หลายชั่วโมงต่อมา
ครืด ครืด~
“อื้อ…” เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในช่วงเย็นของวันทำให้ซอจินซึ่งกำลังนอนหลับใหลอยู่ส่งเสียงดังในลำคอออกมาเบาๆ พร้อมกับความรู้สึกปวดร้าวตามร่างกายจากการกระทำแสนป่าเถื่อนของมังกร
เธอดึงตัวเองขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงนอนอย่างยากลำบาก ความปวดร้าวที่กัดกินไปทั่วร่างกายทำให้ไม่อยากขยับเขยื้อนร่างกายไปไหน เธอหยิบโทรศัพท์มาดูเบอร์บนหน้าจอแล้วนิ่งลงไปพักหนึ่ง
เบอร์บนหน้าจอแม้ไม่มีชื่อกำกับ แต่เธอก็จำได้แม่นว่าเป็นเบอร์ของใคร
“สวัสดีค่ะ” เธอแสร้งทำทีไม่รู้จักกับปลายสาย ทั้งที่ในความเป็นจริงปลายสายนั้นก็คือพ่อของเธอ
(นี่พ่อเองนะ)
“มีอะไรเหรอคะ” น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยถาม แม้ไม่อยากกดรับสายตั้งแต่แรก ทว่าสุดท้ายก็ไม่สามารถทำตามความคิดในหัวได้
(หมู่นี้ซอลไม่ค่อยมาบ้านเลย พ่อเลยอยากโทรมาถามว่างานยุ่งเหรอถึงไม่มีเวลามาทานข้าวด้วยกันที่บ้าน)
“เพิ่งรู้นะคะว่าที่นั่นคือบ้านซอล”
(ซอล…)
“บ้านหลังนั้นไม่ใช่บ้านของซอลตั้งแต่วันที่คุณแม่ไม่อยู่แล้วล่ะคะ” เธอพูดแทรกคนเป็นพ่อขึ้น
(ประภาเขาอยากเจอซอลมากเลยนะ ถามหาซอลทุกวันเลย)
“เหอะ! แม่เลี้ยงใจร้ายคนนั้นคิดถึงซอลจริงๆ อย่างนั้นเหรอคะ” เธอแค่นหัวเราะออกมาอย่่างอดไม่ได้ เพราะตั้งแต่จำความได้ ภรรยาใหม่ของคุณพ่อก็เอาแต่รังแกเธอสารพัดอย่าง และอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่เคยลบหายออกไปจากความทรงจำของเธอ
(ประภาเขารู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยทำกับซอล และเขาก็อยากขอโทษซอลกับเรื่องที่ผ่านมา)
“ถ้าไม่ธุระอะไรที่สำคัญไปมากกว่าเรื่องของผู้หญิงคนนั้น วันหลังก็ไม่ต้องโทรมาหาซอลนะคะ”
(ซอล…)
ไม่รอให้ปลายสายพูดจบก็ได้ตัดสายทิ้งอย่างไม่ไยดี ไม่ว่าจะผ่านมานานหลายปี สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นทำกับเธอในอดีตก็ไม่เคยหายไปจากความทรงจำ เธอไม่เชื่อหรอกนะว่าหล่อนจะรู้สึกผิดและอยากขอโทษเธอจริงๆ คนอย่างประภาเคยก้มหัวและลดศักดิ์ศรีทำอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ
เธอเหวี่ยงขาทั้งสองลงจากเตียงนอน ก่อนจะเดินกะเผลกไปยังห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ความเจ็บปวดจากร่องรอยการกระทำแสนป่าเถื่อนของมังกรทำให้เธอนึกสมเพชตัวเองไม่น้อย
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเธอเดินเข้ายืนหน้าเคาน์เตอร์เพื่อล้างมือ ก่อนจะใช้สายตามองสำรวจร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยแดงช้ำจากฝีมือมังกรที่ทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้า
“ฉันเกลียดคุณ…” เธอยืนพูดพึมพำคนเดียวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ภาพเหตุการณ์ตอนที่มังกรเอาเปรียบเมื่อหลายชั่วโมงก่อนยังคงลอยวนเวียนอยู่ในหัวไม่หายไปไหน
นี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เธอต้องโดนมังกรเอาเปรียบเพราะนี่คือ…จุดเริ่มต้นต่างหาก
วันต่อมา
ครืด ครืด~
เธอที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาในสภาพสวมเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวแล้วเป็นจังหวะเดียวกันที่เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้น ทำให้เธอเดินไปดูว่าใครโทรมาหา พอรู้ว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนสนิทจึงหยิบมากดรับสายอย่างไม่ลังเล
“ว่าไงพิมฐา”
(แก~ คืนนี้ว่างไหม)
“มีอะไรรึเปล่า”
(ฉันมีลางสังหรณ์ว่ายูโรมีผู้หญิงคนอื่น)
ประโยคนั้นของพิมฐาทำให้เธอเลิกคิ้วขึ้นสูงทันที ยูโรที่พูดถึงคือแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิทเธอเอง
“แกมีหลักฐานเหรอว่ายูโรมีคนอื่น”
(ก็ไม่มีหรอกนะ แต่ฉันแอบตงิดๆ ใจอะ แกก็น่าจะรู้นิว่าถ้าแฟนเรามีคนอื่น ผู้หญิงจะมีเซ้นบางอย่างทันที)
ก็จริงอย่างที่พิมฐาพูด ก่อนหน้านั้นที่เธอก็มีเซ้นเรื่องแบบนี้กับอดีตแฟนเก่าเหมือนกัน ความสงสัยทำให้เธอเริ่มสืบว่าคณินมีคนใหม่จริงหรือเปล่า แล้วในที่สุดก็รู้ว่าสิ่งที่เธอคิดมันถูกต้องหมดทุกอย่าง
(ฉันควรทำยังไงดียัยซอล คืนนี้แกไปสืบเรื่องนี้เป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม)
“สืบที่ไหน”
(ฉันแอบได้ยินยูโรคุยกับเพื่อนว่าคืนนี้จะไปดราก้อนคาสิโนกัน ฉันอยากไปดูให้แน่ใจว่าเขาได้นัดผู้หญิงคนอื่นไปด้วยรึเปล่า)
“ดะ…ดราก้อนคาสิโนอย่างนั้นเหรอ?”
(อือ แกรู้จักไหม?)
“ก็เคยได้ยินมาบ้าง…” ทำไมเธอจะไม่รู้จักล่ะ นั่นเป็นคาสิโนของมังกร ผู้ชายใจร้ายที่เพิ่งเอาเปรียบเธอไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน
(งั้นคืนนี้เจอกันที่คาสิโนเลยนะสองทุ่ม)
“เดี๋ยวสิยัย…” พูดไม่ทันจบประโยคพิมฐาก็ชิงตัดสายหนีไปก่อน เธอถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความหนักใจ เอาจริงๆ เธอไม่อยากไปเหยียบถิ่นธุรกิจสีเทาของมังกรเลย
เธอวางโทรศัพท์ลงที่เดิมแล้วเดินไปแต่งตัวเพื่อเตรียมไปทำงานทั้งที่อยากลาพักผ่อนเพราะรู้สึกไม่สบายตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เซ็กซ์ที่แสนรุนแรงและป่าเถื่อนจากมังกรแท้ๆ ที่ทำให้เธออ่อนแรงแบบนี้ อีกอย่างเธอยังไม่พร้อมจะเจอเขาด้วย
@D.G กรุ๊ป
เธอเดินเข้ามาในบริษัทยักษ์ใหญ่ของมังกร พยายามทำตัวให้เป็นปกติเหมือนทุกวันเพื่อไม่ให้คนรอบข้างสงสัยว่าเธอไปทำอะไรมา ส่วนรอยต่างๆ ที่มังกรทิ้งเอาไว้เธอใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะปกปิดจนเนียนราวกับไม่เคยมีรอยพวกนั้นบนตัว
“สวัสดีค่ะเลขาซอจิน”
“สวัสดีค่ะ” เธอทักทายพนักงานแผนกอื่นที่เข้ามาทักทายกลับด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ใช่ว่ามีคนเป็นมิตรแล้วจะไม่มีคนที่ไม่ชอบ แต่ละวันไม่มีวันไหนที่ไม่ได้ยินพนักงานคนอื่นๆ จับกลุ่มกันพูดนินทาเธอในทางเสียหาย
หากเหลืออดมากๆ เธอก็จะตอบโต้กลับไปอย่างไม่เกรงใจคนพวกนั้นเช่นกัน
เธอเดินตรงไปยังลิฟต์ ระหว่างนั้นสายตาเหลือบเห็นมังกรเดินนำคนสนิทและชายชุดดำเข้ามาในบริษัทโดยใช้ประตูอีกทางซึ่งมีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถผ่านได้ เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็น เดินผ่านหน้าไปราวกับเขาเป็นอากาศ
การกระทำของเธอผิดแปลกไปจากคนอื่นๆ เพราะพนักงานทุกคนเมื่อเห็นมังกรเดินมาเป็นต้องหยุดทำความเคารพ หากไม่เกิดเหตุการณ์เมื่อคืน เธอคงปฏิบัติกับเขาเหมือนพนักงานคนอื่นๆ
เพราะเหตุการณ์นั้นทำให้เธอกระดากที่จะปฏิบัติต่อเขาเหมือนเดิม…
ติ้ง…
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เธอก้าวออกมาแล้วเป็นจังหวะเดียวกันที่มังกรก้าวออกมาจากลิฟต์ของผู้บริหาร เธอเลือกที่จะเมินเขาแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของตัวเองซึ่งตั้งอยู่หน้าห้องทำงานของประธานบริษัทสูงสุด
“ตามฉันเข้ามาในห้อง” มังกรออกคำสั่งเสียงเข้มกับเลขาสาวที่กำลังหย่อนตัวนั่งลงเก้าอี้ทำงาน เขาพูดโดยไม่มองหน้าหญิงสาวแล้วเดินหายเข้าไปในห้องทำงาน
เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วเดินตามมังกรเข้าไปในห้องทำงาน พอเธอเดินผ่านพ้นขอบประตูเข้ามาก็ถูกแรงมหาศาลกระชากต้นแขนเข้าไปหาโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้ร่างเธอเซถลาไปปะทะเข้ากับแผงอกกำยำของมังกร
พรึ่บ!
“อ๊ะ!!” วินาทีที่เผลอสบตากับนัยน์ตาดำขลับแสนเย็นชา หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวพลันสั่นกระตุกขึ้นมาทันใด
“ที่ทำเมื่อกี้ เธอกำลังท้าทายฉันอยู่ใช่ไหม”
“คุณพูดเรื่องอะไร ฉันไม่เข้าใจ” เธอรู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร เพียงแค่เธอแสร้งทำเป็นไม่รู้เท่านั้น
“หึ เดี๋ยวเธอก็ได้รู้ว่าฉันหมายถึงเรื่องอะไร”
“ว้าย!!!” เธอร้องออกมาเสียงหลงเมื่อมังกรผลักร่างของเธอลงไปบนโซฟา ก่อนที่เขาจะเข้ามาคร่อมร่างเธอเอาไว้ การกระทำนั้นเริ่มทำให้เธอกลัวว่าเขาจะทำเรื่องแบบนั้นกับเธออีกที่นี่ “คะ…คุณจะทำอะไร!”
“กลัว?”
“ที่นี่บริษัท ถ้าคนอื่นเข้ามาเห็นเขาจะคิดยังไงถ้าเห็นเราสองคน…”
“ถ้าฉันเอาเธอ ที่ไหนฉันก็จะเอา”
เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไป คนอย่างเขาเวลาทำอะไรไม่เคยอายใครอยู่แล้ว วันหนึ่งเธอไปเที่ยวไนต์คลับเห็นเขายืนจูบกับผู้หญิง เขารู้ว่าเธอเดินมาเห็นแต่ก็ไม่ยอมหยุดการกระทำนั้น เชื่อแล้วว่าเวลาที่เขาคิดจะทำอะไร…เขาไม่เคยสนใจสถานที่
“แปลกนะ เมื่อก่อนเธออวดดีมากกว่านี้ แต่หลังจากโดนฉันเอาไปไม่รู้กี่รอบกลับเชื่องเหมือน…”
“อย่าเอาฉันไปเปรียบเทียบกับอย่างอื่น” เธอสวนกลับด้วยความไม่พอใจ รู้ว่าเขาจะเอาเธอไปเปรียบเทียบกับอะไรหากไม่ใช่สัตว์เลี้ยง
“บางทีถ้าเธอเป็นเด็กดีและเชื่อฟัง เซ็กซ์รอบหน้าฉันอาจจะอ่อนโยนกับเธอ” เขาพูดพร้อมเลื่อนมือขึ้นมาลูบไล้กรอบหน้ารูปไข่ของซอจิน ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมายังลำคอระหง รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นเมื่อไม่เห็นรอยรักที่ทิ้งเอาไว้ “เธอกล้าปิดรอยของฉันเอาไว้อย่างนั้นเหรอ?”
“ฉันแค่ไม่อยากให้คนอื่นเห็น ไม่อยากให้พวกเขาตั้งคำถามว่าได้รอยพวกนี้มาจากไหน” ลำพังทุกวันนี้ในบริษัทก็มีคนคอยจับผิดเรื่องของเธอไปนินทา หากพกพารอยรักที่มังกรสร้างไว้มาทำงานด้วย คนพวกนั้นนินทาเธอสนุกปากแน่
“….”
“ถ้าคุณจะทำรอย คุณก็ต้องอนุญาตให้ฉันปิดเอาไว้ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่อนุญาตให้คุณรอยพวกนั้นทิ้งไว้บนตัวฉัน”
“เธอไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะออกคำสั่งกับฉันได้”
“ร่างกายนี้มันเป็นของฉันไม่ใช่ของคุณ ฉะนั้นฉันจะทำอะไรก็ได้เพราะมันคือสิทธิ์ของฉัน”
“ตราบใดที่ฉันเป็นคนลิขิตชะตาชีวิตเธอ ร่างกายเธอมันก็เป็นของฉัน”
แววตาคมเข้มที่เธอกำลังมองเริ่มจุดประกายความน่ากลัวออกมาหลังจากพูดประโยคนั้นจบ เขาน่ากลัวจริงๆ
“เป็นเด็กดีและเชื่อฟัง เธอจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว”