10
[AMI]
พลาดท่า
ฉันทำอะไรไม่ถูก ถอยหลังออกมาหนึ่งก้าวเพื่อทบทวนทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อคืน... ฉันมีอะไรกับคุณไกด์ ไม่สิ ไม่ใช่ ฉันมีอะไรกับหัวหน้ามาเฟียคู่อริของพี่ชาย!
ภาขวัญส่งฉันให้พี่ชายตัวเองทำไม
ฉันไม่เคยทำอะไรให้เธอเลยนะ ทำไมต้องทำร้ายฉันด้วย!
มืิอฉันสั่นไปหมด พยายามเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่ที่พื้นและหาทางหนี ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว มือถืออยู่ไหนฉันต้องโทรหาลูกน้องพี่เอริค!
"หานี่อยู่สินะ"
ฉันชะงักและค่อยๆหันไปมองที่ประตู จนเห็นร่างสูงสวมสูทเดินควงโทรศัพท์เข้ามา ขณะที่มืออีกข้างของเขาสอดล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างสบายใจ
ทันทีที่ได้สบตาคำว่า 'คุณไกด์' ไม่มีอยู่ในหัวฉันแล้ว สายตาเขาเปลี่ยนไปจากเดิม มองฉันด้วยสายตาเหยียดหยามราวกับฉันเป็นขยะ
"คะ คุณเป็นใครกันแน่ ทำแบบนี้ทำไม"
เขาเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วยิ้มที่มุมปาก
"เมื่อคืนเป็นผัวเธอ แต่ตอนนี้... เป็นคนที่เธอต้องชดใช้"
ฉันรวบผ้าห่มปิดหน้าอกอย่างกระชับ กวาดตามองบอดี้การ์ดที่เดินเข้ามาสมทบทั้งน้ำตา
"ฮึกๆ คุณจะให้ชดใช้เรื่องอะไรคะ เอมิไม่เคยทำอะไรให้คุณ"
"แต่พี่ชายของเธอ จับน้องสาวฉันไป!"
เขาตวาดกร้าวจนฉันถอยหลังหลบ เขาหมายถึงภาขวัญใช่ไหม เข้าใจผิดแน่ๆ ไม่รู้รึไงว่าน้องสาวตัวเองกับพี่ชายฉันรักกัน ภาขวัญต่างหากที่หนีตามพี่เอริค
"สองคนนั้นเขารักกันนะคะ เอมิเจอภาขวัญมา ภาขวัญเป็นคนบอกเอง เธออยู่กับพี่เอริคมีความสุขดี ฮือๆ อย่าทำอะไรเอมิเลยนะ"
เขาจับแก้มฉันหมับแล้วจ้องตาเขม็ง จนฉันกำปมผ้าห่มที่พันตัวแน่น และปล่อยหยาดน้ำตาไหลลงผ่านหางตาอย่างหวาดกลัว
"อย่าไขสือกับฉัน! บอกฉันมาว่าผู้ติดตามของเธออยู่ที่ไหน!"
ฉันส่ายหน้า
"เอมิไม่รู้ อะ เอมิบอกให้เขากลับไปหมดแล้ว"
"โกหก!"
"ไม่ได้โกหกนะคะ ตอนที่คุณเป็นไกด์คุณก็เห็นว่าไม่มีใครติดตามเอมิเลย ปล่อยเอมิไปเถอะนะ"
ตาคู่นั้นมองหน้าฉันด้วยสายตาว่างเปล่า ฉันเดาไม่ออกเลยว่าเขาจะทำอะไรหรือคิดอะไรอยู่ และที่สำคัญฉันคิดหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ ตอนนี้ทุกอย่างมันตันและมืดสนิทไปหมด
"พวกมึงออกไป" เขาออกคำสั่งโดยที่ตายังสะกดฉัน แล้วเมื่อบอดี้การ์ดออกไป มือหนาก็คว้าแขนฉันดึงเข้าไปในห้องน้ำทันที
"ว้าย!"
มือทรงพลังเหวี่ยงฉันไปอยู่ใต้เรนชาวเวอร์ ก่อนจะคว้าฝักบัวมาเปิดน้ำราดตัว
"จะทำอะไรอ่ะ อย่านะคะ เอมิเปียกหมดแล้ว หยุดนะ!"
ฉันทรุดนั่งลงที่มุมห้องน้ำและยกมือบัง น้ำที่เขาเปิดเป็นน้ำเย็นเฉียบจนฉันหนาวสั่น
"เธอไม่บอกฉันก็ได้ แต่จำไว้ว่าฉันเจอตัวพวกมันเมื่อไหร่ ฉันจะตัดหัวพวกมันทุกตัวส่งไปให้พี่ชายเธอ"
ว่าจบเขาก็โยนฝักบัวทิ้งแล้วก้มลงมองฉัน ที่ตอนนี้กำลังกอดตัวเองหนาวสั่นมองหน้าเขาเช่นกัน
"ส่วนเธอ... อย่าสำคัญตัวให้มาก หมดประโยชน์เมื่อไหร่ ฉันไม่เก็บเอาไว้เหมือนกัน"
แล้วมือหนาก็หยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงออกมาเปิดอะไรบางอย่างให้ฉันดู มันเป็นภาพบนเตียงไม่ได้ถ่ายติดส่วนโป๊เปลือย แต่ถ่ายใบหน้าฉันที่หลับอยู่ และที่ทำให้ฉันหายใจไม่ออกน้ำตาเอ่อลงมาจนตาพร่ามัว
แก้มสองข้างของฉัน มันมีคราบน้ำขาวขุ่นที่เขาได้ปล่อยเอาไว้
"กรี๊ดดดดดด ลบเดี๋ยวนี้นะ!"
"พี่ชายเธอต้องเห็นภาพนี้แล้วล่ะ"
"ไม่นะ! ตั้งแต่เจอกันเอมิสงสัยตลอดว่าคุณเป็นคนนิสัยไม่ดีรึเปล่า จนบางครั้งพยายามหาเหตุผลมาหักล้างว่าคุณอาจจะไม่ชอบทำงานนี้ก็เลยปฏิบัติกับเอมิไม่ดี แต่วันนี้เอมิเข้าใจแล้ว คุณคือผู้ชายชั่วช้าสารเลว ไม่มีผู้ชายดีๆที่ไหนเก็บภาพผู้หญิงไว้แบบนั้น!"
เขากระชากแขนฉันแล้วกัดฟันพูดเสียงลอดไรฟัน
"ใช่ ฉันคือผู้ชายชั่ว ไม่เคยอยากให้ใครมองว่าเป็นสุภาพบุรุษ และจำไว้นะ...เมื่อคืนไม่ได้วิเศษสำหรับฉัน!"
"ฮือๆ" ฉันร้องไห้สะอื้นกับความโง่งมของตัวเอง
"ไปใส่เสื้อผ้า เธอมีหน้าที่อีกหลายอย่างที่ต้องทำ"
"ทำอะไร? ไม่มีทางอ่ะ เอมิไม่มีวันนอนกับคุณอีกเด็ดขาด!"
เขาเหยียดยิ้มแล้วจับผมฉันไปทัดหู
"หึ เมื่อคืนสามน้ำฉันก็เบื่อแล้ว..."
ฉันกัดฟันแน่น ทุเรศที่สุด
พอมาเฟียคนนั้นพูดจาทำร้ายฉัน ก็ทิ้งให้ฉันนั่งหนาวสั่นอยู่บนพื้นคนเดียว เขาเดินออกไปจากห้องน้ำพูดคุยกับบอดี้การ์ดตัวเองออกคำสั่งทำอะไรสักอย่าง
แต่นี่เป็นสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตฉันแล้ว
หากย้อนเวลากลับไปได้ ฉันจะไม่มีวันเชื่อใจใครเลย
ฉันค่อยๆลุกขึ้นอย่างยากลำบากแล้วรีบจัดการตัวเอง ร่องรอยต่างๆที่เขาสร้างไว้ยังอยู่ตามเนื้อตัวทุกซอกทุกมุม ดีแล้วล่ะที่เมื่อคืนฉันจำอะไรไม่ค่อยได้ ถ้าจำได้ฉันคงเจ็บใจมากกว่านี้
พอแต่งตัวเสร็จ ฉันก็ปาดน้ำตาที่อยู่ๆไหลลงมาแล้วเดินออกไปเผชิญหน้ากับความจริง เขาคนนั้นนั่งไขว่ห้างรอที่โซฟาและเคาะนิ้วชี้ที่พนักวางแขน ข้างๆมีบอดี้การ์ดยืนคุ้มกันสี่คน และใช่...ฉันจำได้ สองในสี่เป็นคู่นอนของตังเมกับปิ๊ง
"ละ แล้วเพื่อนเอมิล่ะคะ"
"หมายถึงฉันรึเปล่า?" ฉันหันขวับไปมองที่ประตู ตังเมเดินยิ้มเข้ามาอย่างสบายใจ มีแต่ฉันคนเดียวที่มือสั่นตกใจกับสิ่งที่รับรู้
"เพื่อนเธอ คือคนของฉัน"
"ไม่จริง จะเป็นไปได้ยังไง!"
"เป็นไปได้ โทรศัพท์เธอถูกดักฟังตั้งแต่โทรหาฉัน และฉันก็รู้ว่าเธอนัดใครบ้าง แค่รอจับขังและให้คนของฉันสวมรอย ยากตรงไหน?" ริมฝีปากฉันเม้มแน่นเข้าหากัน โกรธตัวเองที่ไม่ทันเกมของผู้ชายคนนี้ และเสียใจที่ไว้ใจคนผิด
จนเขาลุกขึ้นเดินมาหาช้าๆ ซ้ำเติมฉันด้วยคำพูด
"โง่ดีนะ น้องสาวผู้ก่อการร้ายต้องฉลาดกว่านี้สิ"
ใครคือผู้ก่อการร้าย? เขาพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ หมายถึงพี่ชายฉันเหรอ?!
"พี่เอริคเป็นมาเฟีย เขาไม่ทำเรื่องสกปรกๆเหมือนคุณหรอกนะคะ"
"เหอะๆ เธอโดนพี่ชายหลอกแล้วล่ะ พี่ชายเธอเป็นผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ วางระเบิดฆ่าคนบริสุทธิ์ และตอนนี้มันก็จับน้องสาวฉันเป็นตัวประกันเพื่อสัญญาอาวุธ!"
มันไม่ใช่ความจริง พี่ชายฉันเป็นคนดีไม่มีวันทำอะไรแบบนั้น ฉันกำมือแน่นมองหน้าเขากลับ ต่อให้พูดจนปากฉีกฉันก็ไม่มีวันเชื่อ
"พี่เอริคไม่เคยทำร้ายใครก่อน"
"แล้วแต่จะคิด เฮ้ย! พาตัวยัยนี่ไปขึ้นรถ กูจะพากลับกรุงเทพ"
"ครับนาย"
ฉันถูกล็อกแขนดึงออกมาจากห้อง แต่เมื่อตาเหลือบไปมองหน้าตังเมตัวปลอมก็นึกอะไรได้ขึ้นมา ถ้ามีแค่ตังเมเป็นตัวปลอมแล้วปิ๊งล่ะ ป่านนี้เป็นยังไงบ้าง? แล้วตังเมตัวจริงไปไหน!
"เดี๋ยวค่ะ เพื่อนเอมิอยู่ไหนคะ คุณต้องปล่อยตัวเพื่อนเอมิก่อน พวกเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ แล้วปิ๊งล่ะ? เมื่อคืนเธอออกไปกับลูกน้องของคุณไม่ใช่เหรอ?!"
เขาไม่สนใจคำถามฉัน จนบอดี้การ์ดหันมาตอบแทน
"คุณปิ๊งปลอดภัยดีตอนนี้เธอยังไม่ฟื้น ส่วนคุณตังเมตัวจริง เราจะปล่อยเธอหลังจากที่คุณอยู่ในรังมังกรครับ"
อะไรนะ...
นี่ฉันไม่มีโอกาสเจอเพื่อนและขอโทษพวกเธอเลยใช่ไหม แต่นั่นเป็นสิ่งที่ฉันเรียกร้องไม่ได้ พอออกจากห้องพักฉันก็ถูกลากลงไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว โดยที่พนักงานของโรงแรมทำอะไรไม่ได้เลย
และที่แย่ไปกว่านั้น ฉันแอบเห็นลูกน้องพี่เอริคข้างล่างกำลังออกมาจากห้องอาหาร พวกเขาตกใจแทบจะคว้าปืนที่เหน็บในเสื้อ แต่ฉันต้องแอบส่ายหน้าปราม
ไม่ได้ สู้ไปก็มีแต่ตาย ส่งข่าวบอกพี่ชายฉันก็พอ ฉันจะพยายามมีชีวิตรอดจนกว่าพี่เอริคจะมาช่วย
พอประตูรถปิด รถตู้คันหรูก็ขับมุ่งหน้าไปสนามบินส่งฉันขึ้นเครื่องบินเจ็ตที่มีสัญลักษณ์ของมังกรข้างลำ น้ำตาฉันไหลตลอดทาง พยายามที่จะปาดออกและเข้มแข็ง แต่ฉันก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และรักชีวิตตัวเอง
แล้วเมื่อฉันถูกพาขึ้นมานั่งบนเครื่องและรัดเข็มขัดนิรภัย หัวหน้ามาเฟียคนนั้นก็ขึ้นมานั่งฝั่งตรงข้ามและมีแอร์โฮสเตสมารินวิสกี้ใส่แก้วให้
โดยที่เขามองฉันด้วยสายตาราบเรียบ
"การต่อรองจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้" ฉันสะบัดหน้ามองไปทางอื่น
"ฉันไม่เก็บเธอไว้ให้เปลืองข้าวที่บ้านหรอก พี่ชายเธอต้องคืนน้องสาวฉันมา ส่วนเธอก็กลับไปหาพี่ชายของเธอซะ"
เขาพูดจบก็ยกวิสกี้ดื่ม ฉันไม่น่านอนกับเขาเลย ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นจะไม่ว่าอะไรสักคำ เสียๆไปแล้วก็แล้วไป แต่เขาคือศัตรูหมายเลขหนึ่งของพี่ชายฉัน ฉันไม่เคยรู้สึกเสียศักดิ์ศรีเท่านี้มาก่อน
ฉันจึงกัดฟันหันไปพูดกับเขา
"และสำหรับเรา... ถือว่าเรื่องเมื่อคืนมันไม่เคยเกิดขึ้น"
"หึ ฉันไม่จำอยู่แล้ว"
ดี ดีมากๆ มันควรเป็นแบบนั้น
ถึงจะคิดอย่างที่บอกแต่ริมฝีปากฉันสั่นระริก และตอนนี้ก้อนสะอื้นก้อนใหญ่ก็ย้ายมาจุกอยู่ที่คอ ฉันพยายามกลืนมันครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนกับพยายามให้ตัวเองลืมเรื่องเมื่อคืน
ลืมเถอะนะเอมิ... ลืมซะ คิดซะว่าเมื่อคืนเธอนอนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่เขา