ตอนที่ 6 เผาพริกเผาเกลือ

1516 คำ
ตอนที่ 6 เผาพริกเผาเกลือ บรรดาคนสวนและสาวรับใช้ไม่เว้นแม้แต่บอดี้การ์ดยืนประจำจุดในบ้านต่างวิ่งมายังจุดที่กำลังก่อเกิดควันดำลอยคละคลุ้งขึ้นสู่อากาศในตอนเย็น จากบรรยากาศกำลังดีกลายเป็นมีกลิ่นฉุนลอยมาเตะจมูก “กะ...เกิดอะไรขึ้นคะป้า” ชมพูเห็นสาเหตุที่มีควันดำลอยคลุ้งแล้ว หันไปมองหัวหน้าแม่บ้านด้วยสายตาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น “หรือว่าเรื่องคุณเลขาฯ จะเป็นจริง” ป้าแย้มหันไปจับมือสาวใช้รุ่นลูกแววตาหวาดหวั่น คุณหนูเวียงพิงค์ขึ้นชื่อว่ารักมั่นต่อสามีมาก ต่อให้มีอารมณ์ร้ายไม่น่าคบค้าสมาคมแต่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ศรัทธาในรักเดียว ไม่วอกแวกมีแต่สามีอย่างนายพันแสนเรื่อยมา แต่วันนี้กำลังทิ้งแม้แต่รูปแต่งงานลงกองไฟ ไม่พอเสื้อผ้าที่เจ้าตัวเคยซื้อให้สามีก็ถูกทยอยทิ้งลงไปเผาในกองเพลิง มือเรียวขาวสะอาดยกรูปภาพสี่เหลี่ยมขึ้นมามองดูนิ่ง ๆ มันเป็นภาพที่มีอยู่แทบทุกมุมบ้าน เขาไม่ชอบ แต่เธอชอบ เว้าวอนให้ช่างมาติดให้ แต่ตอนนี้กำลังอยู่ในมือเธอต่อหน้ากองเพลิงที่กำลังลุกโชน เผาไปแล้วก็ถือว่าเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะนะเวียงพิงค์ เธอยังมีธุรกิจของพ่อที่ต้องเอากลับคืนมา ท่านร่วมสร้างมากับมารดาด้วยสองมือทำไมต้องยกให้ลูกเขยสารเลวด้วย ส่วนใบหย่า...อยากได้ก็ไม่ให้หรอก จนกว่าเธอจะได้ทุกอย่างกลับคืนมา “กรี๊ดด คุณหนูอย่านะคะ!” ป้าแย้มวิ่งเข้ามาแย่งรูปถ่ายเอาไปถือไว้ คู่รักที่ไหนมายืนเผารูปแต่งงาน ไม่เป็นมงคลเอาเสียเลย “คุณหนูเวียงใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ” “ถ้าป้าไม่เอามาฉันจะไล่ป้าออก ไม่เผาพริกเผาเกลือก็ดีแค่ไหนแล้ว ชั่วขนาดนั้น” “เอ่อ...” ป้าแย้มอึ้งงันไม่เคยได้ยินภรรยาแสนรักผัวด่าทอได้หยาบคายขนาดนี้มาก่อน แล้วใครจะกล้าขัด ไม่รู้ฤทธิ์ลูกสาวเดียวพ่อรวยหรือยังไงกัน สุดท้ายป้าแย้มก็ยื่นรูปถ่ายตอนแต่งงานให้กับคุณหนูเวียงพิงค์ “ใจเย็นนะคะ ไม่สามารถเอาคืนมาได้แล้วนะคะ” เวียงพิงค์แค่ตวัดสายตาไปมองหัวหน้าแม่บ้านก็ถอยกรูดแล้ว รับรู้ถึงสายตาคู่หนึ่งมองมาจากทิศทางที่สูงกว่า หล่อนหันไปมองทิศทางห้องทำงานของสามีเลวจึงเห็นว่าเขามองมาด้วยสายตาเรียบนิ่ง ด้านข้างมีมือขวาแสนร้ายกาจของเขายืนเคียงข้าง มือหนึ่งข้างหิ้วกรอบรูปยื่นออกไปตรงกองเพลิงสายตายังสบประสานกับคนเป็นสามี มีสาวใช้และคนสวนรวมถึงบอดี้การ์ดต่างลุ้นจนเหงื่อตกว่าคุณหนูของบ้านจะกล้าปล่อยมือไหม และใช่! รูปคู่วันแต่งงานหล่นลงในกองเพลิงเรียบร้อยแล้ว อเมซิ่งมาก! หัวคิ้วข้างขวาของพันแสนกระตุกถี่ ๆ มองคนที่กำลังจ้องมองมาที่เขาไม่วางตา เขาไม่ได้รู้สึกเสียดายรูปงานแต่งที่ไม่ได้อยากแต่งอยู่แล้ว แต่การกระทำต่อมาของเวียงพิงค์มันทำให้เขาต้องขบกรามแน่น “ยายนั่น!” เรียวตะสบถออกมาไม่ต่างกัน ไม่คาดคิดว่าจะใจกล้าถึงเพียงนี้ ส่วนภริยาคนสวยทำอะไรนั่นเหรอ ก็แค่ยกนิ้วกลางชูให้สามีสุดที่รักก่อนจะแย้มยิ้มสรวลเหมือนคนสิ้นสติไปแล้ว สองหนุ่มมองตามร่างอรชรจนก้าวพ้นขอบประตูรั้วบ้านไป เรียวตะเหลือบตามองเจ้านายมุมปากแสยะยิ้ม ขนาดเขายังคาดไม่ถึงเจ้านายก็คือช็อกไม่ต่างกัน ใครบ้างไม่รู้ว่าเวียงพิงค์รักเจ้านายเขาแค่ไหน รักจนแทบจะถวายชีวิต บูชาความรักเหนือสิ่งอื่นใด การกระทำในวันนี้เลยน่าตกใจจริง ๆ อะไรทำให้หญิงสาวลุกขึ้นมาต่อต้านเจ้านายเขา หรือว่าเสียใจจนสมองไหลกลับเข้าหัวหลังจากที่ในหัวว่างเปล่ามานานแล้ว... “ให้ตามมาลงโทษไหมครับ” “กูไม่อยากเห็นหน้ายายนั่น” ตอบด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว มีอย่างที่ไหนเกิดมาไม่เคยมีใครทำกับเขาแบบนี้ ต้องโดนลงโทษซะให้เข็ด! “ครับ” “เรื่องก่อตั้งโรงแรมใหม่ไปถึงไหนแล้ว ถ้าคนงานไม่พอมึงรู้ใช่ไหมว่าพวกไม่ใช้หนี้ตามสัญญาจะทำยังไงกับมัน” “ครับนาย” “เพียงรักอยู่ไหน?” “ฝึกสอนอยู่บนเกาะครับ ช่วงนี้รับบอดี้การ์ดหญิงมาใหม่ คุณหนูลงมือสอนเอง” “คิดว่าจะรู้เรื่องนี้ไหม?” “ไม่พ้นสายตาเหมือนเหยี่ยวคู่นั้นหรอกครับ อยู่ที่ว่าจะมาที่นี่เมื่อไหร่เดาใจไม่ออกเลย และนี่คือหลักฐานเรื่องเมื่อคืน ไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกจากเรื่องชู้สาว มีนาวางแผนวางยาเองทุกอย่างครับ ไม่แปลกที่เราไม่สงสัยเพราะมีนาทำงานกับเรามานานไม่เคยเผยทีท่า ไม่คิดว่าความจริงแล้วจะแอบชอบนายมานาน” “กูปวดหัว” “ยังไงก็เป็นลูกสาวคนที่เคยเอาชีวิตมาทิ้งเพื่อช่วยกู” “ต้องทำยังไงครับ” “ยื่นข้อเสนอให้หล่อนหนีไปอยู่ต่างประเทศ อย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก” “ต้องให้เธอไปอธิบายกับคุณเวียงไหมครับ” พันแสนเงยหน้าขึ้นมองมือขวาของตัวเอง ทำไมเขาต้องไปอธิบายให้ยายนั่นฟัง ยังไงเป้าหมายก็คือใบหย่า หล่อนเชื่อแบบนั้นตลอดไปยิ่งดี ทนไม่ไหวเมื่อไหร่เขาก็จะได้อิสระกลับคืนมา อีกอย่างหนึ่งเขาจะทำอะไรก็ได้ในเมื่อเขาชัดเจนมานานแล้วว่าไม่ได้รัก หมดรัก เบื่อขี้หน้า ไม่อยากมีเมียชื่อเวียงพิงค์ ไม่อยากหายใจร่วมบ้าน แต่ถามว่าทำไมเขาไม่ส่งหล่อนไปคุยกับยมบาลเพราะการตายง่ายไปมันไม่สาแก่ใจเขากับสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้เคยทำไว้ไงล่ะ @ไนต์คลับ สถานที่อโคจรหนึ่งในธุรกิจหลักของพันแสน ทำเงินได้เยอะ เป็นสถานที่หย่อนใจ อายุยังไม่ถึงเลขสามแต่เครียดกับชีวิตเป็นบ้า เพราะมีเมียไม่เกินจริง เมียคือตัวแปรหลัก ถ้าไม่อยากแก้แค้นเขาไม่มีทางเอาตัวเองไปพัวพันกับความสัมพันธ์แสนยุ่งเหยิงแบบนี้หรอก “จะหย่ากี่โมง กูเห็นมึงพูดมาสองปีแล้ว” ขุนพัน หนึ่งในลูกชายเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ มีชื่อเสียงในแวดวงบันเทิง เป็นนักธุรกิจหนุ่มซึ่งถูกจับตามองมาตั้งแต่เด็กเพราะมีบิดาเป็นใบเบิกทาง หนึ่งในเพื่อนรักของพันแสน นิสัยเหมือนกันเลยคบค้าสมาคมกันได้ หมายถึง เลว... คนที่เอาแต่ยกเหล้าขึ้นจิบปรายตามองเพื่อนเล็กน้อย เขาไม่ได้กดดันให้ผู้หญิงคนนั้นหย่าให้ตรงไหน แต่ผู้หญิงอะไรถึกทนไม่ยอมรับความจริง ไม่รักยังหลอกตัวเองว่าเขารัก “เหลือวิธีเดียว” พันแสนเอ่ยออกไปเบา ๆ เป็นวิธีสุดท้ายถ้าเมียแต่งไม่ยอมหย่าให้ ในเมื่อพินอบพิเทาแล้วได้ใจเขาก็จะงัดวิธีสุดท้ายขึ้นมาขู่ “กูรอมึงทำ กูจะทำด้วย” ลี นักธุรกิจหนุ่มส่งออกเครื่องประดับรายใหญ่ของไทยเอ่ยขึ้นบ้าง “กูเหนื่อยกับพวกมีเมีย” ขุนพันแสยะยิ้ม ความจริงคือเพื่อนทั้งสองแต่งงานไปแล้ว แต่พวกมันไม่ชอบขี้หน้าเมียทั้งคู่ พันแสนแต่งเพราะอยากแก้แค้นแทนผู้หญิงที่มันรัก ส่วนไอ้ลีแต่งเพราะครอบครัวบังคับให้รับผิดชอบสาวที่มันไปเจาะไข่แดงยอมแต่งแล้วรอคอยเวลาหย่าแต่ก็ใช้ชีวิตอย่างกล้ำกลืน ทั้งสองคนมันจะหย่าได้ก็ต่อเมื่อผู้หญิงตกลงหย่าให้ สภาพก็แบบที่เห็น ดีแล้วที่เขาไม่หาเหาใส่หัวตัวเอง “เมื่อวานมีนาจัดฉากนอนบนเตียงกับกูแล้วเวียงมาเจอเข้า” “ฮะ!” ขุนพันตาเบิกกว้างเตรียมส่งข้าวของเครื่องใช้ในบ้านไปช่วยเหลือเพื่อนเป็นการด่วน แค่หึงยังสั่งลื้อสระหน้าบ้าน นี่เล่นนอนกับผู้หญิงไม่รู้ว่าป่านนี้บ้านไอ้พันแสนไฟไหม้ไปแล้วหรือยัง ลีหันไปมองด้วยความสนใจ เพราะแครักเตอร์นิ่ง ๆ ค่อนข้างไปทางเย็นชา สนใจแต่ไม่ได้ออกหน้าออกตา ว่าจะเก็บรายละเอียดไปหาเรื่องเมียบ้าง จ้างหย่าก็ไม่เอาเงิน ปวดสมอง! “เกินคาด ไม่โวยวาย ไม่พังข้าวของ ไม่กรีดร้องเหมือนคนเสียสติ ก็แค่เอารูปแต่งงานไปเผายกนิ้วกลางใส่กู” “ฮ่า ๆ แม่งอย่างเอา” ขุนพันกลั้วหัวเราะออกมาหลังฟังจบแต่พอหันไปเจอหน้าเพื่อนจึงได้แต่หุบยิ้มลง “นั่นหมายความว่ายอมหย่าให้แล้ว?” ลีถาม ถ้าวิธีนี้ได้ผลเขาอาจทำ “ถ้าหย่าให้จริงกูจะบวชให้ด้วย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม