4

1006 คำ
“ก็อย่างพี่ติอะ ต้องข่มขืนใครด้วยหรือ อีกอย่างนะ อูมันสมยอมพี่ติทุกทีแหละ” “ว้าย ใช่เลย” ทรายแก้วร้องเห็นด้วยทั้งยังขำตามในตอนท้าย “นี่เมื่อคืนก็เพิ่งโดนไปล่ะซิ หน้าซีดแบบนี้” อินทิราออกอาการเหนื่อยใจกับเพื่อนสองคนที่เอาแต่พูดเล่นไม่ยอมเลิก เลยบ่นเข้าให้เลย “นี่อูเอาเรื่องมาปรึกษาพวกเราอยู่นะเนี่ย อย่าทำเสียเรื่องได้ไหม” พอถูกเอ็ดสองคนก็หน้าแหยกันไปเลย “แบบนี้แล้ว เราว่าพี่ติแกก็ทำหน้าที่ไม่บกพร่องนี่หว่า แล้วจะหย่าทำไมล่ะไก่อู” กันต์กมลถอนใจเฮือก “มันหลายเรื่องอะ พี่ติทำตัวน่าเบื่อ” “เบื่อเรื่องอะไร ไหนระบายออกมาสิ เผื่อจะดีขึ้นบ้าง แล้วจะได้ไปฟ้องหย่าพี่แกได้ถูกเรื่อง ถูกประเด็นไง” “เขาไม่ช่วยอูเก็บของเลย ไม่ทำงานบ้าน ปล่อยให้รกสกปรก เข้าห้องน้ำก็ไม่ยกฝารอง ไม่เคยกดชักโครกเลย แล้วพอไปใช้พื้นที่ตรงไหนในบ้านนะก็สกปรกไปหมด วันหยุดแทนที่จะอยู่ด้วยกัน โน่น ออกไปกับเพื่อน ไปดื่มจนเมาแล้วก็...” เมาแล้วก็มาบังคับนอนกับเธอ เรื่องนี้กันต์กมลไม่กล้าพูดออกไป อินทิราฟังและพยักหน้าตามอย่างเข้าอกเข้าใจ เอ่ยถามต่อ “แล้วอูเคยบอกพี่ติแบบที่บอกพวกเราไหม” “ยัง” เธอร้องบอกเสียงเนือย “อ้าว ก็แล้วทำไมไม่บอกพี่แกเล่า” “มันก็ไม่เชิงว่าไม่บอกหรอก วันที่อูบอกพี่ติว่าจะหย่า อูก็พูดไปแล้ว เขาบอกว่าเขาก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่เริ่มคบกัน ทำไมอูถึงเพิ่งจะทนไม่ได้ตอนนี้” “เออ นั่นสิ ทำไม” “คือมันไม่ใช่ว่าเพิ่งทนไม่ได้ไง ตอนนั้นมันรักมั้ง เลยคิดว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ได้เป็นปัญหา แล้วก็คิดว่าเดี๋ยวเขาคงเปลี่ยนนิสัยมาช่วยกันบ้าง แต่ประเด็นคือเขาไม่เปลี่ยนไง” “ไม่สิ แล้วอูเคยบอกพี่ติไหมว่าให้ช่วยกันรักษาความสะอาดหน่อย หรือ วันหยุดอยู่ด้วยกันได้ไหมพี่ติ อะไรแบบเนี้ย” อินทิราสอบถามเพื่อน เพื่อจะได้ช่วยแก้ไขให้ตรงจุด เคสแบบนี้บางทีไม่ควรต้องรุนแรงถึงขั้นฟ้องหย่ากันเลย หากว่าหันหน้ากลับมาปรับความเข้าใจกัน “ก็...ยังไงดีล่ะ” กันต์กมลบอกเสียงอ่อย เรื่องทำความสะอาดบ้านเธอเป็นคนอาสาเองตั้งแต่ตอนที่ตกลงจะแต่งงาน ใช้ชีวิตด้วยกัน “คือตอนนั้นอูเป็นคนพูดขึ้นเองว่าจะทำงานบ้าน ให้พี่ติทำงานไปไง จะมากลับคำตอนนี้ อูก็ว่ามันยังไง ๆ อยู่” “แล้วเรื่องวันหยุด อยากอยู่ด้วยกันเคยบอกไหม” “ก็เคยบอกบ้างแหละ แต่พี่ติก็บอกว่าเขาติดงาน ไม่ได้ออกไปดื่มอย่างเดียว และตอนนั้นอูก็ไม่เห็นเป็นปัญหาไง เลยไม่ได้ย้ำอะไรกับพี่ติอีก” “เออ เรื่องแบบนี้ต้องลองเอาไปคุยกันนะ” เชิดชัยเสนออย่างเป็นกลาง ก่อนจะพากันเงียบไป เชิดชัยถามขึ้นมาประโยคหนึ่งในนาทีนั้น “แล้วที่จะหย่านี่ คืออูไม่รักพี่ติอีกแล้ว อย่างงี้หรือ” กันต์กมลนิ่งไป ข้อนี้จะให้ตอบเลยก็ตอบไม่ได้ “ไม่รู้สิ ความรู้สึกมันน้อยลงเยอะเลย ให้อูบอกตอนนี้ อูก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน” อินทิราที่ฟังความอยู่ถามเธอ เมื่อพอจะเข้าใจประเด็นบ้างแล้ว “สรุปเข้าประเด็นเลย ก็คืออูไม่อยากทนกับชีวิตคู่แล้วและก็อยากแก้ปัญหาด้วยการหย่าอย่างนั้นใช่ไหม” กันต์กมลพยักหน้าว่าใช่ ทรายแก้วมองประเมินเธอพร้อมกันหันไปพูดกับสมาชิกแก๊งคนอื่น ๆ “พวกเราเป็นคนนอกหรือเปล่าวะ และทรายก็มองว่าเรื่องแบบนี้มันเล็กน้อยมากอะ” กันต์กมลส่ายหน้าแล้วบอกในสิ่งที่เธอเองก็รู้ว่าคนอื่นจะต้องมองแบบนี้เช่นกัน “สะสมหลาย ๆ เรื่องเข้า มันไม่น้อยนะทราย” เชิดชัยช่วยพูดอีกคน “อูคิดดีแล้วแน่นะ” “อือ อูว่าถ้าเป็นแบบนี้ อูอยู่คนเดียวสบายใจกว่า” ทั้งอินทิรา ทรายแก้วและเชิดชัยพากันมองสบตากัน ก่อนจะคุยกันผ่านสายตาว่าตามน้ำไปก่อน เคยได้ยินไหมว่าน้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือเข้าไปขวางน่ะ แล้วเดี๋ยวพอน้ำไหลเอื่อยลงกว่านี้ กันต์กมลก็คงเลิกล้มความตั้งใจไปเอง เชิดชัยขยับท่านั่งใหม่แล้วอาสาเป็นคนพูดขึ้นอย่างที่เป็นพวกเดียวกันกับเพื่อนเสมอมา “ได้เลย ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มหาช่องโหว่ของพี่ติกันเลย จะได้เก็บหลักฐานเอาไว้ยื่นฟ้องหย่า ช่วงนี้ก็ระวังตัวหน่อย อย่าให้พี่แกจับได้ว่าพวกเรากำลังทำอะไรกัน” กันต์กมลพยักหน้าใจชื้นขึ้นมาหน่อยหนึ่ง เมื่อเพื่อนออกตัวสนับสนุนกันแบบนี้ แต่ก็อดใจหายไม่ได้ ที่บอกว่าให้ระวังตัวไว้ ก็เพราะว่าจิรฐิติน่ะฉลาดจะตาย เรื่องนี้เธอเองก็ต้องทำแบบแยบยล ไม่ให้เขารู้ตัวเด็ดขาดว่าเธอกำลังมีแผนการอะไรอยู่ แต่อีกใจก็คอยแต่จะชักใบให้เรือเสียเมื่อนึกถึงสายตาของจิรฐิติเวลาโมโหขึ้นมา เอาล่ะ เธอมุ่งหน้าจะเดินไปทางนี้แล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อให้ได้ อินทิราเห็นแววตาของเธอทำท่าจะยอมแพ้ก็ทำทีพูดให้สู้ “ทำใจดีสู้พี่ติไว้ ไม่ต้องไปกลัว” พวกนี้พูดง่ายนี่ เพราะไม่ต้องมาเผชิญหน้ากับสามีอย่างจิรฐิติแบบเธอนี่นา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม