“พี่เมฆจะจัดการยังไงคะ แก้วตาว่า ช่างมันเถอะค่ะ รวีใส่ก็ดีแล้ว เผื่อรวีจะได้เจอคนดีๆ คนรวยๆ อย่างที่รวีตั้งใจ จะว่าไปงานนี้ถือเป็นโอกาสเดียวที่รวีจะสุขสมหวังค่ะ ปล่อยรวีไปนะคะ แก้วตาสงสาร”
แก้วตาทำตัวราวกับเป็นนางฟ้านางสวรรค์ เปี่ยมล้นไปด้วยความดีและน้ำใจ เมฆาได้ยินแล้วยิ่งแค้นณัฐรวีมากขึ้นที่มาแย่งชิงความโดดเด่นจากแก้วตาไปซึ่งหน้า
“แก้วตาลืมไปแล้วเหรอว่า แม่ของรวีทำอะไรไว้กับครอบครัวเรา”
เมฆาเท้าความในอดีต แก้วตาไม่มีวันลืม หล่อนจำได้ขึ้นใจ ตนเคยได้รับความเอ็นดูจากเชษฐา พอณัฐรวีเข้ามา หล่อนก็ตกเป็นรอง อยู่นอกสายตา ได้สิ่งของทีหลังณัฐรวีเสมอ เป็นความแค้นที่สะสมมาหลายปี
“แก้วตาจำได้ค่ะ แก้วตาไม่อยากให้พี่เมฆผูกพยาบาทอาฆาต อีกอย่างรวีก็ไม่มีส่วนผิดในเรื่องนี้ คนที่ผิดคือแม่ของรวีไม่ใช่เหรอคะ” แก้วตาพยายามพูดดีต่อ
“พี่จะไปจัดการรวีก่อน แก้วตาไปหาคุณย่าเถอะ”
“พี่เมฆจะจัดการรวียังไงคะ อย่าทำรุนแรงนะคะ แก้วตาขอร้อง” หน้าตาคนพูดเต็มไปด้วยความกังวลใจ
“แก้วตาช่วยไปบอกรวีให้พี่ทีว่า ไปหยิบกล่องของขวัญในห้องพี่ให้หน่อย แก้วตาทำแค่นี้แหละ ที่เหลือพี่จัดการเอง” แก้วตาทำท่าทางลังเลใจทำตามคำสั่ง “ไปเถอะ พี่ไม่ทำอะไรรุนแรงกับรวีหรอก”
“ค่ะ ก็ได้ค่ะ” ภายนอกทำเหมือนจำใจ ทว่าในใจสวนทางกัน หล่อนก้าวเดินไปยังโต๊ะวีไอพี ก่อนกระซิบบอกณัฐรวีที่นั่งข้างเนาวรัตน์
“กระซิบอะไรกัน” เนาวรัตน์ถามเมื่อแก้วตานั่งแทนที่ณัฐรวี
“พี่เมฆวานให้รวีไปหยิบของในห้องค่ะคุณป้า”
คำตอบของแก้วตา ไม่ได้ทำให้เนาวรัตน์เกิดความสงสัย เพราะบ่อยครั้งที่ณัฐรวีจะถูกเรียกใช้ให้ทำนั่นทำนี่ ทว่าความสงสัยของนางบังเกิดขึ้น เมื่อสายตานางมองเห็นเมฆาเดินตามณัฐรวีเข้าไปในบ้าน ความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นมาทันที
ณัฐรวีก้าวเท้าเข้ามาในห้องเมฆาได้เพียงไม่กี่ก้าวก็รู้สึกว่ามีแรงผลักทางด้านหลัง ส่งผลให้หล่อนหน้าคะมำ พอตั้งหลักได้หล่อนก็หันมาทางด้านหลัง ความตกใจระบายเต็มดวงหน้าหวานสวยทันทีที่รู้ว่า ใครคือคนที่ผลักตน
“คุณเมฆ”
“เออ...ฉันเอง เธอนึกว่าเป็นใครล่ะ แต่งตัวแต่งหน้าซะสวย คิดจะหาเหยื่อรวยๆ จับหรือไง เธอนี่สาระเลวเหมือนแม่เธอไม่มีผิด เชื้อไม่ทิ้งแถว ร่าน ไม่รู้จักพอ แม่เลวยังไงลูกก็เลวอย่างนั้น” เมฆาสาดคำพูดเจ็บแสบ “แล้วเธอก็เหมือนแม่เธออีกอย่าง ชอบแต่งตัวสวยๆ แต่งหน้าทาตาไว้ยั่วผู้ชาย หวังจะปอกลอก หน้าตาสวย ชุดสวยแต่ใจทราม”
เพี้ยะ!...
ทันทีที่เขาพูดจบ ฝ่ามือณัฐรวีฟาดลงบนแก้มของเมฆาสุดแรง แรงจนหน้าเขาหันไปตามแรงตบ รู้สึกเจ็บขึ้นมาทันใด
“อย่ามาว่าแม่รวีอย่างนี้นะ คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่า ถ้ารวียอม คุณจะไม่ราวี ไม่พูดต่อว่าแม่ของรวีไง คุณผิดสัญญา”
เป็นครั้งแรกที่ณัฐรวีโกรธชายปากไม่ดี เขาต่อว่า ทำร้ายร่างกายและจิตใจหล่อนยังไงก็ทนได้ แต่ทนไม่ได้ที่เขาล่วงเกินมารดาตน ถึงแม้ท่านจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม
“เธอกล้าตบฉันเหรอ อยากตายรึไง”
แรงโทสะที่มาจากหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสายตาของชายหลายคนที่มองมายังณัฐรวี คำชื่นชมจากปากเพื่อนสนิทที่คิดจีบหล่อนไปเป็นภรรยา ยังมีเรื่องคำโป้ปดของแก้วตาที่ใส่สีตีไข่ และเสื้อชุดสวยที่เขาตั้งใจสั่งตัดให้แก้วตาใส่ แต่มันกลับมาอยู่บนร่างกายของณัฐรวี เชื้อเพลิงสำคัญสุดคือ ณัฐรวีตบหน้าเขา ความโกรธของเมฆาเวลานี้จึงเดือดเต็มที่
“เอาสิ ฆ่าเลย ฆ่าให้ตายเลย มันจะได้จบๆ กันไป ฉันก็ไม่อยากอยู่ที่นี่นักหรอก อยู่กับคนใจสัตว์อย่างคุณ อยู่กับหมาข้างถนนดีกว่า”
ใจณัฐรวีกลัวท่าทางเสมือนยักษ์โกรธาของเมฆา ทว่าความไม่พอใจที่เขาพูดล่วงเกินรุ่งวดีก็มีเช่นกัน หล่อนจึงโต้กลับด้วยคำพูดและท่าทางที่เมฆาไม่เคยเห็น และไม่คิดว่าหล่อนจะทำด้วย
“ท้าเหรอ เธอกล้าท้าฉันเหรอ” เขาเสียงดังและห้วน
“ใช่ ฉันท้า เอาเลย ฆ่าเลย เก่งจริงฆ่าสิ” หล่อนท้าต่อ
“ฉันจัดให้” เมฆาก้าวเท้ามาหาณัฐรวีที่เพิ่งรู้ตัวว่า ตนเองทำพลาดไป คิดได้ก็สายเสียแล้ว มือใหญ่จับตรงคอเสื้อชุดเดรสลายลูกไม้ ออกแรงกระชากหลายครั้ง “แควก...ชุดนี้ฉันสั่งตัดให้แก้วตา เธอไม่มีสิทธิ์ใส่ ไม่มีสิทธิ์ใช้มันหาผัวใหม่ เธอต้องอยู่ที่นี่ไปจนวันตาย”
เมฆายังคงฉีกเสื้อผ้าที่ณัฐรวีสวมใส่ จนมันขาดไม่เหลือความสวยงาม
“กรี๊ด คุณเมฆพอค่ะ พอแล้ว รวีขอโทษ ฮือ...”
ณัฐรวีกรีดร้องแข่งกับเสียงดนตรีด้านนอก มือทั้งสองข้างปัดป้องตัวเองจากอสูรร้ายกำลังโกรธ ที่ไม่มีทีท่าว่าเขาจะหยุดการกระทำของตัวเอง ตอนนี้เมฆาหน้ามืดกระทำกับณัฐรวีราวกับหล่อนเป็นตุ๊กตา มือหนึ่งฉีกเสื้อผ้าจนขาดวิ่น อีกมือบีบคอหล่อนไว้
“มานี่” เขาลากร่างณัฐรวีที่ตอนนี้เสื้อผ้าไม่เป็นรูปเดิมไปยังห้องน้ำ ณัฐรวีไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร แต่สัญชาตญาณบอกตนว่า มันไม่น่าปลอดภัย หล่อนจึงฝืนตัวเองเต็มที่ มือทั้งสองข้างจับมือใหญ่ที่บีบคอตนไว้และพยายามแกะออก เนื่องจากตอนนี้หล่อนเริ่มหายใจไม่ออก