กลุ่มนักศึกษาของคณะคหกรรมศาสตร์ กำลังช่วยกันขนสิ่งของสำหรับการไปเข้าค่ายรับน้องขึ้นรถบัสสามคันที่จอดอยู่ด้านหน้าคณะ
ปีนี้ ทางคณะฯ มีความเห็นตกลงกันว่า จะพาน้องปีหนึ่งไปเข้าค่ายและรับน้องที่สถานที่ล่องแก่งชื่อดัง ขนของขึ้นรถเสร็จเรียบร้อย รุ่นพี่เช็ครายชื่อรุ่นน้องว่ามาครบแล้ว ทั้งหมดก็ทยอยขึ้นรถ
เทียนไขนั่งลงข้างนับดาวที่ตอนนี้เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในคลาส
“เทียนเคยไปล่องแก่งที่นี่หรือเปล่า มันสนุกไหม” นับดาวถามขึ้นด้วยความอยากรู้ เพราะว่าเธอไม่เคยไป
“เทียนก็ไม่รู้เหมือนกันนับ เทียนเองก็ไม่เคยไป” เทียนไขตอบกลับไป แค่เครื่องเล่นในสวนสนุกเธอยังกลัว แล้วการล่องแก่งในน้ำเชี่ยว ๆ แบบนั้นเธอจะไปกล้าเล่นได้ยังไง
“เทียน พี่ขอนั่งตรงนี้ได้หรือเปล่า เทียนย้ายไปนั่งกับเมฆได้ไหม” เทียนไขเงยหน้ามองตามเสียงที่พูด
“คุณหมอก” เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อผู้ชายตัวโตที่ยืนอยู่ข้างเบาะนั่งด้วยความแปลกใจ “มาทำอะไรที่นี่คะ ไม่ใช่ว่าคณะวิศวะฯ ก็มีรับน้องเหรอคะ”
ที่จริง วันนี้ทั้งมหาวิทยาลัย ทุกคณะมีการรับน้องนอกสถานที่พร้อมกัน ต่างกันก็แค่ที่หมายของแต่ละคณะก็แค่นั้น
“พี่ไปสมุยบ่อยแล้ว เบื่อ เลยอยากจะไปล่องแก่งบ้าง” ม่านหมอกตอบกลับ แล้วก็มองไปยังนับดาวที่นั่งติดริมหน้าต่าง “พี่ขอนั่งกับเพื่อนเทียนนะ”
เทียนไขหันไปมองนับดาวที่ตอนนี้นั่งหันหน้าไปทางหน้าต่าง สงสัยว่าม่านหมอกอยากจะจีบเพื่อนเธอ
“ก็ได้ค่ะ แต่อย่ากวนเพื่อนเทียนมากนะคะ โดนต่อยมา เทียนไม่รับผิดชอบนะ” ก่อนจะลุกขึ้น หญิงสาวก็ไม่วายพูดแซวชายหนุ่มที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ข้าง ๆ
ลุกออกมาจากที่นั่งเดิมแล้ว เทียนไขก็เดินมานั่งลงข้าง ม่านเมฆที่อยู่ด้านหน้าถัดไปอีกสองแถว
“เข้ามานั่งข้างใน”
“ไม่เป็นไรค่ะ เทียนนั่งตรงนี้ก็ได้” และทันทีที่เธอปฏิเสธ ม่านเมฆก็มองด้วยสายตาไม่พอใจ เทียนไขจำต้องลุกขึ้นและขยับเข้าไปนั่งข้างในแทน
รถบัสขับออกจากกรุงเทพมหานครได้ราวสองชั่วโมง ก็จอดแวะปั๊มน้ำมันเมื่อให้นักศึกษาได้เข้าห้องน้ำ และซื้อของกินระหว่างทาง
“เทียน” เสียงทุ้มเรียกดังมาจากข้างหลัง เทียนไขจึงหันกลับไปดู
“พี่ขุน” เธอเอ่ยเรียกเจ้าของเสียงตรงหน้า “มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไรหรอก พอดีพี่ซื้อผลไม้มาให้ เทียนเอาไว้กินบนรถนะ” พูดเสร็จก็ยื่นถึงผลไม้หลายชนิดมาให้กับหญิงสาว
“เยอะจังค่ะพี่ขุน แต่ก็ขอบคุณมากนะคะ” เทียนไขยื่นมือออกไปรับ แล้วก็ส่งยิ้มพร้อมกับกล่าวขอบคุณ
“ไม่เยอะหรอก เทียนตัวนิดเดียว กินเยอะ ๆ จะได้โตไว ๆ” ชายหนุ่มพูดพลางใช้นิ้วมือเกลี่ยปอยผมเกะกะบนหน้าเธอ แล้วเอาไปเกี่ยวไว้กับใบหู
เป็นธรรมดาเมื่อมีผู้ชายหน้าตาดีมาถูกเนื้อต้องตัว แม้จะเพียงแค่เล็กน้อย แต่ก็ทำเอาเทียนไขหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ ก็ในชีวิตนี้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนผู้ชายเท่าไหร่ มีแค่ม่านเมฆและม่านหมอก ส่วนอีกคนก็คงจะเป็นขุนเขานี่แหละ
นักศึกษาทุกคนกลับขึ้นรถกันครบแล้ว ขบวนรถบัสสามคันก็เคลื่อนตัวออกจากปั๊มน้ำมัน มุ่งหน้าสู่สถานที่ล่องแก่งต่อไป
“อ่อยผู้ชายเก่งขึ้นเยอะนะ” ในขณะที่เทียนไขกำลังมองดูทิวทัศน์นอกหน้าต่างรถ ก็ได้ยินเสียงคนข้าง ๆ พูดขึ้น แม้มันจะไม่ได้ดังขนาดแถวอื่นได้ยิน แต่เธอก็ได้ยินชัดเจน
“แล้วแต่คุณเมฆจะคิดเถอะค่ะ” แก้ตัวไปก็เท่านั้น เพราะเขาตั้งใจหาเรื่องเธออยู่แล้ว
“คงยังไม่ลืมใช่ไหม ว่าเธอเป็นของฉัน จะอ่อยใครก็ช่วยจำเอาไว้ในหัวสมองด้วย”
“ค่ะ ไม่ลืม แล้วก็ไม่ลืมด้วยว่า เวลาอยู่ข้างนอกคุณเมฆให้บอกทุกคนว่า เทียนเป็นแค่น้องสาว”
ม่านเมฆที่หลับตาอยู่เปิดเปลือกตาขึ้นจนสุดทันที เมื่อได้ยินประโยคต่อปากต่อคำจากเธอ
“ก็ดี จำได้ก็ดี” เขาพูดพร้อมกับปิดเปลือกตาลงไปใหม่ “เพราะฉันก็ไม่อยากจะให้ใครต่อใครรู้เหมือนกัน ว่าเธอเป็นที่ระบายอารมณ์ของฉัน”
ประโยคสุดท้ายที่เขาพูด ทำเอาเทียนไขเม้มริมฝีปากบางเข้าหากันแน่น เหมือนมีอะไรสักอย่างวิ่งตรงเข้ามาแทงที่หัวใจ มันรู้สึกเจ็บจนพูดไม่ออก
“ค่ะ เทียนรู้สถานะตัวเองดี” หลังจากนั้น ก็ไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากของทั้งคู่อีกเลย
เวลาผ่านไปอีกเกือบสามชั่วโมง ขบวนรถก็มาถึงยังที่หมาย นักศึกษาทั้งหมดทยอยลงจากรถ และช่วยกันขนกระเป๋าของตัวเองเข้าที่พัก นักศึกษาผู้ชายบางส่วนก็ช่วยกันเตรียมของที่จะเล่นรอบกองไฟกันคืนนี้ และพรุ่งนี้ถึงจะไปล่องแก่งกัน
“เทียน ทำไมที่พักของเรามันดูต่างจากของคนอื่นจัง” นับดาวเอ่ยถาม เมื่อสำรวจที่พักของตัวเองกับเทียนไขที่อยู่ด้านในสุดของรีสอร์ทแห่งนี้ และเป็นบ้านพักสองชั้นแยกออกมาจากส่วนอื่นอีกที ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากทีเดียว
“ผู้ชายสองคนนั้น ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ” เทียนไขตอบพร้อมกับขนกระเป๋าตัวเองเข้ามาไว้ในห้องเดียวกันกับนับดาว
“เทียน เทียนเอากระเป๋าไปไว้ห้องนู้นนะ” เสียงเข้มดังมาจากข้างหลัง ทำให้สองสาวรีบหันกลับไปดู
“คุณหมอก” เทียนไขเอ่ยเรียกคนที่กำลังเดินตรงมายังพวกเธอ “ทำไมเทียนต้องไปนอนห้องนู้นคะ นอนกับนับไม่ได้เหรอคะ”
“เอาน่าเทียน พอดีพี่มีเรื่องต้องเคลียร์กับเพื่อนเทียน”
เทียนไขหันไปมองหน้านับดาวก็เห็นเธอเอาแต่ส่ายหัวไปมา แต่พอหันกลับมามองทางม่านหมอก ผู้ชายตัวโตก็ยืนทำหน้าเข้ม แล้วใครจะไปกล้าขัดคำสั่งเขาล่ะ
“เทียนขอโทษนะนับ แต่ไม่ต้องกลัวนะ คุณหมอกใจดี” รอยยิ้มเจื่อน ๆ ถูกส่งไปให้เพื่อนสาว แล้วก็ได้ยินเสียงแว่วลอยมาว่า ...ใจดีกับผีน่ะสิ...
เทียนไขย้ายกระเป๋าของตัวเองเข้ามาเก็บอีกห้องหนึ่ง แล้วก็พบว่าในนี้มีกระเป๋าเดินทางของอีกคนวางอยู่ก่อนแล้ว ลมหายใจถูกพ่นออกมาเมื่อรู้ว่าคืนนี้คงต้องนอนห้องเดียวกับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้
กว่าจะมาถึงที่นี่ กว่าจะเก็บของกันเสร็จก็กินเวลาไปเกือบบ่ายสี่โมง รุ่นพี่จึงประกาศให้น้อง ๆ ปีหนึ่งทั้งหมดมารวมตัวกันอีกครั้งตอนเวลาอาหารเย็น
เห็นว่ายังพอมีเวลา เทียนไขจึงเลือกที่จะอาบน้ำก่อนไปรวมตัว นั่งรถมาหลายชั่วโมงรู้สึกเหนียวตัวไปหมด เธอเตรียมผ้าขนหนูและเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปในห้องอาบน้ำ
ประตูห้องถูกเปิดออก ม่านเมฆค่อนข้างแปลกใจที่ได้ยินเสียงฮัมเพลงดังออกมาจากห้องอาบน้ำ มองสำรวจไปรอบ ๆ ก็พอรู้ว่า อีกคนคงจะยังอาบน้ำอยู่ เขาจึงเลือกที่จะเอนตัวลงบนที่นอนเงียบ ๆ
“ว้าย!” เทียนไขที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหวีดร้องเสียงดัง พร้อมกับยกมือขึ้นปิดช่วงเนินอกที่โผล่พ้นผ้าขนหนู เมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นม่านเมฆนอนอยู่บนที่นอน
“ไม่ต้องทำเป็นอายขนาดนั้นก็ได้มั้ง ฉันเห็นเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วทุกส่วน” สายตาคมปรายมามองเพียงเล็กน้อย แล้วก็เบนหน้ากลับไปนอนหลับตานิ่ง ๆ ต่อ
“เข้ามาแล้วทำไมไม่ให้ซุ่มให้เสียงคะคุณเมฆ อย่างน้อย เทียนก็จะได้ใส่เสื้อผ้าจากในห้องน้ำ” เทียนไขพูดขึ้น
“ถึงฉันตะโกนบอกว่าเข้ามาแล้วนะ แล้วเธอจะทำอะไรได้ ในเมื่อเสื้อผ้าเธออยู่ตรงนี้” พูดเสร็จม่านเมฆก็มองไปยังเสื้อผ้าของเธอที่กองอยู่ปลายเตียง
ไม่มีเสียงตอบกลับจากเทียนไข เธอรีบเดินไปหยิบเสื้อผ้าตัวเอง แล้วก็กลับเข้าไปในห้องอาบน้ำอีกครั้งทันที ใช้เวลาไม่นานก็ออกมาพร้อมกับชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น
ม่านเมฆไล่สายตามองดูการแต่งกายของคนตัวเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่นัยน์ตาสีน้ำตาลจะฉายแววความไม่พอใจออกมา
“ใส่สั้นขนาดนั้น จะไปอ่อยผู้ชายคนไหนอีก”
“สั้นเหรอคะ” เทียนไขทวนคำ พร้อมกับก้มมองกางเกงของตัวเองที่มีความยาวคลุมเข่าพอดี
“ไปเปลี่ยนเป็นกางเกงขายาว เร็ว ๆ พวกนั้นจะเรียกรวมตัวแล้ว”
ในเมื่อเขาออกคำสั่ง แล้วเธอจะไม่ทำตามได้อย่างไร เทียนไขรีบไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองอีกครั้ง แล้วหยิบเอากางเกงขายาวเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ
การแต่งตัวถูกใจเขาแล้ว ถึงได้ยอมลุกจากที่นอนเดินนำเธอไปยังลานกว้างสำหรับทำกิจกรรม
รุ่นน้องมารวมตัวกันจนครบ ทางรุ่นพี่ก็ประกาศกิจกรรมที่จะทำกันพรุ่งนี้ จากนั้นทั้งหมดก็รวมตัวกันกินข้าวเย็น แล้วก็ต่อด้วยการร้องเล่นรอบกองไฟ
มารับน้องนอกสถานที่แบบนี้ ยามค่ำคืนคงไม่พ้นการดื่มสังสรรค์ รุ่นพี่ต่างก็เอาเครื่องดื่มที่ตัวเองเตรียมออกมา บ้างก็ซื้อเพิ่มที่รีสอร์ท แล้วก็นั่งล้อมวงกัน
ม่านเมฆทำหน้าที่ดีดกีตาร์ โดยที่มีลูกพีชนั่งร้องเพลงอยู่ไม่ห่างเลยแม้แต่วินาทีเดียว เทียนไขมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกสับสนมากมาย เวลาที่อยู่สองคน เขาให้เธอเป็นคนของเขา แต่พออยู่ต่อหน้าคนอื่น เธอกลับเป็นได้แค่เพียงน้องสาวคนหนึ่งก็แค่นั้น
จนถึงตอนนี้ เทียนไขก็ยังโกหกตัวเองไม่ได้ว่าเธอไม่ได้รักม่านเมฆ ภาพบาดตาตรงหน้าทำให้ต้องหันมองไปทางอื่น แต่พอหันมาอีกที คนทั้งคู่ก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว
ช่างมันเถอะ...เทียนไขได้แต่บอกตัวเองในใจ แล้วก็ลุกขึ้นจะกลับที่พักของตัวเอง
สองขาเรียวเล็กก้าวมาตามทางเดินหินช้า ๆ สายตามองไปรอบบริเวณที่มีแสงไฟสว่างพอให้เห็นทาง แต่เท้าก็ต้องชะงักนิ่ง เมื่อเธอเห็นชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ข้างศาลาข้างหน้า
สองแขนของผู้หญิงคนนั้นคล้องคอผู้ชายเอาไว้ ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกัน ม่านเมฆกับลูกพีชกำลังจูบกันอยู่
แกร็บ..ในจังหวะที่กำลังจะก้าวถอยหลัง เทียนไขดันเดินไปเหยียบเข้ากับใบไม้แห้งที่ร่วงอยู่บนพื้น ทำให้ม่านเมฆเงยหน้าขึ้นมามอง
ไม่ต้องรอให้เขาเอ่ยว่าอะไรอีก เทียนไขรีบหันหลังวิ่งออกจากตรงนั้นทันที
“เทียน! เดี๋ยว!”
////////////////////////////////////////////