เจ้าหยวนอีกับเจียวจ้านตกลงกันว่า พวกเขาจะเริ่มสำรวจพื้นที่ร้านค้าบริเวณใกล้ๆ โรงแรมโรแมนติกการ์เด้นท์เสียก่อน และร้านแรกที่โทนี่แนะนำคือ เบเกอรี่ของชาวต่างชาติ ที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น
“ดี ฉันอยากได้ขนมปังหอมๆ ที่อบเสร็จใหม่ แถวนี้ร้านค้าเยอะใช่ไหม”
“อย่างที่คุณนายเล็กอีทราบ มีร้านติดเป็นแถวยาวเลยครับ” โทนี่เอ่ยจบ และไม่ทันที่หญิงสาวจะก้าวออกจากพื้นที่ห้องรับรอง ฟู่เซิง ผู้ที่เป็นแม่บ้าน และได้รับมอบหมายจากซ่งฮ่าวเทียนให้มาดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ก็นำเสื้อคลุมกับหมวก พร้อมแว่นตากันแดดกรอบใหญ่มาให้หญิงสาว
“อย่างที่ทราบ ตอนนี้ท่านเก้า ติดธุระสำคัญ และคุณออกไปเป็นการส่วนตัว ดังนั้นอย่าให้ใครรู้มากเลยว่าไปไหนมาไหน ด้วยจะปลอดภัยทั้งตัวคุณ แล้วก็คนอื่น”
ฟู่เซิงเป็นสตรีวัยสามสิบเศษที่วางสีหน้าตึงยังไม่พอ หล่อนยังชวนให้หน้ามั่นไส้ด้วย ผิดแต่เจ้าหยวนอีตระหนักได้ว่า เธอไม่ใช่แค่คนสวย หากในโลกนี้ ใครๆ ขนานนามว่า มุกราตีแห่งเอเชีย ดังนั้น อาจมีการแอบถ่ายรูป สะกดรอยตาม หรือถึงขั้นคิดร้าย
“ได้สิ ฉันชอบปลอมตัวอยู่แล้ว เอาอย่างนี้... เดี๋ยวฉันเลือกเสื้อเชิ้ตของท่านเก้าสักตัว แล้วก็หมวกของเขาด้วย ส่วนเสื้อคลุมของแม่บ้านฟู่ที่นำมา ดูเทอะทะและสีทึบเกินไป ยิ่งจะทำให้คนสงสัย อ่อ...ฉันอยากได้ดินสอเขียนคิ้ว แล้วก็รองเท้าแบบผู้ชายด้วย รีบจัดการให้ด่วนเลย”
หญิงสาวสั่งการ พร้อมนึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก ในโลกนี้ มีหลายสิ่งที่เธอชี้นิ้วสั่งได้ เพราะอยู่ในร่างที่สวยจัด และยังเป็นภรรยาของซ่งฮ่าวตง
“เอ นายหญิงเล็กอี จะทำสิ่งใดขอรับ” โทนี่ฉงน และมองหญิงสาวด้วยแปลกใจ
“ฉันเป็นนักแสดง การปลอมตัว มันก็ต้องทำให้สมจริงหน่อย”
“อย่างนี้เลยจะใส่เสื้อผ้าผู้ชาย ใช่ไหมครับ”
“โทนี่เข้าใจถูกต้อง คนจะได้ไม่สนใจฉันอย่างไรล่ะ”
เมื่อเจ้าหยวนอีตอบเสร็จ คนที่ยืนหมุนตัวไปมา กำลังทำตาโตๆ และร้องถามเสียงใส
“แม่ใหม่ ให้น้องปลอมตัวด้วยไหม”
“หือ ไม่ต้องหรอกจ๊ะ เด็กๆ ต้องได้รับการปกป้องอยู่แล้ว ไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายกับหนูแน่นอน”
“ไม่นะ!”
เด็กชายเท้าสะเอวหมับ และทำปากขมุบขมิบ ก่อนเอ่ยว่า
“เดี๋ยวมีคนจับได้ว่าน้องแอบหนีเที่ยว ต้องโดนป๊ะ ป๋าดุแน่ๆ มีตีด้วยนะ ตรงกลางฝ่ามือเลย”
เจียวจ้านบอก แล้วทำหน้ายุ่งทีเดียว
“ถ้าอย่างนั้น แม่จะหาหาหมวกให้หนู แล้วก็เสื้อชุดใหม่ดีไหม”
เด็กชายหัวเราะพร้อมตบมือชอบใจ ก่อนเอ่ยถามอย่างขัดเขินว่า
“กระโปรงสิ น้องใส่กระโปรงแล้วสวยน้า!”
เสียงเล็กๆ เอ่ยออกมา ทำให้เจ้าหยวนอีรู้ว่า หัวใจของเจียวจ้านบริสุทธิ์ยิ่งนัก คราแรกเธอแค่อยากเล่นสนุก หาเรื่องออกไปเที่ยว และเลือกของกินอร่อยๆ ฆ่าเวลาที่ ซ่งฮ่าวตงไม่ได้อยู่ที่นี่
“แค่ใส่หมวก และเปลี่ยนชุดใหม่ จ้านเกอก็หล่อเท่ ไม่มีใครจำได้แน่นอน”
เจียวจ้านทำจมูกย่น และถอนหายใจติดกันหลายหน ก่อนบอกเธอว่า
“แต่น้องสวยนะ แม่ใหม่ไม่รู้เหรอ!”
เจ้าหยวนอีมองไปยังโทนี่ สลับฟู่เซิง และคนเป็นแม่บ้านก็ตอบเธอ
“คุณชายน้อยจ้าน ติดคุณทวดไห่ และตอนเกิด หลายคนมักทักว่า คุณชายน้อยจ้าน คล้ายคุณลี่มี่ ลูกสาวคนเล็กของคุณทวดไห่ที่จากไป มีครั้งหนึ่งที่คุณทวด นำเสื้อผ้าชุดเก่าๆ ที่เก็บสะสมไว้ออกมาทำความสะอาด บังเอิญว่าคุณชายน้อย ได้เห็นก็หยิบมาสวมเล่น”
ได้ฟังเช่นนั้น หญิงสาวก็ลูบแก้มย้อยๆ ที่นุ่มนิ่มของเจียวจ้าน และบอกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“วันนี้ ไม่ต้องใส่กระโปรงหรอกนะ แต่รับรองว่า จ้านเกอต้องน่ารัก และไม่มีใครจำได้แน่นอน!”
เจ้าหยวนอีสวมชุดง่ายๆ เป็นเสื้อเชิ้ตขาวของซ่งฮ่าวตง และด้านล่างคือกางเกงตัวโคร่งสีเข้ม สวมรองเท้าบูต เธอแต่งแนวผู้หญิงเท่ (ทอมบอย) แล้วผมรวมเป็นหางม้า สวมหมวกเก๋ๆ อีกใบ บนใบหน้าเติมกระ ลดทอนผิวกระจ่างใสลง ทั้งยังมีแว่นตากันแดดปกปิดดวงตากลมโต
ส่วนคนน่ารักนั้น เขาหัวเราะตั้งแต่ก้าวลงจากลิฟท์ ด้วยชุดที่ไม่เหมือนใคร เป็นชุดของมนุษย์จอมพลัง หรือ ซุเปอร์ฮีโร่ที่เขาชอบดู และยามว่างซ่งฮ่าวตงเคยเปิดหนังสือภาพ และอ่านให้ฟังยามนอน
“เขาชื่ออะไรครับ”
เด็กชายชี้ชุดซึ่งเขาสวมอยู่
“จ้านเกอไง เป็นผู้พิทักษ์ของแม่”
“น้องชอบนะ มีผ้าปิดตาด้วย แล้วก็ผ้าคลุมสีแดง!”
ด้วยความเร่งด่วน เจ้าหยวนอีเลือกตัดผ้าแบบง่ายๆ แล้วทำหน้ากากให้เด็กชาย
ซึ่งเธอไม่แปลกใจหรอกที่ตนเองมีความสามารถด้านนี้ เพราะก่อนที่หญิงสาวจะก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดง เธออาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยง และป้าซึ่งทำอาชีพเย็บผ้า ที่อีกฝั่งของเมือง เป็นเขตที่เรียกว่าสลัม
“เชื่อไหมว่า จะไม่มีใครจำจ้านเกอ ของแม่ได้แน่นอน”
“ฮู้เร ... เยี่ยมเลย คราวนี้น้องก็หายตัวได้ ตอนกลับบ้าน ต้องมีเรื่องโม้ให้ย่าทวดฟังเยอะแยะ”
เขาบอกหญิงสาว แล้วจับจูงมือเธอวิ่งออกไปประตูด้านหน้าของโรงแรม โดยมีโทนี่กับฟู่เซิงตามประกบ
ร้านเบเกอรี่ที่โทนี่แนะนำ เรียกได้ว่ามีความหอมตั้งแต่ยังไม่ทันก้าวเข้าไป และสิ่งที่เจ้าหยวนอีชอบมากๆ คือ นอกจากขนมปัง เค้ก ยังมีโดนัทที่เป็นที่โปรดปราณของเธอ หากเสียดาย โดนัททำในจำนวนจำกัด ด้วยเป็นสูตรพิเศษทั้งยังมีราคาสูงกว่าปกติ ด้วยมีกรรมวิธีทำยุ่งยาก
“ท่านเก้าชอบกินของหวานไหม”
เธอถามโทนี่ ฝ่ายนั้นอ้ำอึ้ง ปกติซ่งฮ่าวเทียน มักดื่มเครื่องดื่ม กาแฟ แล้วก็กินอาหารเพียงแค่สองมื้อต่อวัน
“ชอบครับ ปะ ป๊า กินเยอะ ยิ่งขนมแบบนี้ กินทีเป็นสิบเลย”
เด็กชายชี้ไปที่โดนัท แล้วก็บราวนี่
“ถ้าอย่างนั้น เราสั่งทั้งหมดที่มี แล้วให้ร้านใส่กล่อง เอาไปฝากปะ ป๊ากันนะ”
“ต้องว่าน้อง เป็นคนซื้อนะ ปะ ป๊าจะได้ จุ๊บเหม่งแรงๆ”
หญิงสาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี บุคลิกเด็กชายและความสดใสนี้ เห็นทีคงได้มาจากซ่งฮ่าวตงไม่น้อย ซึ่งในขณะเลือกซื้อของอย่างมีความสุขอยู่นั้น มีสตรีคนหนึ่งก้าวมาด้านใน พลอยให้บรรยากาศตึงเครียด พนักงานชายเดินมาทางเจ้าหยวนอี และบอกเธออย่างสุภาพว่า
“ทางร้านต้องขออภัยด้วย ตอนนี้ของทั้งหมด ที่อยู่ในชั้น มีเจ้าของผมแล้ว ส่วนโดนัท เราจัดให้ตามที่คุณแจ้ง และจะส่งเข้าไปที่โรงแรมให้”
เจ้าหยวนอีไม่ทันได้ซักสิ่งใดต่อ เพราะคนที่ก้าวเข้ามา แสดงกิริยาราวกับเป็นเศรษฐีนี และผู้ทรงอำนาจ
“ฮึ นังนักแสดงโสเภณีนั่น ใช้เสน่ห์ หรือเล่นของสกปรกสินะ ท่านเก้าถึงได้ขลุกอยู่กับมันตั้งหลายคืน แล้วนี่ได้ข่าวว่า กำลังนั่งเครื่องกลับมาจากต่างประเทศ และคงตรงดิ่งกลับโรงแรมบ่ายนี้!”
เจ้าหยวนอีฟังไม่ผิดฝ่ายนั้นกำลังว่าร้ายถึงเธอ แต่เหนืออื่นใด จะให้เด็กชายได้ยินเรื่องไม่ดีพวกนี้ไม่ได้
และนับว่าโชคดี ฟู่เซิงเป็นคนมีไหวพริบ หล่อนรีบอุ้มเด็กชาย พาไปทางอื่น
ฝ่ายโทนี่ดึงหมวกที่สวมอยู่ปิดหน้าตนไว้เกือบครึ่ง และกระซิบกระซาบพอให้ได้ยินว่า
“คุณโจว เธอเป็นหลานห่างๆ คุณนายที่สอง หมี่เสียน เมื่อปีก่อน มาพักที่คฤหาสน์ตระกูลซ่ง หลายเดือนขอรับ และว่ากันตามตรง นานแล้ว ก่อนเจ้าสัวจะเสีย ก็เปรยๆ อยากได้ คุณโจวเป็นลูกสะใภ้”
สิ่งที่โทนี่บอก อธิบายได้ว่า โจวซานซาน คือเครือญาติของหมี่เสียน ผู้เป็นแม่เล็กของซ่งฮ่าวตง และฝ่ายโจวซานซานเคยเป็นอดีตคนที่ชายหนุ่ม ให้นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่พักใหญ่ๆ แต่ฝ่ายชายกลับไม่ได้สานความสัมพันธ์ต่อ
“แบบนี้ ฉันต้องนับญาติกับฝ่ายนั้นไหม”
“เอ่อ... เท่าที่ผมทราบ ท่านเก้าไม่ได้ยกตำแหน่งใดให้คุณโจวนะขอรับ ถึงอย่างนั้นก็ตาม เธอยังตามเทียวไล้ เทียวขื่อ เข้าทางคุณนายที่สองบ้าง คุณทวดบ้าง เพื่อที่จะคว้าตำแหน่งผู้หญิงของท่านเก้าให้ได้”