ตอนที่ 2 เมียที่ไม่ถูกเลือก
ทั้งที่ไม่ควรสนใจแต่พอได้ยินข่าวว่าสามีถูกดักโจมตีกลับร้อนรนอยู่ไม่ได้ เธอรู้ว่าเขาเป็นทายาทตระกูลดังมีศัตรูอยู่ทั่วทุกหนแห่ง มีคนมาบอกเธอว่าพวกนักเลงยกพวกไปถล่มผับที่พันแสนดูแลอยู่ เธอเป็นลูกคุณไม่เคยนั่งรถแท็กซี่แต่พอได้ยินว่าสามีอยู่ในอันตรายไม่รีรอที่จะหย่อนกายลงบนรถแท็กซี่ที่ไม่เคยอยากเจียดกายเข้ามาใกล้
พอมาถึงเห็นผู้คนวิ่งกันออกมาเหมือนผึ้งแตกรังเธอคงเป็นคนเดียวที่พยายามวิ่งเบียดเข้าไปด้วยความร้อนใจ เป็นห่วงกลัวว่าเขาจะได้รับอันตราย
“อ้าว! เมียมันนี่หว่า”
ขาเรียวชะงักกึกยังไปไม่ถึงไหนก็เจอเข้ากับผู้ชายหน้าบากคนหนึ่งมองมาที่เธอด้วยสายตาน่ากลัว จากที่ต้องเดินไปข้างหน้า ท่ามกลางผู้คนมากมายเธอค่อย ๆ ก้าวถอยหลังอย่างหวาดกลัว ปืนสีดำในมือผู้ชายหน้าบากคนนี้มันทำเอาหัวใจดวงน้อยสั่นไหวอย่างหนัก
“โผล่มาได้จังหวะพอดี!”
“อย่าเข้ามา กรี๊ด! ปล่อย!”
จะสู้ไหวได้ยังไงแค่มันออกแรงกระตุกแขนเธอก็เซถลาไปหามันแล้ว เธอไม่ได้อยากมาเป็นภาระของเขา แต่ตอนนี้ไม่ทันแล้ว จนตอนนี้ลูกค้าออกไปจนหมดเธอถูกจับเป็นตัวประกัน นอกจากปืนก็มีมีดจี้อยู่ที่คอ ด้านบนชั้นสองตรงระเบียงเธอเห็นสามีมองมาด้วยสายตาว่างเปล่า แต่เอาจริงเขาอาจกำลังตำหนิเธอก็ได้
“พันแสนรอยแผลเป็นที่หน้ากูมึงฝากไว้จำได้ไหม ตอนนี้กูจะฝากที่หน้าเมียมึงคืน!”
“!!!” หูมันอื้อดับในตอนที่หันหน้าไปเห็นผู้หญิงคนนั้นถูกพวกเดียวกันกับที่จับตัวเธอจับไว้อยู่ เลขาฯ ที่เขารับมาทำงานใน 2 ปีหลัง เลขาฯ ที่ผู้หญิงมองกันออกว่ามีความรู้สึกมากกว่าเจ้านายและลูกน้อง
“อย่าขู่เมียกูเลย รายนั้นน่ะแม้แต่เอามีดจี้คอตัวเองยังไม่กลัวเลย ใช่ไหมคุณเมีย” แสยะยิ้มร้ายกาจ
เวียงพิงค์ค่อย ๆ ตวัดสายตาสั่นระริกไปมองคนพูด ขบเม้มริมฝีปากที่มันสั่น เขาหมายความว่าเธอไม่กลัวมีดที่กำลังจี้อยู่ที่คอหอยสินะ บ้าปะ!
พันแสนมองเห็นแววตาหวาดกลัว ผิดหวัง เจ็บปวด มองมายังเขา วันนี้เขาพลาดตรงที่ถูกสับขาหลอกเปลี่ยนลูกน้องเซตใหม่ดูแลข้างหน้าร้าน ทำให้เกิดเหตุการณพวกนี้ขึ้น พวกนั้นไม่รู้ว่าอริเขาคือใคร ทำให้ไอ้ ‘สมิง’ มันยกพวกเข้ามาเล่นงานที่นี่ได้ ที่น่าหงุดหงิดไปกว่านั้นคือมีตัวปัญหาโผล่เข้ามา ทุกอย่างยิ่งจัดการยากขึ้นไปอีก
“วันนี้กูพอใจแล้ว มึงขาดทุน ชื่อเสียงผับมึงป่นปี้ แถมยังจับผู้หญิงทั้งสองของมึงได้ ไอ้เหี้ยพันแสนกูมีข้อเสนอให้มึง” สมิง อดีตมือซ้ายที่ผันตัวมาเป็นคนหักหลังอย่างโจ่งแจ้งเอ่ยขึ้นเสียงดัง ก่อนจะดึงตัวผู้หญิงของมันทั้งสองเข้าหาตัว “ข้อเสนอจากเพื่อนรักของมึง ซ้ายกับขวามึงเลือกไปได้แค่หนึ่งคน”
พันแสนมองดูการกระทำของคนตรงหน้า แต่ที่แปลกไปก็คือเมียเขาถ้าปกติจะโวยวายแต่ตอนนี้เวียงพิงค์ทำเพียงร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ
หึ กลัวเป็นด้วยเหรอ...
“ไม่เลือก งั้นกูเก็บไปทำปุ๋ยทั้งสอง”
“ซ้าย”
มีนาสะดุ้งเฮือกตอนที่ถูกปล่อยตัวจนร่วงไปนั่งแหมะกับพื้น เธอคือคนที่พันแสนเลือก ไม่ใช่ภรรยาจอมร้ายกาจอย่างคุณหนูเวียงพิงค์งั้นเหรอ นั่งได้ไม่นานก็มีคนวิ่งมาช่วยพยุงเธอขึ้น ก่อนที่จะได้หันไปมองคนที่ไม่ถูกเลือกหัวใจเจ้ากรรมกลับเต้นจังหวะผิดแปลกเงยหน้าไปมองคนด้านบนก่อนจะค่อย ๆ ละสายตาไปมองคนถูกลากออกไปจากผับ
“ส่งคนไปช่วยไหมครับ” เรียวตะเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ไม่ต้อง จากที่กูรู้จักมันมา มันไม่ทำร้ายผู้หญิง”
“แบบนั้นคุณเวียงจะเข้าใจนายผิดนะครับ”
“กูต้องสนด้วยเหรอ ดีสิ จะได้หย่าให้กูสักที เบื่อขี้หน้า ถ้าให้ดีฝากมันเก็บตายยายนั่นแทนกูจะส่งกระเช้าไปขอบคุณ”
มีนาเดินขึ้นมาทันได้ยินประโยคนั้นพอดี รีบเก็บอาการก่อนจะตรงเข้าไปค้อมศีรษะยอมรับผิด ไม่ระวังตัวจนโดนพวกนั้นจับไปเป็นเป้าล่อให้นายตัดสินใจ
“ขอโทษที่ดิฉันไม่ระวังตัวนะคะนาย”
“เตรียมปิดข่าว”
พูดจบก็เดินออกไปจากตรงนั้น ไม่ได้เจาะจงว่าบอกใคร แต่รู้ดีว่าการมาของไอ้สมิงในครั้งนี้ก็เพื่อทำให้ชื่อเสียงธุรกิจของเขาย่อยยับ ซึ่งหมาลอบกัดอย่างมันทำได้ดีอยู่แล้ว
อีกด้านคนที่ถูกจับมานั่งเหมือนเหม่อลอย ยกมือขึ้นมาจับกันไว้แน่น ริมฝีปากสั่นระริกตาเลื่อนลอยเจ็บที่ถูกลากไม่เท่าหัวใจแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ จากที่ร้าวมานาน เหมือนจะหลงลืมไปด้วยซ้ำว่าโดนจับตัวมา หูคงดับตั้งแต่ได้ยินว่าเขาเลือกช่วยเลขาฯ ของเขาไม่ใช่เมียแต่งอย่างเธอ
“เธอนี่มันน่าสมเพชยังไงก็ยังงั้น”
“…”
สมิงมองคนนั่งตัวสั่นอยู่บนรถเขาด้วยแววตาสมเพชเหมือนที่ปากพูด เขารู้ดีว่าความรู้สึกของคนโดนหลอกใช้มันเจ็บปวดเจียนตาย แต่ผู้หญิงคนนี้หนักกว่าก็ตรงที่ยอมรับว่ารักคนที่หลอกลวงตัวเอง คิดว่าจะกลับไปหวานชื่นได้เหมือนตอนที่ไอ้นั่นเข้ามาหลอกเพื่อของที่อยากได้สินะ ฝันเฟื่อง!
“สิ้นคิด ดูด้วยว่ามันจะเป็นจะตายหรือเปล่าตอนเธอถูกฉันจับตัวมา ทั้งที่ฉันอาจฆ่าเธอจริง ๆ ก็ได้ มันมีค่าพอให้เธอรักเหรอน้ำหน้าอย่างมัน!”
“ไม่!”
นัยน์ตาแดงก่ำค่อย ๆ หันไปมองคนที่อยู่ด้านข้าง เธอพึ่งหาเสียงตัวเองเจอ รู้ว่าเขาไม่รักแต่ไม่คิดว่าเขาจะไม่รักขนาดนี้ รู้ว่าเขาไม่แคร์ไม่ห่วงแต่เลือกช่วยคนอื่นทั้งที่ช่วยเธอได้มันเกินไปไหม ผู้ชายที่ไม่เห็นค่าเธอทำไมเธอต้องเอาแต่หลงรักหัวปรักหัวปรำ เธอจุก เธอเจ็บ ร้าวระบมไปทั้งหัวใจและความรู้สึก ไม่ว่าจะคิดเหตุผลไหนก็มีเพียงคำว่า ‘ไม่รัก’ เป็นเหตุผลแสนหนักแน่นที่เขาเลือกไม่ช่วยเธอ
“หึ ก็นับว่าไม่โง่เกินไป อย่าปากเก่งแค่ตอนโกรธแล้วกันล่ะ”
“เอายังไงกับมันดีครับ” ลูกน้องเอ่ยถาม
“ปล่อยมันลงตรงนี้ กูไม่เคยทำร้ายเพศแม่ตัวเอง” สมิงเอ่ยออกมาก่อนจะหลับตาลง รับรู้ถึงแรงอาฆาตส่งมาจากคนด้านข้าง “หรืออยากไปกับฉัน” ไม่ได้หันไปมองเพียงเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ
“ไม่” เธอยอมลงกลางทาง แถมยังมืดสนิท ถ้าสามีเธอยังเป็นคนอาจส่งคนตามมาช่วยเธอแล้วก็ได้ ถ้ามีหวังแค่เพียงริบหรี่ว่าเขาอาจมีความรู้สึกดี ๆ ให้เธอสักเล็กน้อย เธอก็อยากหวัง
รถคันใหญ่จอดยังไม่สนิทร่างบางก็ถูกผลักลงมาเซล้มกระแทกไปกับพื้นหญ้าข้างทาง ทำเอาจุกจนพูดไม่ออก นึกว่าตัวเองเก่ง แต่พอเจอกับเส้นทางมืด ๆ มองไปไม่เห็นอะไรน้ำตากลับไหลลงมาอาบแก้ม เจ็บข้อเท้าจนเบ้หน้า เจ็บที่สะโพกจนพูดไม่ออกในตอนนั้น นอนแผ่หลาไปกับพื้นหญ้าไม่รู้ว่ามีขี้หมาไหมด้วยซ้ำ เพราะมันเจ็บจนไม่สามารถยันตัวไว้ได้ แค่จะเปล่งเสียงด่าเจ้าของการกระทำหยาบ ๆ เธอยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“ฮรึก” สะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวด ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาตามหางตา ใบหน้าแนบไปกับพื้นดิน สิ่งที่มองเห็นคือหมู่ดาวบนท้องฟ้า ขนาดรถผ่านไปมายังไม่มี นี่มันชะตากรรมแบบใดกันหนอ
นอนไปสักพักอาการจุกเสียดเหมือนจะดีขึ้นร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้ง คว้าโทรศัพท์ขึ้นมานั่นคือความหวังสุดท้าย แบตหนึ่งเปอร์เซ็นต์กับการกดโทรหาสามีหนึ่งครั้ง วัดดวง วัดใจ ขอวัดความรักอันน้อยนิดที่คิดมาตลอดว่าเขาอาจมีให้กันบ้าง...
ตื๊ด...ติ๊ด! โทรติดแค่ตื๊ดเดียวแต่กลับโดนตัดสาย เหมือนกับความรู้สึกที่มันขาดสะบั้นไปพร้อมกับสายที่โดนตัด มองหน้าจอแน่นิ่งไม่ถึงหนึ่งนาทีหน้าจอก็ดับวูบไป สรุปแล้วชีวิตอีเวียงก็มีแค่นี้ ค่อย ๆ ล้มตัวลงไปนอนกับพื้นหญ้าข้างทาง ทั้งที่ควรกลัวแต่ตอนนี้เธอเสียใจจนบรรยายออกมาไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันเจ็บปวดที่ตรงไหนกันแน่ อยากกรีดร้องออกมาให้สุดเสียงแต่กลัวเจอโจรซวยซ้ำซวยซ้อนไปอีก
“ฮรือ ๆ พ่อขา พ่ออยู่ไหน ฮรือ ๆ”
ใครจะกลั้นไหว เธอก็คนมีความรู้สึก เจ็บฉิบหาย เจ็บที่กายยังไม่เท่าเจ็บตอนที่นึกถึงใบหน้าแสนเย็นชาตอนเขาเอ่ยวาจาเลือกเลขาฯ ของเขา ไม่ใช่เธอ...เวียงพิงค์