4

1193 คำ
4 ฟางหรงได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้ ช่างบาดใจนัก มันเหมือนกับคมมีดกรีดเข้ามากลางใจนาง นางยิ้มเยาะตนเองที่โง่เขลามองคนผิดไปจริง ๆ นางยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด “หากข้ากล่าวปฏิเสธ ท่านแม่ทัพก็ไม่เชื่อข้าอยู่ดี” “เพราะเจ้ามันเป็นคนที่ชอบโกหกหลอกลวงอย่างไรเล่า” เขาประคองถังม่านชิงเอาไว้ เห็นนางร้องไห้เขาก็ปวดใจนัก แต่ทว่าเห็นดวงตาของนางที่มองมา เขาก็รู้สึกหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก “ท่านแม่ขอรับ” จ้าวหย่งเล่อเดินออกมาตามหามารดา เขาจามมาหลายครั้งจนน้ำมูกไหลเยิ้มออกมา นางเห็นลูกชายเป็นเช่นนี้ จึงได้ล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งเช็ดน้ำมูกให้ลูกชาย ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเป็นจ้าวหย่งคังมอบให้นางเองกับมือ หย่งคังเห็นผ้าผืนนั้นจดจำได้ดีในช่วงเวลาที่เขารักนาง แต่ตอนนี้เขากำลังชิงชังนาง เห็นนางกระทำทุกอย่างก็คิดเพียงแค่ว่าเป็นแผนของนางเท่านั้น “พวกเรากลับเรือนกันเถิด อากาศหนาวเช่นนี้อย่าออกมารับไอเย็นเลย ท่านแม่ยิ่งไม่สบายอยู่ด้วย และยังมีคนมาทำให้ท่านแม่กลัดกลุ้มใจอีก” จ้าวหย่งเล่อ นิสัยไม่เหมือนใคร เขาไม่ชอบใครก็มักจะพูดตรง ๆ และการพูดของเขาก็ดูเหมือนจะเหน็บแนมบิดาเข้าให้ หย่งคังเห็นลูกชายเกลียดชังก็นึกโมโหนัก “ข้ารึทำให้แม่เจ้ากลัดกลุ้ม เป็นนางเองที่รังแกชิงเอ๋อร์เพราะความริษยา” “ท่านแม่ทัพอย่าได้ต่อว่าพี่สาวเลยเจ้าค่ะ ข้า...ข้าไม่อยากเห็นพวกท่านทะเลาะกัน” ทีท่าของนางนั้นราวกับลูกแมวน้อยที่หวาดกลัวราชสีห์ จนต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอด นางแอบช้อนสายตาและลอบยิ้มเล็กน้อยก่อนจะจางหายไปทันใด ฟางหรงชะงักงัน ทวนคำพูดของเขาขึ้นมา เป็นนางหรือที่ริษยา เป็นนางหรือที่หาเรื่องสตรีของนาง ที่แท้นางเป็นเพียงแค่ความว่างเปล่า หาใช่สตรีที่เขาดูแลในอ้อมกอดไม่ นางสำเหนียกตนเองได้แล้ว นางยอมแล้ว และจะยอมจริง ๆ “ท่านแม่อย่าไปฟังคำพูดของท่านแม่ทัพเลย” จ้าวหย่งเล่อกล่าวขึ้น แต่ทว่าทำให้ฟางหรงสะท้านไปทั้งตัว “เล่อเอ๋อร์ ห้ามพูดจาเช่นนี้อีกนะ” ฟางหรงนางกำลังกลัวว่าลูกชายของนางจะมีอคติกับบิดา “เป็นแม่ต่างหากที่จิตใจคับแคบ” ฟางหรงไม่รู้จะกล่าวอันใดดี นางอ่อนใจเหลือเกิน เกรงว่าลูกชายจะชิงชังบิดาเข้าไส้ “หาใช่เช่นนั้นไม่ ท่านแม่ของข้าใจดีที่สุด ทำงานตัวเป็นเกลียวขนาดนี้ พักผ่อนก็น้อย ยังดูแลท่านย่าและท่านปู่ ยังดูแลไปถึงบ่าวรับใช้ในจวนนี้ มีแต่ท่านพ่อเท่านั้นที่ตาบอด” หย่งเล่อหาใช่เด็กที่ไร้ความคิด ท่านอาจารย์ยังออกปากชมเชย มิหนำซ้ำยังได้ร่ำเรียนกับองค์ชายทั้งหลายอีกด้วย เขาทั้งฉลาดเฉลียวเก่งกาจ มีแต่คนชื่นชมว่าคิดอ่านนั้นเกินตัวนัก หย่งคังถูกม่านชิงประคองเข้ามายังเรือนนอนของตน เมื่อก้าวเท้าเดินเข้ามาในห้อง ก็พบว่าสาวใช้กำลังยืนรอเขาอยู่ “นายท่าน สำรับได้จัดให้นายท่านกับแม่นางถังอยู่ในห้องนี้แล้วเจ้าค่ะ ส่วนแม่นางถังจะพักในห้องนี้เกรงว่าจะถูกครหา ดังนั้นจึงให้พักยังห้องติดกับฮูหยินใหญ่” “ขอบใจเจ้ามาก เดี๋ยวที่เหลือข้าจัดการเองไปเถอะ ข้าดูแลท่านแม่ทัพได้” ถังม่านชิงกล่าวขึ้นมา แม่ทัพจ้าวมองเห็นอาหารวางอยู่บนโต๊ะ มีแต่ของที่เขาชมชอบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อปลา และไก่ ยังมีน้ำแกงที่เขาชมชอบอีกด้วย เขาชิมน้ำแกงปลาเข้าให้ รสชาตินี้เป็นของฟางหรงที่ทำขึ้นมา เขานึกถึงวันเก่า ๆ นางหอบหิ้วเขาอาหารมาให้เขายังค่ายฝึก ไม่ว่าจะเดินทางไกลสักเพียงใด นางก็หอบของกินมาให้เขา บำรุงเป็นอย่างดี นางตัวเล็ก ๆ เพียงเท่านั้น แต่ถึงเป็นเช่นนั้นเขาเห็นถึงความพยายามของนาง ที่จงใจเอาอกเอาใจเขาสุดตัว ก็เริ่มไม่ชอบใจนางที่เห็นหน้า เข้าให้ คิดเพียงแค่นางจงใจทำทุกอย่างก็เพื่อหวังผลประโยชน์จากเขาและจากตระกูลจ้าวทั้งสิ้น “ท่านพี่ อาหารแม่ครัวที่นี่ช่างอร่อยนัก” ม่านชิงเห็นเขานิ่งค้าง ตะเกียบยังอยู่ในมืออยู่เลย และดูเหมือนว่ากำลังเหม่อลอยชอบกล “หากอร่อยก็กินให้มากเล่า คราวหน้าเอาไว้ ข้าจะสั่งให้แม่ครัวทำให้กับข้าวที่เจ้าชอบให้บ้างดีหรือไม่” หย่งคังกล่าวขึ้นมา รู้สึกว่าเหมือนมีบางอย่างกัดกินก้อนเนื้อหัวใจของเขา มันเจ็บแปลบ ๆ อย่างชอบกลนักและไม่เข้าใจอย่างยิ่ง ว่าเหตุใดเขาจะต้องนึกถึงเรื่องเก่า ๆ อีก “ท่านพี่” ฟางหรงนางจะใช้ความพยายามครั้งสุดท้าย “ข้าเอาขนมหวานมาให้เจ้าค่ะ” นางลืมความโกรธที่มีต่อเขาไปสิ้น นางกำลังทำใจให้เผชิญหน้ากับความจริง “ไม่ต้อง ข้าไม่ชอบของหวาน” น้ำเสียงดุดันนั่นดังกังวานไม่น้อย ขนมของโปรดของเขาแต่ก็เลือกที่จะปฏิเสธความหวังดีของนาง ฟางหรงสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ คล้ายว่าเขากำลังตะคอกนาง “เจ้าค่ะ” ยังไม่ทันจะเดินเข้าไปเสียด้วยซ้ำก็ถูกตวาดออกมาแล้ว ม่านชิงรีบเดินออกมา “พี่สาว ไหน ๆ ท่านก็มาแล้ว มารับอาหารด้วยกันสิเจ้าคะ” คำเสแสร้งนั่น ยิ่งกระตุ้นให้ท่านแม่ทัพมองเห็นความจริงใจของถังม่านชิง เพล้ง! ถาดขนมหวานและถ้วยนั่นตกแตกไม่เหลือชิ้นดี ม่านชิงร้องไห้ขึ้นมา “พี่สาว เหตุใดต้องใจร้ายขนาดนี้ ข้าไม่เคยคิดกับท่านอย่างมีอคติสักนิด แต่เหตุใดจะต้องลงมือทำแบบนี้ด้วย” จ้าวหย่งคังก้าวเท้าออกมา พบว่าขนมนั้นหกเต็มพื้นไปทันใด สาวใช้กำลังจะอ้าปากพูดความจริง แต่ฟางหรงส่ายหน้าให้พวกนางเงียบปากเสีย ถึงอย่างไรสามีของนางก็ไม่เคยเห็นนางมีความจริงใจให้เขาสักนิด “ช่างก่อเรื่องนัก ต่อไปนี้ไม่ต้องมาดูแลข้าอีก ออกไปซะ” เขาเหลือบตามองนางเล็กน้อย เห็นนางสะดุ้งตกใจกับคำพูดของเขา นางห่อตัวลงด้วยความน่าเห็นใจนัก แต่ทว่าในสายตาของเขานางช่างเสแสร้งหลอกลวง นางแสร้งทำเป็นภรรยาที่แสนดี เพื่อทำให้เขากลายเป็นคนโง่เขลาในสายตาคนอื่น เป็นที่หัวเราะขบขันให้ผู้คนในเมืองหลวง “ต่อไปนี้ อย่างไรข้าก็มีชิงเอ๋อร์ดูแล เจ้าไม่ต้องมายุ่มย่ามจัดการอันใดให้ข้าอีก เพราะถึงอย่างไรข้าจะแต่งงานกับนาง” น้ำเสียงของเขายังคงหนักแน่น เหลือบมองนางกำลังเก็บเศษถ้วยที่แตกด้วยมือตนเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม