กษิราเลี้ยวหัวรถกลับเข้าบริษัทเมื่อตอนบ่ายสอง เขาแวะส่งโรสิตายังห้างสรรพสินค้าใกล้แหล่งธุรกิจ อารมณ์เขาไม่ดีเอาเสียเลย มันดันคั่งค้างมาจากในร้านอาหารญี่ปุ่นนั่นแหละ โรสิตายังไม่ทำให้เขาถึงฝั่งฝัน ค้างๆคาๆ เพราะน้ำในตัวเขามันยังไม่พุ่งออก...
เป็นเพราะโทรศัพท์เวรนั่นแท้ๆ ทำให้เขาอดรำลึกถึงอดีต เพราะว่าโรสิตาต้องรีบไปพบลูกค้ารายใหญ่เป็นการด่วน สายเรียกเข้านั้นเป็นสายของบิดาเจ้าตัว นัยว่าท่านเกิดอุบัติเหตุขึ้นกะทันหันเลยไปพบลูกค้ารายนี้ไม่ทัน ทั้งที่ดุ้นเนื้อเขาตกอยู่ในอุ้งมือของเจ้าหล่อนแท้ๆ ไม่กี่อึดใจมันจะได้มุดเข้าถ้ำสวาท กลับมาต้องเสียอารมณ์ด้วยเหตุจำเป็น...
เขาเองกะว่าจะออกกำลังกายย่อยอาหารก่อนจะกลับเข้ามาทำงานเสียหน่อย ทุกอย่างกลับพังพินาศในเสี้ยววินาทีเดียวแท้ๆ โรสิตารีบดันดุ้นเขากลับเข้าที่ รูดซิปกางเกงให้เสร็จสรรพ เจ้าหล่อนทำเหมือนก่อนหน้าไม่ได้กำลังเมคเลิฟอยู่กับเขา เธอจัดเสื้อผ้าหน้าผมเข้าที่ แล้วก็บอกให้เขาขับรถมาส่ง...
กษิราก้มมองเป้ากางเกงตัวเอง ลูบไล้มันอย่างนึกสงสาร...
ทันใดนั้นเองสายตาคมกริบของเขา เหลือบแลเห็นแผ่นหลังบอบบางของนวลเนื้อหอมเข้าโดยไม่ตั้งใจ เจ้าหล่อนกำลังเดินเลี้ยวเข้าประตูตึก ชายหนุ่มจึงคลี่ยิ้มออกมาอย่างโล่งอก และแล้วเขาก็หาทางออกให้กับตัวเองอย่างง่ายดาย
นั่นสิ...เขาลืมนวลเนื้อหอมไปได้อย่างไร ทั้งที่เขาลากเจ้าหล่อนมาทำโทษต่อที่ออฟฟิศแท้ๆ
กษิรากดโทรหาหญิงสาว สั่งให้เจ้าหล่อนยืนรอเขาตรงทางเลี้ยว มันมีมุมลับตาคน ถ้าเขาใช้เวลาไม่นาน คงไม่มีใครเห็น... ตอนนี้เขายกให้นวลเนื้อหอมเป็นทั้งทาสกามเป็นทั้งสาวรับใช้ และเขาต้องการเรียกใช้งานเจ้าหล่อนเป็นการด่วน...
ช่วยไม่ได้ ไม่คิดว่าเขาจะมาเกิดอารมณ์ค้างเอาตอนนี้นี่นา...
ทั้งที่ก่อนเจอโรสิตาเขากะเอาไว้ว่า หลังจากพบลูกค้ารายสำคัญเสร็จเขาจะแวะไปผ่อนอารมณ์กับนวลเนื้อหอมสักชั่วโมงยังห้องพักชั้นลอย แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ ค้างคืนที่ออฟฟิศสักคืน พรุ่งนี้ค่อยอนุญาตให้นวลเนื้อหอมกลับเข้าบ้าน...
เขาไม่รู้ล่วงหน้า ลูกค้ารายนั้นจะเป็นโรสิตา เพื่อนสาวคนสนิทตอนเรียนอยู่อเมริกา ของเคยค้าม้าเคยขี่กันอยู่มาพักหนึ่ง...
นวลเนื้อหอมถอนหายใจ เธอจัดการยัดโทรศัพท์มือถือเก็บใส่กระเป๋าสะพาย เดินอารมณ์เศร้ามายังจุดนัดหมาย มองซ้ายมองขวาเธอไม่เห็นใคร จึงเข้าใจได้ว่าทำไมกษิราถึงสั่งให้เธอมายืนรอเขาตรงจุดนี้...
จนเธอหันไปตามเสียงเดิน เป็นกษิรา เขาพุ่งจู่โจมเธอโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง...
“อือ...อะไรกันคะคุณษิรา...อ๊า...เบาหน่อยสิคะ นวลเจ็บ...”
นวลเนื้อหอมถูกดึงเข้าไปสวมกอด กลีบปากนุ่มถูกเขาบดขยี้เข้าหา ทุกการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างตะกละตะกลาม ไร้ซึ่งความอ่อนโยนอย่างที่ควรจะเป็น
หน้าอกหน้าใจเธอยังถูกเขาเคล้นคลึงอย่างหนักมือ ชุดที่สวมถูกดึงรั้งจนแทบขาดติดมือเขา หญิงสาวทั้งเจ็บทั้งตกใจ น้ำตาพานจะปริ่มไหล พอเขาหนักมือขึ้นกว่าเดิม นวลเนื้อหอมหมดความอดทนจึงส่งเสียงร้องประท้วง ให้เขารู้จักเบามือกับร่างกายเธอบ้าง...
ทว่าคนกำลังหน้ามืดไม่มีวันได้ยินเสียงประท้วงนั้นหรอก มีแต่จะเร่งมือให้ตัวเองได้ปลดปล่อยเร็วๆเสียมากกว่า กษิราใช้หัวเข่าดันเรียวขาอ่อนกว้าง พุ่งทะยานปลายนิ้วมือควานหาแหล่งน้ำอันฉ่ำชื่น...
“อะ...อะ...คุณกษิ อย่าค่ะ เดี๋ยวมีพนักงานบริษัทเดินมาเห็นเอานะคะ”
“อยู่เฉยๆเถอะน่า...อย่าทำตัวน่ารำคาญ”
ชายหนุ่มเอ็ดเสียงแข็ง ถาโถมปลายนิ้วมือใส่อย่างเร่งร้อน ถึงนวลเนื้อหอมจะเสียวซ่านขนาดไหน หากหัวใจบอบช้ำกับเหตุการณ์เมื่อสองชั่วก่อนหน้า ไม่อาจทำให้หญิงสาวเกิดความสุขได้เลย...
หญิงสาวผู้น่าสงสารนึกอย่างปลงตก เธอปล่อยให้มือทั้งสองข้างตกอยู่ข้างลำตัว ปล่อยให้ความรู้สึกปวดร้าวกัดกินหัวใจเธอต่อไปเรื่อยๆ ไม่รู้ทำไมกษิราถึงได้เป็นเอาหนักถึงเพียงนี้
เห็นออกไปกับสาวงาม นึกว่าเขาจะไม่กลับเข้ามาบริษัทเสียอีก เธอออกไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยวใกล้ๆกันนี้ กะว่าจะกลับเข้ามานั่งรอเวลาให้ถึงช่วงเย็น แล้วเธอจะนั่งรถโดยสารกลับเข้าบ้าน เริ่มต้นชีวิตสาวใช้ตามอย่างที่เคยเป็นเช่นทุกวัน...
นับวันนวลเนื้อหอมกลับอยากเร่งวันบินกลับเมืองไทยของคุณทั้งสองคน อย่างน้อยๆ ถ้าคุณดิสรณ์หรือคุณรุจีอยู่ในบ้านด้วยกัน กษิราคงยำเกรงไม่กล้าทำตามใจตัวเองอย่างเช่นนี้เลย เขากลัวคุณท่านทั้งสองจะรู้ความลับระหว่างเธอกับเขา จึงไม่กล้าพาตัวเข้ามาวุ่นวายกับเธอนัก เพียงอาทิตย์ละครั้งหรืออย่างมากสุดก็สอง เขาอาศัยช่วงดึกสงัดแอบย่องมาหาเธอ เสร็จธุระเขาก็เร่งกลับขึ้นไปบนตึกใหญ่ ทำเหมือนไม่มีเรื่องราวแสนสุขระหว่างกัน
และเขามักทำตัวเป็นแมวขโมย ลักกินขโมยกิน นับตั้งแต่บินกลับมาจากอเมริกา...
ความจริงถ้าเขาไม่ย้อนกลับเข้ามาออฟฟิศคงน่าจะดีกว่านี้ เธอคงไม่ต้องเจ็บปวดซ้ำๆ หัวใจย่ำแย่หนักกว่าเดิม เพราะการกระทำของกษิราไม่ต่างจากหอกทิ่มแทงความรู้สึก เขากดความเป็นคนของเธอให้ต่ำลงราวกับว่าเธอกลายเป็นตัวอะไรสักอย่างสำหรับเขา คิดอยากจะทำอะไรก็ได้โดยไม่สนเธอนั้นจะเป็นอย่างไร...
กษิราผละห่างความหวาน ชักนิ้วออกจากส่วนอ่อนไหว ยื่นมือไปกดประตูลิฟต์ให้ประตูเลื่อนเปิด จัดการกอดร่างนุ่มหอมละมุนพาเข้ามายืนด้านในด้วยกัน...
“เราไม่เคยเอาในลิฟต์กันเลย ฉันอยากลอง...” กษิราก้มกระซิบบอก แววตาเขาดูซุกซนราวกับเด็กกำลังตื่นเต้นกับของเล่นชิ้นใหม่
ประโยคบอกเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นนั้น กลับยิ่งสร้างความทรมานหัวใจต่อนวลเนื้อหอม เขาอยากลองแต่ไม่เคยถามความเห็นเธอสักครั้งว่าต้องการในสิ่งเดียวกับเขาหรือไม่...
ทุกครั้งยามเขาต้องการ เขาต้องเอาให้ได้...
กษิราโน้มร่างเล็กเข้ามาบดจูบ รู้สึกว่าความหวานนี้ดื่มกินเท่าไรก็ไม่เคยเพียงพอ...
ร่างกลมกลึงถูกผลักเข้าหาผนังลิฟต์เย็นเฉียบ นวลเนื้อหอมสะดุ้งเกร็งร่างเมื่อกษิราไม่รั้งรอ เขาย่อตัวแล้วช้อนข้อพับขาไว้บนลำแขนแข็งแรง ใช้ปลายนิ้วเกี่ยวเอาขอบชั้นในตัวจิ๋วไว้ด้านข้าง ลาวาแห่งรักไหลเยิ้มตั้งแต่อยู่ด้านนอก กษิราเพียงขยับแล้วแอ่นกายเข้าหาแท่งเหล็กร้อนก็สวนแทงเข้ามาเสียงดัง สวบ...
“อร๊าย...อือ...”
นวลเนื้อหอมกรีดเสียงลั่น เธอทั้งเสียวทั้งจุก ร่างงามสั่นสะท้านหวามไหว เธอแหงนใบหน้าระบายความเสียวสยิว ร่องสาวเธอถูกเขาอัดจนมิดทั้งโคน มันยังมีหน้ามาขยับขยายลำตัวให้ใหญ่ขึ้นอีกอย่างน่าตกใจ..
กษิราอ้าปากงับลงบนซอกคอหอมกรุ่น ปลายจมูกโด่งดอมดมกลิ่นสาบสาวด้วยความพึงพอใจ
แท่งเหล็กร้อนของเขาถูกโพรงสาวของนวลเนื้อหอมบีบรัดจนเสียววาบไปทั่วสันหลัง เขากลัวว่าถ้าเขาแช่ไอ้แท่งรักไว้นานๆ มันจะขาดสะบั้นเอาไหมหนอ...
ชายหนุ่มจึงรีบชักออกแต่ไม่สุด ก่อนกระเด้ากลับเข้าไปใหม่ จนกระทั่งอารมณ์พิศวาสกำลังเดินทางมาถึงชั้นปลายสุด ชายหนุ่มจึงเร่งส่งแรงอัดเข้าสู่ทางเชื่อมอย่างสุดเหวี่ยง กระแทกสะโพกหนั่นแน่นตอกเสยเข้าออกเสียงดัง ปรัก ปรัก ปรัก มือหนึ่งคว้าหน้าอกทรงงามไว้แล้วบีบขยำ
ตอนเขาสอดประสานแก่นกายเข้าหาหญิงสาวครั้งแรก กษิรามีแต่ความตื่นเต้นระทึกใจ โดยไม่กลัวประตูลิฟต์จะเปิดให้ได้อาย...
เพราะว่ากษิรารู้ดีว่า...ลิฟต์ตัวนี้เป็นของฝ่ายบริหาร ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น...
---------------------------------------------