“คุณหนูร้องไห้เจ้าค่ะ” เจาซื่อมองคนสนิทที่กลับมารายงานพลางเช็ดน้ำตาป้อยๆ หากเมื่อครู่เจาซื่อเพียงสีหน้าอึมครึม ตอนนี้ก็นับว่ามืดครึ้ม กระทั่งส่งมือดีอย่างตู้มามาไปก็ยังเอาตัวหลานสาวมาไม่ได้ “แน่ใจหรือว่ามิใช่เป็นเพราะสตรีผู้นั้น” น้ำเสียงที่ถามเย็นชาเต็มไปด้วยแววกังขา “นางไม่ได้ทำอะไรเลยเจ้าค่ะ เพียงยืนร้องไห้มองบ่าวอุ้มคุณหนูออกมา คุณหนูช่างน่าเวทนา พอไม่เห็นมารดาก็ร้องไห้จนแขนขาเกร็งไปหมด บ่าวไม่กล้าฝืนใจจึงต้องรีบอุ้มนางไปคืนมารดา” สีหน้าของเจาซื่อเคร่งขรึม เดิมทีไม่คิดไปเหยียบเรือนหลังนั้น แต่ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงหลานสาวจึงจำต้องวางทิฐิลง ตัดสินใจจะแวะไปดูด้วยตัวเองเสียหน่อย หากเป็นเพราะสตรีผู้นั้นเล่นลวดลาย ก็จะได้ถือโอกาสจัดการด้วย ฮูหยินใหญ่ตรงไปยังเรือนเล็กพร้อมกับขบวนผู้ติดตาม เหมยฮวามาเปิดประตู พอเห็นเป็นฮูหยินใหญ่ก็ตกใจจนมือไม้สั่น เจาซื่อไม่สนใจใคร ตรงเข้าไปในเรือน