เช้าวันต่อมา...
ปุณณกันต์มีคุมแล็บกายวิภาคศาสตร์สามชั่วโมงในภาคเช้า เขาเกือบลืมว่าวันนี้เป็นวันจันทร์ กระนั้นแล็บแรกของวันก็ไม่ใช่แล็บที่เขาเป็นผู้สอนโดยเฉพาะ เพียงแต่เป็นการคุมแล็บช่วยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาทและสมองเท่านั้น
“ผมคงไม่ได้มาช่วยคุมนะครับ พอดีว่าที่บ้านมีปัญหานิดหน่อย ผมขอชดให้คาบหน้านะ เดี๋ยวให้อาจารย์จีเข้าแทน”
“อ้อ โอเคค่ะ” อาจารย์จีที่พูดถึงเป็นนักศึกษาปริญญาโทที่อยู่ในการดูแลของเขา ชายหนุ่มแวะมาบอกอาจารย์ประจำวิชาระบบประสาทและสมอง ปกติแล้วจะแบ่งนักศึกษาออกเป็นกลุ่ม ๆ แน่นอนว่าต้องมีอาจารย์หลายคนคุม แต่ละโต๊ะแต่ละกลุ่ม
“ว่าแต่อาจารย์ปุณณ์ได้ตามเด็กในที่ปรึกษาไหมคะ เห็นว่าไม่ได้มาเรียนหลายวันแล้ว” เขาชะงักฝ่าเท้าที่กำลังจะก้าวเดิน ก่อนจะหันกลับมาสนใจสิ่งที่อาจารย์พัดพูด
“ครับ? หมายถึงนักศึกษาปีไหนครับ” อาจารย์หนึ่งท่านดูแลนักศึกษาในที่ปรึกษาปีละหนึ่งคน ซึ่งเขาต้องดูแลถึงหกคนด้วยกัน
“อ้อ ปีสองน่ะค่ะ” เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าปีสองก็มีอยู่คนหนึ่ง
“รินลดาเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ อาจารย์ไม่รู้เหรอ ไม่เข้าแล็บสองครั้งได้เอฟนะคะ” เขากะพริบตาปริบ ๆ ชายหนุ่มทำหลายอย่างเหลือเกิน เรียกได้ว่าตารางงานของเขาแน่นเอี๊ยด ทำให้ไม่ได้ใส่ใจนักศึกษาในที่ปรึกษาตัวเองทุกคน
“โอเคครับ เดี๋ยวผมตามให้นะครับ” เขาเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย ปกติจะนัดนักศึกษาในที่ปรึกษามาทานข้าวปีการศึกษาละครั้ง เพื่อพูดคุยปัญหา รวมถึงสามารถส่งข้อความและโทรมาหาเขาได้ทุกเมื่อ แต่อีกฝ่ายกลับเงียบไปแบบนี้...ไม่ใช่เรื่องดีแน่
ปุณณกันต์รีบกลับมาบ้าน เสียงรถยนต์ของคนเป็นสามีนั้นทำให้ลัลนาคลี่ยิ้มบาง ๆ ไม่ได้เจอคนเป็นสามีถึงสามวันด้วยกัน โทรคุยก็ไม่หนำใจเท่าได้เจอหรอก
“นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว” เธอเดินไปสวมกอดเขาทันทีที่อีกฝ่ายเปิดประตูออกมา ชายหนุ่มกดปลายจมูกลงที่กระหม่อมบางเบา ๆ หอมให้ชื่นใจ สมกับความคิดถึงที่แบกรับมานาน
“กลับอยู่แล้ว นาไม่สบายใจนี่”
“หึ ก็มันน่าไหมล่ะ” เธอย่นจมูกใส่เขา ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นลูบสันกรามคมเข้มนี้ “ทำไมหน้าโทรมจัง งานหนักเหรอคะ”
“ครับ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าหนัก หรือว่าปกติ” เพราะปกติมันก็หนักอยู่แล้ว เขาเลยไม่รู้ว่าจะนิยามงานว่าอย่างไรดี
“หึ เข้าบ้านกันค่ะ นาไม่รู้ว่าคุณหมอจะกลับจริง ๆ ไหม เลยทอดแค่ไข่เจียวไว้ค่ะ แต่ถ้าคุณหมออยากกินอย่างอื่นบอกนานะ”
“แค่ไข่เจียวก็ได้ครับ ว่าแต่ลูกล่ะ”
“อ้อ นาทำต้มจืดให้ค่ะ แต่ว่าไม่ได้ทำเยอะ คุณหมอไม่ชอบต้มจืดนี่” ภรรยาของเขารู้ใจเขาที่สุด แม้นจะเป็นแพทย์ แต่แพทย์ที่แหละตัวดี ที่ไม่ดูแลตัวเอง ปากบอกคนไข้ให้นอนพักผ่อนให้เพียงพอแต่ตัวเองนั้นแทบไม่ได้นอน
“แล้วนาซื้อชุดตรวจครรภ์มายังครับ”
“สั่งไปแล้วค่ะ เดี๋ยวคงมาส่ง”
“โอเค มานั่งนี่สิ” ชายหนุ่มหย่อนสะโพกลงนั่งที่โซฟาตัวยาว ตบตักตัวเองให้ภรรยาสาวมานั่งตัก
“หึ ไม่ต้องเลย งอนอยู่นะ บอกให้ทำหมันก็ไม่ทำ” ว่าหน้างอ แต่ก็เดินมานั่งตักเขาจนได้
“ไม่มีเวลานี่นา มีเวลาก็อยากจะอยู่กับคุณกับลูก ไม่อยากทำหมันเลย”
“ข้ออ้างค่ะ” เธอย่นจมูกให้หนึ่งที ก่อนจะถูกปลายจมูกคมกดลงที่แก้มใส ฟัดแรง ๆ ด้วยความคิดถึง
“หึ โอเค ๆ รอบนี้มาจริง ๆ จะไปทำด่วน ๆ เลยครับ”
“ม่าย...ถ้าไม่มายังไงก็ต้องทำค่ะ เพราะนาอยากทำงานแบ่งเบาภาระของคุณนะ”
“โธ่นา ผมทำได้ สบายมาก” เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบอยู่เฉย ๆ แล้วให้สามีเลี้ยง หญิงสาวอยากทำงานพบปะเพื่อนฝูงเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งตอนนี้ลูกสาวก็เข้าโรงเรียนแล้วด้วย
“นี่...จะหอมไปถึงไหนคะ เดี๋ยวก็ขึ้นหรอก”
“ขึ้นแล้วน่ะสิ คิดถึงคุณมาก” เขาไซ้ซอกคอระหง คิดถึงมากจนไม่เป็นอันทำงานเลยก็ว่าได้ เช่นเดียวกับคนตัวเล็ก ลัลนาเองก็คิดถึงคนเป็นสามี แต่ทว่า
ติ๊ง!
“อ๊ะ!...ของมาส่งแล้วค่ะ พอก่อน” เธอดันปลายคางของคนเป็นสามีออก ก่อนจะลุกไปเอาของหน้าบ้านด้วยความเร่งรีบไม่อยากตรวจแล้วว่าตนนั้นท้องจริงหรือไม่
“เดี๋ยวมานะ” ปุณณกันต์พยักหน้ารับเบา ๆ มองแผ่นหลังบางของภรรยาสาวที่หายเข้าไปในห้องน้ำบริเวณชั้นล่างของบ้าน ก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความหานักศึกษาในความดูแลของเขา
“รินลดา ติดต่ออาจารย์กลับทีครับ” เขาส่งข้อความไปในกลุ่มแอปพลิเคชันไลน์ ที่มีนักศึกษาในที่ปรึกษาของเขาทุกคน แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับทันที
“ใครมีเบอร์ของรินลดารบกวนส่งให้อาจารย์ด้วยนะครับ” ปกติแล้วอาจารย์ต้องแจกเบอร์โทรกับนักศึกษาอยู่แล้ว แต่เพราะเธอไม่เคยโทรมาหาเขาจึงทำให้ไม่มีเบอร์ของเธอเลย
ติ๊ง!
ไม่นานก็มีข้อความจากนักศึกษาคนหนึ่งส่งเข้ามา เป็นหมายเลขโทรศัพท์ คาดว่าน่าจะเป็นเบอร์ของรินลดา
“ขอบคุณครับ”
“ต่อไปนี้ใครมีปัญหาอะไร รบกวนแจ้งอาจารย์ด้วยนะครับ” ชายหนุ่มไม่ลืมส่งข้อความบอกเด็กในที่ปรึกษาคนอื่น ด้วยความที่ตนไม่ได้มีเวลามากนัก ทุกคนก็ต้องแจ้งมาที่เขา ไม่เช่นนั้นก็คงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เดี๋ยวได้คะแนนประเมินไม่ดีอีก
...ขณะที่เขากำลังพิมพ์ข้อความอยู่นั้น ภายในห้องน้ำช่างเงียบเชียบ ลัลนากำลังลุ้นตัวโก่งกับชุดตรวจครรภ์ที่ตนเพิ่งจุ่มลงในน้ำปัสสาวะเมื่อครู่ ซึ่งแถบสีที่ปรากฏนั้น
“สองขีด...” เธอตั้งครรภ์อีกแล้ว