Ep.4: เปิดหูเปิดตา

1306 คำ
“เอย” “เอย” “ไอ้เอย!!!!” “อะไร!!!! จะเรียกเสียงดังทำไมหูเอยอื้อหมดแล้วเนี่ย” เจ้าเอยสะดุ้งตกใจเสียงเรียกของพีพีที่ดังจนเธอต้องเอามือจับหูเพราะเกิดอาการอื้อชั่วคราว “ก็ถ้าไม่เสียงดังแกจะได้ยินไหม พีพีเรียกตั้งหลายครั้งไม่รู้จะเหม่อไปถึงไหนสรุปแล้วแกกำลังคิดอะไรอยู่” พีพีเพ่งสายตามองไปทางเจ้าเอยอย่างจับเพราะช่วงนี้เพื่อนเธอคนนี้มักจะนั่งใจลอยและเหม่อยังไงก็ไม่รู้ “เปล่า” เจ้าเอยปฏิเสธไม่เต็มเสียงนักจะว่าไม่มีอะไรในหัวก็ไม่ได้เพราะดวงตาคมกับใบหน้าหล่อที่จ้องมองเธอวันนั้นมันติดอยู่ในหัวจนเธอสลัดไม่หลุด “ไอ้เอย!!!! อย่ามาโกหก พีพีอยู่กับแกมากี่ปีทำไมเรื่องแค่นี้จะดูไม่ออกสังเกตไม่ได้ สารภาพมา” “จะให้สารภาพอะไรก็ขนาดเอยยังไม่รู้ว่าตัวเองเลยว่าเป็นอะไร” “อาการมันเป็นยังไงไหนเล่ามาซิ เดี๋ยวพีพีผู้เชี่ยวชาญคนนี้จะวิเคราะห์ให้ฟังเอง” “เอ่อ....” “ไอ้เอย อย่าให้โมโห” พีพีพูดด้วยน้ำเสียงเข้มอย่างคาดคั้นให้เจ้าเอยพูดความลับที่เก็บไว้ในใจออกมาให้เธอฟัง เพราะถึงยังไงพวกเธอสองคนก็ไม่เคยมีความลับต่อกันอยู่แล้ว “แกจำวิทยากรที่มาพูดบรรยายเมื่อวันก่อนได้ไหม” ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็จำเป็นต้องพูดออกมาอย่างน้อยได้ระบายมันออกมาก็น่าจะดีกว่าเก็บไว้คนเดียว เผื่อจะได้คำแนะนำดีดีจากเพื่อนบ้าง “คนไหน???” “คุณหมอที่มาจากโรงพยาบาลชื่อดังไง” “อ๋อ.... คุณหมอที่หล่อ ๆ ใช่ป่ะ คนอะไรโคตรหล่อแต่ติดที่ดูนิ่งอยู่หยิ่งไปหน่อยนะพีพีว่า” “ใช่” “แล้ว???” “ก็ตั้งแต่วันนั้นที่เอยเห็นเขา ได้มองตาเขา ภาพใบหน้ากับตาคมของเขามันก็คอยวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา เอยก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกัน” “เห้อ......” หลังได้ฟังเรื่องจากปากเจ้าเอยจบพีพีก็ระบายลมหายใจออกมา แค่นี้เธอก็รู้แล้วว่าเพื่อนเธอเป็นอะไร อาการที่เป็นอยู่นี้เขาเรียกว่าอาการของคนตกหลุมรัก “ถอนหายใจทำไม สรุปเอยเป็นอะไรเหรอพีพี” เมื่อเห็นว่าพีพีเงียบไปเจ้าเอยเลยเขย่าแขนพีพีจนอีกฝ่ายหัวสั่นหัวคลอนต้องรีบร้องห้าม “ไอ้เอย มันเวียนหัวแกหยุดเขย่าแขนก่อน” “รีบบอกมา” “อาการที่แกเป็นอยู่เนี่ยเขาเรียกตกหลุมรักหรือไม่ก็รักแรกพบประมาณนี้แหละ” “ห๊ะ!!!! ตกหลุมรักงั้นเหรอ เป็นไปได้ไงคุยกันสักคำก็ไม่เคยแถมเพิ่งเห็นหน้ากันครั้งแรกด้วยนะ พีพีวิเคราะห์มั่วเปล่าเนี่ย” “อ้าว...... พอบอกก็ไม่เชื่อแล้วแกมีเหตุผลอื่นไหมล่ะ” “.....” เจ้าเอยเงียบพร้อมกับคิดตามคำที่พีพีบอกจนหน้านิ่วคิ้วขมวด ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่อยากเชื่อตัวเองจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นใครมาจากไหนเธอยังไม่รู้จักเลย รู้ก็แค่เท่าที่เขาแนะนำตัวเองเท่านั้นแถมยังเห็นเขาในระยะไกลอีกด้วย “อย่าคิดมากเลย ดูสิคิ้วขมวดจนจะเป็นโบหมดแล้ว” พีพีใช้นิ้วจิ้มไปที่หว่างคิ้วของเจ้าเอยก่อนจะออกแรงกดแล้วนวดเพื่อให้มันคลายออก “เห้อ...... เลิกคิดดีกว่าเนอะ ว่าแต่เอยว่าเราไปรีบห้องเรียนกันดีกว่านะ วันนี้อาจารย์จะแจ้งชื่อโรงพยาบาลที่เราต้องไปประจำ ตื่นเต้น” เจ้าเอยพ้นลมหายใจก่อนจะสลัดความคิดเรื่องคุณหมอสุดหล่อคนนั้นออกจากหัวแล้วเปลี่ยนเรื่องคุยพร้อมกับลุกขึ้นยืนรอพีพีก่อนจะเดินไปยังอาคารเรียนพร้อมกัน หลังสอบวิชาสุดท้ายเสร็จพีพีเดินออกจากห้องสอบอย่างคนหมดแรง พอมาถึงโต๊ะที่มีเจ้าเอยนั่งอยู่ก่อนแล้วก็ทิ้งตัวลงนั่งแล้วซบหน้าลงบนโต๊ะอย่างคนหมดแรง จนเจ้าเอยที่เห็นอดที่จะยิ้มและแซวออกมาไม่ได้ “อะไรจะขนาดนั้นพีพี” “ก็มันเหนื่อย....... อดหลับอดนอนอ่านหนังสือมาตั้งหลายวัน ว่าแต่คืนนี้เราไปเที่ยวกันไหมพีพีอยากปลดปล่อย” “เว่อร์ไปแล้ว ว่าแต่อยากไปเที่ยวไหนล่ะ” “ไปผับ” “หือ!? แน่ใจเหรอที่จะไปสถานที่แบบนั้น” “เอาน่าสักครั้งในชีวิต เดี๋ยวพอเข้าโรงพยาบาลก็ไม่มีเวลาว่างแล้ว” “แต่มันน่ากลัวนะแถมอันตรายด้วย” “น่านะไปด้วยกันนะ พีพีอยากไปเปิดหูเปิดตายังไม่เคยไปเที่ยวผับเลยสักครั้ง” พีพีถูหน้ากับแขนของเจ้าเอยแล้วมองเธอด้วยสายตาออดอ้อนออเซาะ “ไปก็ได้ แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ แล้วก็ห้ามกลับดึก ห้ามเมา เข้าใจไหม” “โอเค งั้นเราไปกันเลย” “ไปตอนนี้เนี่ยนะ!?” เจ้าเอยทำสีหน้าแปลกใจกับคำชวนของพีพี ก็ผับเขาเปิดตอนค่ำไม่ใช่เหรอแล้วทำไมถึงมาชวนไปตอนนี้ได้เนี่ยหรือพีพีเข้าใจอะไรผิด “บ้าใครจะไปผับตอนนี้ ไปซื้อชุดที่จะใส่ไปคืนนี้ไง” “จะไปซื้อทำไมเสื้อผ้าพีพีก็มีเยอะแยะ” “ไปเที่ยวทั้งทีก็ต้องสวยสิจ๊ะ” “เห้อ......” เจ้าเอยได้แต่ส่ายหน้าให้กับท่าทางดีอกดีใจจนออกนอกหน้าของพีพี เมื่อกี้ยังดูเหมือนคนหมดสภาพไม่มีเรี่ยวแรงอยู่เลยแต่พอจะได้ไปเที่ยวไม่รู้เรี่ยวแรงมาจากไหน ก่อนจะโดนอีกฝ่ายดึงมือให้ลุกขึ้นแล้วเดินตามกันไป เจ้าเอยกอดแขนพีพีเดินเข้ามาในผับด้วยความตื่นเต้นและตื่นกลัว ตอนอยู่ข้างนอกก็ไม่รู้หรอกว่าข้างในจะเสียงดังขนาดนี้ มีทั้งแสงทั้งสีชวนให้ปวดหัวเวียนตา ไหนจะคนที่กำลังเต้นออกสเต็ปอย่างสนุกสนานไหนจะพวกที่ดื่มเหล้าและพูดคุยกันอีก “พีพีเปลี่ยนใจกลับตอนนี้ทันไหม” เจ้าเอยพูดเสียงดังอยู่ข้างหูพีพีแข่งกับเสียงเพลง ตอนนี้เธออยากกลับห้องที่สุดเธอคิดว่าเธอไม่เหมาะกับสถานที่แบบนี้ แต่ก็โดนพีพีปฏิเสธพร้อมกับลากเจ้าเอยให้เดินไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่ “ไม่ได้ยังไงก็มาถึงแล้ว ไปหาที่นั่งกัน” พอนั่งได้ทั้งพีพีก็ไม่รอช้าที่จะสั่งเครื่องดื่มอย่างค็อกเทลมาให้ตัวเองและเจ้าเอยได้ลองชิม เครื่องดื่มสีสวยที่มีดีกรีไม่แรงเหมาะกับคนคออ่อนแบบพวกเธอที่สุด ระหว่างรอพีพีก็โยกย้ายส่ายสะโพกไปกับจังหวะเพลง “เอยมาเต้นด้วยกัน” “ไม่เอา พีพีเต้นเลยเอยขอนั่งดูดีกว่า” เจ้าเอยส่ายหัวปฏิเสธอย่างไวเมื่อโดนพีพีจับมือแล้วบอกให้เธอลุกขึ้นเต้นไปด้วยกัน เธอขอเป็นผู้ดูที่ดีก็พอแล้ว เจ้าเอยนั่งมองพีพีที่เต้นอยู่ด้วยความสนุกสนานเธอก็พลอยยิ้มและสนุกไปด้วยไม่ได้ แต่ความสนุกก็ต้องหยุดลงเพราะมีแขกที่ไม่รับเชิญเดินเข้ามาทักทาย “น้องเจ้าเอย!!!! ใช่น้องเจ้าเอยจริง ๆ ด้วย” ดินยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่เห็นเจ้าเอยที่นี่ ตอนแรกที่เขาเห็นเขาคิดว่าเป็นแค่ผู้หญิงที่ดูคล้าย เขาอยากพิสูจน์เลยเดินมาดูและมันก็ทำให้เขาดีใจเป็นที่สุด “พี่ดิน!!!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม