เทียนไขลงมือทำเค้กมะพร้าวอ่อนเงียบ ๆ คนเดียว ม่านหมอกกลับไปนั่งดูทีวีอยู่ที่เดิม ส่วนม่านเมฆ กลับเข้าไปในห้องของตัวเองเรียบร้อย
เธอเริ่มจากทำตัวเค้กก่อน นำส่วนผสมที่เตรียมไว้มาตีให้เข้ากันตามลำดับขั้นตอน ดูเหมือนจะทำง่าย แต่ก็ต้องใช้ฝีมือมากพอสมควร หลังจากผสมแป้งเสร็จเรียบร้อย ก็ตักแป้งเค้กใส่พิมพ์นำเข้าเตาอบจนครบเวลา แล้วก็นำออกมาพักไว้
ลำดับต่อมา ก็เป็นการทำครีมเค้กมะพร้าว ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อ เปิดไฟอ่อน ใช้ตะกร้อมือคนไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเนื้อครีมข้น ใส่เนื้อมะพร้าวลงไปกวนให้เข้ากัน แล้วก็ปิดไฟใส่เนย กวนจนละลายดี เสร็จแล้ว ก็ตักใส่ชามเอากระดาษไขคลุมปิด แล้วเอาไปแช่ไว้ในตู้เย็น
ทำครีมเค้กมะพร้าวเสร็จ ก็ต่อด้วยทำวิปปิ้งครีม จากนั้นก็ถึงเวลาที่จะต้องประกอบเค้ก
เทียนไขใช้มีดตัดเค้กในแนวนอนแบ่งเป็น 2 ชิ้น แล้วก็ตักครีมเค้กป้ายลงไปบนชั้นที่หนึ่ง เกลี่ยจนเรียบ แล้ววางเค้กอีกชิ้นประกบลงไป ปาดวิปปิ้งครีมลงด้านบนและด้านข้างของตัวเค้ก จากนั้นก็เกลี่ยให้เรียบสวยงาม เสร็จแล้วก็ตกแต่งของด้านข้างเป็นรูปดาวอย่างที่เคยทำ แล้วก็ตักครีมมะพร้าวอ่อนที่เหลือไว้ตรงกลางก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
“คุณหมอกคะ เค้กเสร็จแล้วค่ะ มาลองชิมให้เทียนหน่อย” เสียงหวานเอ่ยเรียกชายหนุ่มที่นั่งอยู่หน้าทีวีให้มาชิม
“ให้พี่ชิมจะได้อะไร ลิ้นจระเข้แบบพี่ กินอะไรก็อร่อยหมดแหละ นู่น ต้องให้เมฆนู่นชิม” พูดเสร็จก็พยักเพยิดหน้าให้หญิงสาวไปเรียกคู่แฝดอีกคนออกมาชิม
เทียนไขยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเดินไปหน้าห้องนอนของอีกฝ่าย แล้วกลั้นใจเคาะประตูห้องเรียกม่านเมฆให้ออกมาชิมเค้กที่เธอเพิ่งทำเสร็จ
“มีอะไร”
“คือเทียนทำเค้กเสร็จแล้วค่ะ เลยอยากจะให้คุณเมฆลองมาชิมหน่อย” เทียนไขก้มหน้าก้มตาตอบ
ม่านเมฆไม่ได้พูดอะไร เขาเดินเข้ามายังโซนในครัวที่คนตัวเล็กตัดแบ่งเค้กไว้ให้แล้วเรียบร้อย ช้อนที่วางอยู่ข้างจานถูกหยิบขึ้นมา แล้วตักเค้กเข้าปาก หนึ่งคำ สองคำ สามคำ แต่ก็ยังไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากของเขา
“ฝีมือเทียนยังอร่อยเหมือนเดิมใช่หรือเปล่า เมฆถึงจ้วงเอา จ้วงเอา ไม่พูดไม่จาสักคำ” ม่านหมอกที่เดินเข้ามาพอดีแซวขึ้น
“ก็งั้น ๆ ฝีมือยังไม่ถึงขั้นที่จะถูกชม”
เทียนไขได้ยินแบบนั้นก็เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงจะเอ่ยชมเธอไม่ขาดปาก ทำเอาเธอยิ้มหน้าบานไปได้ทั้งวัน
“ก็งั้น ๆ แต่เมฆกินหมดจานแล้วนะ”
“ถ้ากินไม่หมดก็เสียดายเงินไง ก็ของพวกนี้เมฆเป็นคนจ่าย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหมอก เทียนไม่ได้ทำนานแล้ว สงสัยฝีมือคงจะตกไปเยอะ คุณเมฆเลยบอกว่าไม่อร่อย”
เทียนไขรีบพูดแทรกตัดบท เพราะไม่อยากจะฟังเขาพูดจาทำร้ายน้ำใจไปมากกว่านี้
“ฉันไม่ได้บอกว่าไม่อร่อย ฉันแค่บอกว่า ก็งั้น ๆ นี่เธอตกวิชาจับใจความสำคัญหรือยังไง” สุดท้าย ไม่วายเธอก็ต้องโดนเขาดุอีกจนได้
“พอ ๆ เลิกเถียงกันเลยทั้งสองคน เป็นผัวเมียกันก็พูดจากันดี ๆ สิ” ม่านหมอกทำหน้าที่ปรามศึก
“คุณหมอก อย่าพูดแบบนี้อีกนะคะ เทียนกับคุณเมฆเราไม่ได้เป็นอะไรกันแบบนั้นค่ะ” จะให้เธอยอมรับสถานะนี้ได้ยังไง ก็ในเมื่อตั้งแต่คืนนั้น ม่านเมฆก็ไม่เคยห่วงใย หรือทำตัวดี ๆ อย่างคนที่ต้องการจะรับผิดชอบเลยสักครั้ง
แถมตอนนี้ก็เดินหนีกลับเข้าไปในห้องตัวเองแล้วเรียบร้อย
“โอเค พี่ไม่พูดแล้วก็ได้ ว่าแต่ ข้าวเย็นวันนี้มีแค่เค้กเหรอ พี่หิวมากเลยเนี่ย” คนบ่นหิวทำตาปริบ ๆ
“ตายแล้ว เทียนลืมซื้อของมาทำกับข้าวค่ะ สงสัยคืนนี้คุณหมอกคงจะต้องสั่งมากินเองนะคะ เพราะเทียนก็อิ่มเค้กแล้วด้วยค่ะ” เทียนไขตอบกลับไปพร้อมทำหน้าสำนึกผิด
“เอาแบบนั้นก็ได้ งั้นพี่สั่งมากินคนเดียวนะ ดูท่า เทียนกับเมฆคงไม่อยากจะกินอะไรกันแล้ว”
เทียนไขได้แต่พยักหน้ารัว ๆ ให้คนตัวสูง แล้วก็พาตัวเองกลับเข้ามาในห้องนอนอีกคน
/////
หลังจากอาบน้ำใส่ชุดนอนเรียบร้อย เทียนไขก็นั่งทำการบ้านต่อจนถึงช่วงดึก กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน เธอปิดไฟทุกดวงแล้วก็เอนกายลงนอน
หลับไปได้ไม่นานก็ต้องสะดุ้งตื่น เมื่อรู้สึกได้ว่าพื้นที่ว่างบนที่นอนข้างตัวเองยุบลงเหมือนมีใครเอนตัวลงข้าง ๆ แถมยังมีลำแขนวางพาดไว้บนตัวของเธออีก
“คะ คุณเมฆ เข้ามาทำอะไรในห้องเทียนคะ” เสียงหวานสั่นเล็กน้อยเอ่ยถามออกไป เธอจำกลิ่นครีมอาบน้ำประจำตัวของเขาได้ดี
“เพ้นท์เฮ้าส์ของฉัน จะนอนห้องไหน ทำอะไร ต้องบอกเธอด้วยหรือไง” ม่านเมฆตอบกลับ แล้วก็ออกแรงรัดของลำแขนให้ร่างบางมาแนบกับแผงอกตัวเองมากขึ้น
“แต่นี่เป็นห้องนอนของเทียนนะคะ”
“เธอเป็นของฉัน ฉันจะมานอนกับเธอเมื่อไหร่ก็ได้ ทำไม หรือว่าเธออยากจะให้ฉันทำอย่างอื่นมากกว่านอน”
คำพูดของคนตัวโตเอาแต่ใจทำเอาเทียนไขชะงักนิ่ง จู่ ๆ หัวใจก็เต้นเร็วผิดจังหวะ ใบหน้าสวยร้อนผ่าว ถึงจะอยู่ในความมืด ทำให้มองไม่เห็น แต่ก็พอจะเดาได้ว่า หน้าขาว ๆ ของเธอในตอนนี้คงแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก
มิหนำซ้ำในตอนนี้ ม่านเมฆยังเกยใบหน้าหล่อ ๆ ไว้ตรงไหล่ของเธออีก ทำให้ลมหายใจอุ่นรดลงตรงผิวเนียน สร้างความรู้สึกแปลก ๆ ให้เธอไม่หยุด
“คุณเมฆ ถ้าจะนอนที่นี่ ก็ช่วยเขยิบออกไปหน่อยได้ไหมคะ คุณเมฆนอนอยู่แบบนี้เทียนนอนไม่หลับค่ะ” เทียนไขเอ่ยบอกพร้อมกับจะขยับตัวเองให้ออกห่าง
“ว้าย!” คนตัวเล็กร้องขึ้นด้วยความตกใจ เพราะแทนที่เขาจะปล่อยให้เธอนอนสบาย ๆ กลับจับเธอให้หันมาทางตัวเอง
“อื้อ..” ไม่ทันที่จะได้ถามอะไร ริมฝีปากร้อนก็ฉกจูบเข้ามาอย่างรวดเร็ว เรียวลิ้นสอดแทรกเข้ามาข้างในโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว
เขาไล้วนดูดดึงลิ้นเล็กแทบไม่ให้เธอพักหายใจ ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มลง สองมือขยำเสื้อนอนของเขาเอาไว้แน่น ความรู้สึกบางอย่างแล่นปลาบปั่นป่วนไปทั่วทั้งตัว
“ถ้าเธอยังไม่หยุดพูดมาก คราวนี้ฉันจะทำอย่างอื่นมากกว่าจูบ หรือถ้าอยากก็บอกได้นะ ฉันพร้อมเสมอ” เทียนไขรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไม่ให้หลุดเสียงอะไรออกมา แล้วรีบนอนหันหลังให้เขาเหมือนเดิม
ขืนพูดอะไรออกไป แล้วโดนเขารังแกอีกจะทำยังไง
ม่านเมฆที่นอนซ้อนอยู่ด้านหลังหยักยิ้มมุมปากในความมืด แล้วก็กระเถิบตัวเข้าไปใกล้คนตัวเล็กเหมือนเดิม โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะนอนหลับหรือเปล่า
เพราะความไม่สนใจของเขา ทำเอาเทียนไขนอนลืมตาอยู่ในความมืด หัวใจเต้นตึกตักจนแทบจะหลุดออกมากองอยู่นอกเสื้อรอมร่อ ผ่านไปสักพักลองเขยิบตัวออกมา แต่ก็โดนเขารั้งเขาไปกอดไว้แน่น ๆ เหมือนเดิม
นี่สรุปว่า เขาก็จะไม่ยอมหลับยอมนอนหรืออย่างไร
/////
รุ่งเช้า เทียนไขขยับเปลือกตาคู่สวยช้า ๆ เพื่อให้คุ้นชินกับแสงสว่างภายในห้อง เมื่อรู้สึกได้ยินเหมือนใครร้องเพลงอยู่ พอเปิดเปลือกตาขึ้นจนสุด ก็ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออกพอดี
“คุณเมฆ!” สายตาจ้องมองไปยังชายหนุ่มที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ ที่อยู่ภายในห้องนอนของเธอ ม่านเมฆอยู่ในสภาพที่พันผ้าขนหนูไว้แค่ช่วงล่างเท่านั้น
ช่วงบนเปลือยเปล่าทำให้เห็นหุ่นที่กล้ามแน่นเป็นลอนดูสุขภาพดี ทำเอาเธอเผลอกลืนน้ำลายลงคอโดยไม่รู้ตัว
“เรียกทำไม หรืออยากจะออกกำลังกายตอนเช้า” เสียงของเขาทำให้เทียนไขมีสติกลับมาอีกครั้ง
“ทำไมคุณเมฆมาอาบน้ำในห้องเทียนคะ หรือว่า..” ว่าแล้วก็ก้มลงสำรวจร่างกายตัวเอง เมื่อเห็นชุดนอนเมื่อคืนยังอยู่ครบก็พ่นลมออกมาอย่างโล่งใจ
“นี่เธอคิดว่าฉันจะปล้ำเธอตอนหลับงั้นเหรอ ดูเหมือนจะหลงตัวเองไปหน่อยนะ” พูดเสร็จเขาก็เดินไปหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง สำรวจใบหน้าที่หล่อเหลาคล้ายที่ติอยู่ครู่เดียว แล้วก็
พรึ่บ! จู่ ๆ ม่านเมฆก็ปลดผ้าขนหนูออกทั้งที่ข้างในนั้นไม่ได้สวมอะไรไว้เลย
“คุณเมฆ จะใส่เสื้อผ้า ทำไมไม่ใส่ดี ๆ คะ” เทียนไขพูดขึ้นพร้อมกับยกมือปิดตาตัวเองเอาไว้ กลัวว่าถ้าเห็นอะไรต่อมิอะไรของเขา อาจจะทำให้เธอจิตเตลิดมากไปกว่านี้
“แล้วฉันใส่ไม่ดีตรงไหน เอามือลงได้แล้ว” ได้ยินแบบนั้น เทียนไขก็ค่อย ๆ เลื่อนมือที่ปิดตาลง ก็ทำให้เห็นว่า ผู้ชายหน้ามึนคนนี้ใส่กางเกงแล้วเรียบร้อย
“รีบ ๆ ไปอาบน้ำ ออกไปข้างนอกกับฉัน”
“จะไปไหนคะ”
“อย่าถามมากได้ไหม เร็ว ๆ เข้า ฉันให้เวลาครึ่งชั่วโมงเท่านั้นนะ ถ้าเธอช้า ฉันจะเข้ามาอาบน้ำแต่งตัวให้เธอเอง”
ไม่ต้องให้เขาบอกเป็นรอบที่สอง เทียนไขรีบลุกขึ้นจากที่นอนแล้วตรงเข้าไปในห้องอาบน้ำทันที ส่วนม่านเมฆ ก็ยกโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเลื่อนดูสถานที่ ที่เขาจะพาเทียนไขไปวันนี้ พลันรอยยิ้มร้ายเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้า
////////////////////////////////////////////