอัปเดตทุกวัน