บทที่ 1 วันวาน 70%

1394 คำ
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงนอนหันมองบานประตูห้องที่ค่อยๆ เปิดออกด้วยนัยน์ตาที่ไม่เป็นมิตรนัก คนที่ก้าวเข้ามาในห้องก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตาเมฆาเท่าไหร่นัก เพียงแค่เดินเข้ามาหล่อนก็รับรู้ถึงพลังงานบางอย่าง กระตุ้นบอกจิตใต้สำนึกว่า ไม่น่าไว้วางใจ             “เดินให้มันเร็วๆ หน่อยได้ไหม” เมฆาตวาดเสียงดัง ณัฐรวีสะดุ้ง ก้าวเท้าเร็วขึ้น             “พี่เมฆเรียกรวี...” หล่อนยังไม่ทันพูดจบประโยค เสียงเข้มห้วนดังกลบเสียง             “บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกฉันว่าพี่ ฉันไม่ใช่พี่เธอ” ความไม่พอใจฉายชัดทั้งในน้ำเสียงและสีหน้า “มานี่”             เขาตบมือลงบนที่นอนข้างตัวเต็มแรง ณัฐรวีกลัวน้ำเสียงและสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ขาทั้งสองข้างจึงก้าวไม่ออก มันหนักเกินกว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะยกขึ้น และนั่นทำให้ชายเอาแต่ใจเกิดความหงุดหงิด วาดเท้าลงบนพื้นก้าวเดินมาหาหล่อนเพียงไม่กี่ก้าว             “พิรี้พิไรอยู่ได้ น่ารำคาญ” มือใหญ่จับท่อนแขนเรียวเล็กก่อนเหวี่ยงร่างงามไปบนที่นอน คร่อมร่างหล่อนไว้ “ทีหลังฉันเรียกก็ให้รีบมา ทำตัวเหมือนสาวบริสุทธิ์ไปได้ ทั้งที่ตัวเองเป็นยิ่งกว่าอีตัว”             เมฆาไม่ออมคำพูด เขาสาดคำพูดเจ็บปวดใจโดยไม่สนใจว่า คนได้ยินจะรู้สึกเช่นไร จะเสียใจมากแค่ไหน เขาไม่สน เพราะความรู้สึกที่ณัฐรวีได้รับ น้อยกว่าที่เขากับมารดาเผชิญ             ณัฐรวีมองหน้าเมฆา ชายหนุ่มรูปงาม เรือนร่างบึกบึนสมชายชาตรี เขาเป็นผู้ชายสมบูรณ์แบบ ทั้งหน้าตา รูปร่างและฐานะ ไม่แปลกที่หล่อนมอบหัวใจให้เขา รู้ทั้งรู้ว่าจะไม่ได้ความรักนั้นกลับมา สิ่งที่ได้รับคือความปวดร้าวหัวใจ จิตใจบอบช้ำ เสมือนร่างกายที่ถูกเขาย่ำยีครั้งแล้วครั้งเล่า             ภาพความทรงจำครั้งก่อนหวนเข้ามาในหัว คืนวันที่ณัฐรวีถูกพรากความสาวด้วยน้ำมือชายไม่เห็นคุณค่า เป็นวันคืนที่หล่อนไม่มีทางลืมเลือน             วันนั้นเป็นวันศุกร์ เป็นวันฌาปนกิจศพเชษฐา ทุกคนออกจากบ้านเพื่อไปส่งเชษฐาขึ้นสวรรค์ ยกเว้นณัฐรวีที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปร่วมงาน และถูกขังอยู่ในห้องนอนของตัวเอง เวลาล่วงเลยไปกว่าสามทุ่ม หล่อนรู้สึกง่วงนอน กำลังเอนตัวลงนอนบนเตียงนอน แต่ก็ต้องกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งแทบไม่ทัน เมื่อประตูห้องเปิดออกและถูกปิดลงปังใหญ่ เสียงดังสนั่น ความตกใจเรื่องเสียงน้อยกว่า ภาพใบหน้าและท่าทางของเมฆาที่บอกถึงอันตราย             “พี่เมฆ” สิ้นเสียงติดสั่นของณัฐรวี เสียงหวีดร้องตกใจดังขึ้น “ว้าย!”           เมฆาโถมตัวคร่อมร่างเล็ก ตรึงมือทั้งสองข้างของณัฐรวีไว้เหนือศีรษะ สาวใต้ร่างในวัยสิบเก้าปีหน้าตาตื่นตระหนก หวาดกลัวกับท่าทีของเขา หล่อนดิ้นรนเพื่อให้ตนเองพ้นจากเงื้อมมือเขา แต่ดูเหมือนว่า หนทางนั้นริบหรี่เหลือเกิน           “แม่เธอทำให้พ่อของฉันตาย” เมฆาเสียงเข้มใส่หน้าณัฐรวีที่ไม่อาจโต้ตอบคำพูดเขาได้ เพราะมันคือเรื่องจริง “แม่เธอเป็นนังแพศยา ทำร้าย ทำลายครอบครัวของฉัน”           ความโกรธในจิตใจเมฆามากมายนัก มากจนมันจวนเจียนระเบิดเต็มที สาเหตุการเสียชีวิตของเชษฐามาจากรุ่งวดี มารดาของณัฐรวีที่หนีตามชายชู้ไป ซึ่งชายชู้ไม่ใช่ใคร เป็นคนขับรถของเชษฐา ไม่หนีเปล่ายังหอบสมบัติหลายชิ้นไปด้วย แต่ละชิ้นราคาสูงเป็นหลักล้าน รวมมูลค่าแล้วมากกว่าสิบล้านบาท การหนีไปของ รุ่งวดี นางไม่ได้พาณัฐรวีไปด้วย ราวกับว่าปล่อยทิ้งไว้ที่ไร่ดุจตะวัน ไม่สนใจไยดี           หลังจากเชษฐารู้ว่า เมียสุดสวาทหนีไปกับคนขับรถ ความที่รักมากย่อมเสียใจมาก ผิดหวังมากตามไปด้วย เมื่อเสียใจเกินสุดทนเชษฐาจึงไม่อยากมีชีวิตอยู่ เขาตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อให้ตนเองพ้นจากความทุกข์ โดยไม่รู้ตัวว่า กำลังผลักอีกคนให้ตกลงไปในขุมอเวจี           ณัฐรวีไม่อาจโต้เถียงคำพูดเมฆาได้ เพราะมันคือเรื่องจริง การที่รุ่งวดีก้าวเข้ามาในครอบครัวเมฆา มีแต่สร้างความทุกข์ ความเสียใจให้กับทุกคน ทว่าหล่อนเป็นเพียงลูกสาว อายุย่างเข้ายี่สิบปี ไม่มีสิทธิ์พูดหรือตักเตือนคนเป็นแม่ได้ คนที่มีความสุขมีเพียงคนเดียวคือ รุ่งวดี           “รวีขอโทษ” คงเป็นประโยคเดียวที่พูดได้ น้ำตาณัฐรวีไหลริน แต่น้ำตาไม่อาจช่วยให้เมฆาใจอ่อนลง ตรงกันข้ามแรงโทสะยิ่งโหมกระพือ           “คำขอโทษของเธอมันน้อยไป แม่เธอทำไว้กับครอบครัวฉันมากนัก มากจนฉันอยากฆ่าเธอกับแม่ให้ตายตามพ่อของฉัน”           ข้อนี้ณัฐรวีรู้แก่ใจเช่นกัน หล่อนเองก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นแล้ว และแก้ไขอะไรไม่ได้           “พี่เมฆ รวีขอโทษ” ณัฐรวีกล่าวคำขอโทษซ้ำๆ น้ำตาแห่งความเสียใจไหลริน ไม่ใช่ว่าหล่อนจะไม่เสียใจกับการจากไปของเชษฐา ณัฐรวีเสียใจมาก ในบ้านหลังนี้จะมีเพียงเชษฐาคนเดียวที่ให้ความเมตตา ให้ความเอ็นดูและรักตนไม่ต่างกับลูก ณัฐรวีมีชีวิตสุขสบายในบ้านหลังนี้ ใครว่าหรือดุด่า เชษฐาจะออกรับแทน ข้าวของเครื่องใช้ไม่ต้องพูดถึง เชษฐาซื้อเสื้อผ้าและของใช้อื่นๆ ให้แทบทุกวัน จนเสื้อผ้าล้นตู้ เรื่องการศึกษาเชษฐาก็ให้ณัฐรวีเรียนที่เดียวกับแก้วตา หญิงสาวในอุปการะ ความที่เชษฐารักและเอ็นดูณัฐรวีไม่ต่างกับลูกในไส้ ทำให้คนในบ้านไม่ชอบหน้าณัฐรวีไปโดยปริยาย โดยเฉพาะเมฆาที่มักหาเรื่องกลั่นแกล้งณัฐรวีเนืองๆ แถมยังขู่ไม่ให้อีกฝ่ายคาบเรื่องนี้ไปบอกเชษฐา เวลานี้ไม่มีเชษฐา ณัฐรวีก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นเช่นไร “ต่อไปนี้เธอไม่ต้องเรียกฉันว่าพี่ ฉันสะอิดสะเอียนกับคำนี้มานานแล้ว ได้ยินแล้วอยากอ้วก อีกอย่างฉันไม่มีน้องสาวที่มีแม่เป็นนังแพศยา” เสียงเขาเข้มห้วน หน้าตาถมึงทึง “ถึงเวลาที่เธอต้องชดใช้เรื่องที่แม่เธอทำไว้กับครอบครัวฉันแล้ว พ่อฉันตายเพราะแม่เธอ เธอก็ต้องตายทั้งเป็นด้วยมือของฉัน แควก...แควก” เมฆากระชากสาบชุดนอนลายโดราเอมอนสุดแรง กระดุมชุดนอนกระเด็นละทิศละทาง ทันทีที่สาบเสื้อแยกออกจากกัน ดอกอุบลสองดอกไร้สิ่งห่อหุ้มก็เปิดเผยต่อสายตาเมฆา ที่ไม่ได้มองเห็นว่า ภาพตรงหน้าสวยงาม ความโกรธ แรงโทสะบดบังสติและความผิดชอบชั่วดี “พี่เมฆอย่าทำอะไรรวีเลยนะคะ รวีขอโทษแทนแม่ด้วย” ณัฐรวีตื่นตระหนกตกใจเต็มที่ ด้วยวัยสิบเก้าปีทำไมจะไม่รู้ว่า เมฆาหมายทำสิ่งใด หล่อนจึงดิ้นไม่หยุด มือทั้งสองข้างทุบไปตามลำตัวเขา แต่ดูเหมือนว่าร่างกายเขาประดุจหิน ทุบเท่าไหร่ไม่รู้สึกเจ็บ มิหนำซ้ำยังมีความโกรธเพิ่มขึ้นด้วย “แม่เธอชอบเป็นเมียน้อย เธอเองก็คงได้เลือดแม่มาเยอะ เป็นนางบำเรอฉันหน่อยเป็นไง ครบสูตรเลย แม่ได้พ่อ ส่วนฉันก็ได้เธอ” เสียงเขาดูน่ากลัว หล่อนกลัวและตกใจมากขึ้นกับตำแหน่งที่เขากำลังมอบให้ “เธอต้องชดใช้กรรมแทนแม่เธอ” ณัฐรวีไม่อาจดิ้นรนต่อสู้ร่างหนาได้ แม้แต่เสียงยังไม่ลอดผ่านปากหล่อน เป็นเพราะเขานำเศษเสื้อผ้ายัดเข้าไปในปากหล่อน ไม่ให้มีเสียงใดรบกวนใจ เมฆาไม่ได้กักเสียงณัฐรวีเพียงอย่างเดียว เขายังใช้เข็มขัดรัดข้อมือทั้งสองข้างของหล่อนไว้กันไม่ให้ทุบตีร่างตน เพราะหากเขาเจ็บตัวมากๆ อาจทนไม่ไหว ตอบกลับไปด้วยการตบหรือทำร้ายร่างกายหล่อน แค่ที่เขากำลังจะทำมันก็มากพอแล้ว  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม